ผู้ชนะเลศคือราชา นิยาย บท 41

สรุปบท บทที่ 41 สารภาพอย่างฉับพลัน: ผู้ชนะเลศคือราชา

ตอน บทที่ 41 สารภาพอย่างฉับพลัน จาก ผู้ชนะเลศคือราชา – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 41 สารภาพอย่างฉับพลัน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต ผู้ชนะเลศคือราชา ที่เขียนโดย ถังจิ่ว เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 41 สารภาพอย่างฉับพลัน

พอร์เชอ911ขับเคลื่อนอยู่บนถนนอย่างรวดเร็ว

ภายในรถเฉินตงพูดกับกู้ชิงหยิ่งอย่างซาบซึ้งใจ“ขอบคุณคุณมากนะสำหรับเมื่อกี้”

ท่าทางเมื่อสักครู่นี้ของกู้ชิงหยิ่งทำให้เขาคาดไม่ถึงเป็นอย่างยิ่ง

ซึ่งในความทรงจำ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่กู้ชิงหยิ่งเสียมารยาท

แต่ทว่าเฉินตงเข้าใจดี ทุกสิ่งที่กู้ชิงหยิ่งกระทำก็เพื่อช่วยเหลือนั่นเอง

“บ้านพวกหล่อนทำเกินไปจริงๆ”เห็นได้ชัดว่ากู้ชิงหยิ่งยังคงหงุดหงิดอยู่“คุณต้องพบเจอความลำบากมากขนาดนั้น ฉันสงสาร”

เฉินตงยิ้มชื่นบาน“แต่ท่าทางโกรธของคุณน่ารักมากเลย”

สำหรับบ้านตระกูลหวางกับหวางหนันหนัน หลังจากที่หวางหนันหนันเอาเงินจำนวนสองแสนหยวนสำหรับช่วยชีวิตแม่ของเขาไป เขาก็หมดใจจนหมดสิ้นแล้ว

การกระทำที่ไม่สนใจแม้กระทั่งชีวิตแม่ของเขา ถึงแม้เขาจะรักหวางหนันหนันมากเพียงใด แต่ก็เพียงพอต่อการเฉื่อยชาได้เลย

ไม่ว่าจะท่าทางของตระกูลหวางหรือความลำเอียงใจของหวางหนันหนัน

เขาก็รู้สึกว่าการกระทำของกู้ชิงหยิ่งเมื่อสักครู่นั้นไม่มีอะไรไม่ถูกต้องเลย

ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าหากกู้ชิงหยิ่งไม่ได้อาละวาดเสียก่อน การตอบสนองของเขาคงต้องรุนแรงกว่ากู้ชิงหยิ่งเป็นแน่

มองดูการจราจรที่รวดเร็วกับเหาะบินของรถ เฉินตงเอ่ยขึ้นมาว่า“คุณขับรถเร็วเกินไปแล้ว”

“หงุดหงิดไง”กู้ชิงหยิ่งมุ่ยปาก ตั้งใจมองด้านหน้า แววตามีความล่องลอยราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่

ภายในรถเงียบสงัดลง

“เฉินตง……”

รอแสนนาน จู่ๆเสียงของกู้ชิงหยิ่งก็ดังขึ้นมากะทันหัน

เฉินตงเอียงหน้าไปมองกู้ชิงหยิ่ง“ทำไมเหรอ?”

ริมฝีปากแดงของกู้ชิงหยิ่งกระอักกระอ่วนราวกับได้รวบรวมความกล้า ก่อนจะเอ่ยว่า“สิ่งที่ฉันพูดเมื่อกี้ล้วนจริงใจทั้งสิ้น”

เฉินตงมีสีหน้าตกตะลึง

เสียงดังเอี๊ยด!

พอร์เชอ911จอดเทียบบนถนนข้างแม่น้ำ

กู้ชิงหยิ่งยกมือขึ้นปัดผมบริเวณใบหน้าให้ไปอยู่ด้านหลัง ดวงตากลมโตราวกับอัญมณีสบตาเฉินตงอย่างจริงจัง “คุณรู้ไหมว่าทำไมจู่ๆฉันถึงกลับเข้าประเทศ?”

เฉินตงสบตากับกู้ชิงหยิ่งอย่างแข็งค้าง

กำลังปริปากพูด แต่กู้ชิงหยิ่งก็ชิงพูดเสียก่อน“เพราะว่าคุณ ฉันชอบคุณ ที่ฉันกลับประเทศก็เพราะจะจีบคุณ!”

ภาพที่เกิดขึ้นกะทันหันเช่นนี้ทำให้เฉินตงตกใจจนทำอะไรไม่ถูก

เขาแสร้งทำเป็นเรียบเฉยพลางอมยิ้ม“อันนี้ถือว่าเป็นสารภาพรักหรือเปล่า?”

กู้ชิงหยิ่งพยักหน้าอย่างตั้งอกตั้งใจ“ฉันชอบคุณมาโดยตลอด ตั้งแต่เรียนปีสองแล้ว แต่คุณรักหวางหนันหนันมาเสมอ ดังนั้นฉันจึงเก็บซ่อนไว้ในใจ ตอนที่พวกคุณแต่งงาน ฉันก็เป็นเพื่อนเจ้าสาวให้พวกคุณ ตอนนั้นฉันอวยพรให้พวกคุณรักกันตลอดไป แต่……”

หยุดชะงักกะทันหัน กู้ชิงหยิ่งก้มหน้าสงบสติอารมณ์แล้วกล่าวต่อ“แต่ฉันคิดไม่ถึงว่าตระกูลหวางจะทำเช่นนี้กับคุณ ฉันรู้เรื่องหลายปีมานี้ดี ฉันรู้สึกสงสาร……”

