บทที่ 42 เอาให้ถึงตาย
ประโยคสุดท้ายที่กู้ชิงหยิ่งตอบ
ทำให้เฉินตงไม่เข้าใจความหมายเสียเลย
กลับมาถึงห้องเช่า ภายในห้องรับแขกยังมีไฟเปิดสว่างอยู่
คุนหลุนนั่งหลับตาอยู่บนโซฟา
เฉินตงยิ้ม“คุนหลุนยังไม่พักผ่อนอีกเหรอ?”
“คุณชายครับ ท่านหลงได้โทรศัพท์มาครับ”
คุนหลุนลืมตาขึ้น พูดอย่างมีความเคร่งขรึมเล็กน้อย“ท่านหลงออกจากบ้านกลางดึก ส่วนเฉินเทียนหย่างไม่ได้ไปจากเมืองนี้”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”เฉินตงถาม
ท่านหลงคือคุณพ่อผู้ซึ่งไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนส่งมาช่วยเหลือตน ตอนนี้เร่งรัดกลับบ้าน คงต้องเกิดเรื่องใหญ่เป็นแน่
ยิ่งไปกว่านั้น น่าจะเกี่ยวข้องกับเฉินเทียนหย่างด้วย ไม่เช่นนั้นคุนหลุนไม่เอาสองเรื่องมาพูดรวมกันหรอก
“ตอนนี้ยังไม่รู้ครับ”คุนหลุนส่ายหัว“แต่ตอนที่ท่านหลงคุยทางโทรศัพท์เหมือนจะเกี่ยวข้องกับเฉินเทียนหย่างครับ”
ทันใดนั้นเฉินตงรู้สึกตลกสิ้นดี
คุณพ่อที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาก่อนบอกให้เขากลับไปสายงานของตระกูลต่อ แต่เฉินเทียนหย่างคนเดียวก็สามารถทำให้ผู้ช่วยของพ่ออย่างท่านหลงต้องกลับไปตอนกลางดึก
ราวกับว่า……คุณพ่อคนนั้นไม่ค่อยมีอิทธิพลความสามารถในตระกูลสักเท่าไหร่?
คล้ายกับรู้ความคิดของเฉินตง คุนหลุนจึงอธิบายว่า“คุณชายครับ ตระกูลเฉินไม่ธรรมดาเลยครับ และอำนาจภายในก็ไม่สมดุลกันอย่างรุนแรงครับ ดังนั้นคุณท่านก็อาจมีเรื่องติดขัดอยู่เป็นบางครั้ง”
“ช่างเขาเถอะ”
เฉินตงโบกมือไม่ได้ใส่ใจอะไร
ตอนที่โครงการเปลี่ยนโฉมย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองคืบหน้าไปอย่างราบรื่น บททดสอบครั้งนี้เกือบได้คะแนนเต็มแล้ว ซึ่งเพียงพอให้คุณพ่อภาคภูมิใจได้เลยทีเดียว
ถึงแม้ท่านหลงจะไม่อยู่ข้างกาย และยังมีเฉินเทียนหย่างอยู่ในเมืองอีก แต่เขาก็รู้สึกว่าคงไม่เกิดปัญหาใหญ่อะไรขึ้นมาทันทีหรอก
ตระกูลเฉินถึงจะมีบารมีค้ำฟ้า
แต่จะมาถึงในเมืองนี้ได้เชียวเหรอ?
ถึงแม้เฉินเทียนหย่างจะเป็นมังกรแกร่งกล้า แต่ก็ไม่อาจเอาชนะเขาที่เป็นงูเจ้าถิ่นในเมืองนี้ได้หรอกมั้ง?(คือสำนวน)
เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น
เฉินตงตื่นเช้าตรู่เฉกเช่นปกติ เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางร่างกายและฝึกวิชาการต่อสู้มือเปล่ากับคุนหลุน จากนั้นก็เดินทางไปที่บริษัท
อสังหาริมทรัพย์ไท่ติ่ง
ระหว่างทางเขาได้โทรหาฟ่านลู่ กำชับเธอว่าห้ามคนอื่นเข้าใกล้ เพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนต่ออาการป่วยของคุณแม่
เมื่อวานพบหวางหนันหนันที่โรงพยาบาลโดยบังเอิญ ด้วยนิสัยของตระกูลหวางคงไม่ยอมเลิกรากันง่ายๆหรอก
ยุ่งงานจนถึงเที่ยง จู่ๆเสี่ยวหม่าก็พุ่งเข้ามาในห้องทำงาน
“ไม่ดีแล้วพี่ตง ธุรกิจค้าขายวัสดุก่อสร้างทั่วทั้งเมืองประกาศไม่ยอมขายให้กับไท่ติ่งของเรา รวมทั้งบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ด้วยครับ”
สีหน้าเฉินตงมืดครึ้มขึ้นมากะทันหัน
แม้แต่เขาก็ตกตะลึงกับคำพูดของเสี่ยวหม่า
ไท่ติ่งรับทำโครงการปรับโฉมย่านสลัมที่ภาคตะวันตกของเมืองมา ตอนนี้นับว่ามีหน้ามีตาในเมืองแห่งนี้ไม่น้อย หากกลุ่มธุรกิจค้าขายวัสดุก่อสร้างไม่มีน้ำเข้าสมอง คงไม่ตัดสินใจกระทำเช่นนี้เด็ดขาด
อีกทั้งเมื่อวานเพิ่งจะเซ็นสัญญารับซื้อวัสดุก่อสร้างกับบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่หมาดๆนี่!
เสี่ยวหม่าร้อนรนจนเหงื่อเต็มหน้าผาก“พี่ตงครับ เรื่องนี้ใหญ่มากนะครับ ผมได้ติดต่อกับประธานจางของบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่แล้วครับ เขาแจ้งมาว่ายินดีชดใช้ค่าผิดสัญญาครับ ถ้าหากบริษัทของพวกเราถูกทุกบริษัทในเมืองต่อต้านเช่นนี้ โครงการแปลงโฉมก็ต้องชะลอตัวออกไป งานก่อสร้างก็ต้องหยุดดำเนินการจนกว่าจะหาบริษัทค้าวัสดุก่อสร้างจากแหล่งนอกเมืองมาได้……”
“ผมรู้”เฉินตงตัดบทเสี่ยวหม่า หากเริ่มดำเนินการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์เมื่อใด ทุกวินทีก็จะมีความหมาย ซึ่งต้องใช้เงินด้วยกันทั้งสิ้น ระหว่างที่รอหาบริษัทวัสดุก่อสร้างใหม่มาได้ ช่วงนี้ก็เพียงพอให้ไท่ติ่งของพวกเขาขาดทุนอย่างย่อยยับได้เลย!
สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จู่ๆเฉินตงก็พูดเสียงเบาว่า“เป็น……คุณหรือเปล่าครับ?”
เวลาเดียวกัน
บริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่
ปัง!
กู้ชิงหยิ่งโยนเอกสารลงบนโต๊ะด้วยความโมโห ใบหน้าสวยงามกำลังมีเพลิงโกรธอยู่ จ้องเขม็งจางเห้อหมิง “ประธานจาง คุณทำอย่างนี้หมายความว่ายังไง?เมื่อวานเพิ่งเซ็นขายวัสดุให้แก่ไท่ติ่ง วันนี้ทำไมบริษัทวัสดุก่อสร้างยิงลี่ของพวกเราก็ร่วมประกาศต่อต้านขึ้นมาด้วย?”
เธอก็เพิ่งจะรู้เรื่องเมื่อสักครู่นี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้ชนะเลศคือราชา