อารมณ์ที่เพิ่งควบคุมได้เมื่อสักครู่ ได้แล่นพล่านขึ้นมาอีกครั้ง

ครั้งนี้น้ำตานองดวงตาของกู้ชิงหยิ่ง จากนั้นก็ไหลลงมาอย่างระงับไม่อยู่

“ฉันรู้ว่าสามปีมานี้คุณแบกรับอะไรไว้มากมาย ฉันไม่กล้าจินตนาการเลยว่าคุณผ่านหนึ่งเดือนนี้มาได้ยังไง ฉะนั้นพอฉันรู้ว่าคุณหย่ากับหวางหนันหนันแล้ว ฉันก็มีความคิดที่จะกลับเข้าประเทศ ฉันอยากอยู่เป็นเพื่อนคุณ ฉันอยากช่วยแบ่งเบาภาระของคุณ ถึงจะได้แค่พิงไหล่ของคุณก็พอใจ”

เห็นกู้ชิงหยิ่งร้องไห้ เฉินตงก็กระวนกระวายขึ้นมาทันที

เขาไม่เคยสังเกตถึงความรักที่กู้ชิงหยิ่งมีต่อเขาเลย ตั้งแต่พวกเขารู้จักกันที่รั้วมหาวิทยาลัยก็เล่นตบตีกันมาโดยตลอด

สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฉินตงเอากระดาษทิชชูขึ้นมาเช็ดน้ำตาที่หางตาของกู้ชิงหยิ่ง

เขายิ้มฝืดๆแล้วค่อยๆพูดขึ้นมา“มันไม่ยุติธรรมกับคุณหรอก ผมเพิ่งหย่ากับหวางหนันหนันไม่นาน”

กู้ชิงหยิ่งไม่เคยมีแฟนหนุ่มมาก่อน แต่เขากลับเป็นผู้ชายที่เคยหย่ากับหวางหนันหนันมาแล้ว

“ฉันไม่ใส่ใจ”

ดวงตากู้ชิงหยิ่งหนักแน่น“สามปีที่ฉันอยู่ต่างประเทศ พ่อแม่ไม่ใช่ไม่เคยให้ฉันคบกับคนอื่นมาก่อน แต่ฉันลืมคุณไม่ได้ ถึงคนพวกนั้นจะดีเลิศแค่ไหน แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ทุกครั้งที่อยู่กับพวกเขาสมองของฉันก็มีแต่คุณเต็มไปหมด”

เฉินตงยิ้ม พูดแกล้งแหย่ว่า“ไม่รุนแรงถึงขั้นนั้นหรอก?ผมมีเสน่ห์ขนาดนั้นเลยเหรอ?”

แต่อย่างนี้……จะยุติธรรมกับกู้ชิงหยิ่งเหรอ?

เฉินตงนั่งเหม่อลอยด้วยอารมณ์ตึงเครียดเป็นอย่างยิ่ง

จากที่เขาเป็นคนไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน เวลานี้ก็อยากจุดบุหรี่สูบดูสักมวน เพื่อคลายความเครียดลง

ชาติตระกูลของตนกับกู้ชิงหยิ่งนั้นต่างกันราวฟ้ากับดิน

ยิ่งไปกว่านั้น เพราะชาติกำเนิดทำให้ตอนเขาแต่งงานกับหวางหนันหนันก็รู้สึกตัวเองฝ่ายสูงแล้ว ฉะนั้นหลังแต่งงานจึงได้ขยันทำงานสุดชีวิต เพื่อทำงานหาเงินให้ได้มากที่สุด

แต่สิ่งที่แลกมาคือเกือบจะช่วยชีวิตแม่เขาไม่ได้

หากไม่ใช่ท่านหลง……

นึกมาถึงจุดนี้ ดวงตาเฉินตงก็เปล่งประกายขึ้น

เขาเอามือล้วงกระเป๋าบัตรเอทีเอ็มลายชงโคในกระเป๋ากางเกง จู่ๆก็ยิ้มเย้ยหยันตัวเองขึ้นมา

“ใช่สิ กู้ชิงหยิ่งไม่ถือสา ผู้หญิงสามารถทำถึงขั้นนี้แล้ว ตัวเองยังถือสาอะไรอีก?”

ขนาดที่พึมพำอยู่ เฉินตงก็เอามือถือออกมาส่งข้อความผ่านวีแชทให้กู้ชิงหยิ่ง

“ขอโทษด้วยเมื่อกี้ผมไม่น่าจากมา”

พอผ่านไปสักพัก เขาก็ส่งอีกข้อความหนึ่ง

“ผมคิดว่าพวกเราลองคบดูกันได้”

ช่วงเวลาสั้นๆ เขาก็คิดถึงคำพูดของกู้ชิงหยิ่งอีกครั้ง ขมวดคิ้วแล้วส่งเป็นข้อความที่สามผ่านวีแชท

“แต่คุณต้องรับปากผม ไม่ช่วยผม ผมไหวอยู่ ไม่นานผมจะมีเซอร์ไพรส์ให้คุณ ตอนนี้สถานะของผมไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คุณคิด ยิ่งไปกว่านั้น……ผมไม่อยากกินข้าวอ่อน(เกาะผู้หญิงกิน)”

ติ๊ง!

ในที่สุดกู้ชิงหยิ่งก็ได้ตอบกลับทางวีแชทเสียที

เนื้อหานั้นเรียบง่าย แต่กลับทำให้เฉินตงมึนงงทำตัวไม่ถูก

“อิอิอิ……คุณเคยกินแล้วนี่”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้ชนะเลศคือราชา