บทที่ 6 แพะรับบาป
เช้าตรู่ หลินเสว่เอ๋อตื่นขึ้นมาจากความฝัน
ภายในห้องเหลือเพียงเธอแค่คนเดียว
เธอลุกขึ้นมานั่งด้วยความเมื่อยล้า ห่อตัวเข้าหาผ้าห่มอย่างโศกเศร้า เมื่อคืนอาการเมาค้างทำให้หัวของเธอยังไม่ค่อยมีสติ
ทันใดนั้น หางตาที่เหลือของเธอก็เหลือบไปเห็นแผ่นข้อความที่ตรงหัวเตียง
พอหยิบขึ้นมาดู ทันใดนั้นก็ทำให้ความรู้สึกอดสูในใจของเธอนั้นระเบิดออกมาอีกครั้ง
“คุณ.......คงจะเคยเล่นโยคะมาก่อนใช่ไหม?”
ต่อให้เฉินตงจะไปแล้ว แต่ว่าเธอยังคงรู้สึกได้ถึงการล้อเลียนผ่านตัวอักษร
ขยุ้มผมอย่างกลุ้มใจ หลินเสว่เอ๋อมีความรู้สึกเหมือนไม่รู้จะเอาความโมโหโยนไปไว้ที่ไหนได้แต่เก็บเอาไว้
แต่ว่าที่ทำให้เธอดีใจก็ดี อีกฝ่ายถึงกับทิ้งข้อความเอาไว้แบบนี้ อย่างนั้นเรื่องเมื่อวานก็คงจะนับว่ายกโทษให้แล้ว
และในเวลานี้พอดี หวางเห้าก็โทรมาหา
“เสว่เอ๋อ เสว่เอ๋อ เธอรีบๆล็อกอินเข้ามาดูคะแนนฉันสิ เมื่อคืนฉันน่ะสุดยอดมากๆเลยนะ ได้MVPติดกันสิบตาเลยล่ะ!”
น้ำเสียงตื่นเต้นในโทรศัพท์ของหวางเห้า ทำให้หลินเสว่เอ๋อเป็นบ้า แกคิดแต่เล่นเกม?
เธอระเบิดออกมาเลยทันที “หวางเห้า เธออายุเท่าไหร่แล้ว ยังไร้สาระขนาดนี้อีกเหรอ? ที่สั่งให้เธอไปเตรียมค่าสินสอดมา เมื่อไหร่เธอถึงจะเตรียมให้ฉันได้สักที? ตกลงนี่เธอยังอยากแต่งงานอยู่หรือเปล่า? จะมาสู่ขอฉันไหม?”
ปลายสายอีกฝั่งอย่างหวางเห้ารู้สึกไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ เงียบไปไม่กี่วินาที ก็รีบพูดขึ้นมา “เสว่เอ๋อเธออย่าโกรธสิ ครอบครัวของเรากำลังพยายามเก็บเงินอย่างหนักอยู่ ต้องโทษไอ้เฉินตงคนชาติชั่วไร้ประโยชน์ เร็วๆนี้แหละ อีกไม่นานผมก็จะได้สู่ขอคุณแล้ว”
เฉินตง?!
ร่างกายอ้อนแอ้นของหลินเสว่เอ๋อสั่น คนเมื่อคืนก็ชื่อเฉินตงเหมือนกัน!
ตามความสามารถเดิม เธอเปิดปากถามขึ้น “ใครคือเฉินตง? เฉินตงที่เธอบอกมีเงินเยอะอย่างนั้นเหรอ?”
“มีเงินกับผีน่ะสิ!”
หวางเห้าด่าทอออกมา “เป็นพี่เขยไร้ประโยชน์ของผมเอง เป็นชายหงส์(ผู้ชายที่เกิดในบ้านยากจนและเข้ามหาวิทยาลัยโดยความพยายาม จบเรียนแล้วก็ดำเนินชีวิตที่เมือง)คนหนึ่ง หลังจากที่พี่สาวของผมแต่งงานกับเขาก็ย้ายออกไปเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน เขามีเงินก็สบายไปแล้ว”
หลินเสว่เอ๋อส่ายหน้า หัวเราะเยาะตัวเอง เฉินตงที่ออกมาจากปากหวางเห้า ชัดเจนเลยว่าไม่ใช่ผู้ที่ถือบัตรธนาคารลายดอกชงโคคนนั้น
“เสว่เอ๋อ เธอรอก่อนนะ พ่อแม่ของฉันกับพี่สาวของฉันกำลังช่วยฉันเก็บเงินอยู่ ไม่นานก็จะเก็บเงินครบแล้ว”
ปลายสายหวางเห้าที่พูดถึงเฉินตงขึ้นมา ดูเหมือนกรุ่นก็ปะทุขึ้นมาด้วยเหมือนกัน “ถ้าไม่ใช่เพราะว่าไอ้พี่เขยเฮงซวยคนนั้นของผม อ้อ ไม่ใช่ อดีตพี่เขยไร้ประโยชน์ ตอนนี้พวกเราสองคนก็คงจะมีงานเลี้ยงไปแล้ว”
“เกี่ยวอะไรกับเขา?” หลินเสว่เอ๋อสงสัย
“เขาแต่งงานกับพี่สาวผม ก็คือพี่เขยของผม ผมที่เป็นน้องชายจะแต่งงาน เขาก็ควรจะช่วยสักหน่อยไม่ใช่เหรอ? เขากลับกันเลย มัวแต่เอาเงินไปเททิ้งไว้กับแม่ที่กำลังจะตายที่อยู่ในโรงพยาบาล ไม่ใช่แค่ไม่ช่วยผม แถมยังหย่ากับพี่สาวผมอีก เธอว่าเขาชาติชั่วหรือไม่ชาติชั่ว?”
ริมฝีปากแดงเรื่องของหลินเสว่เอ๋อขยับ อยู่ๆก็มีความรู้สึกเหมือนกินแมลงวันเข้าไปอย่างไรอย่างนั้น
เธอพูดขึ้นอย่างเสียอารมณ์ “เอาอย่างนี้ก่อนแล้วกัน เมื่อคืนฉันทำงานล่วงเวลามาทั้งคืน ขอนอนก่อน” จากนั้นก็ตัดสายโทรศัพท์ทิ้ง
เวลาหนึ่งอาทิตย์หลังจากนั้น เฉินตงยุางไปมาระหว่างบ้านเช่ากับโรงพยาบาล ทุ่มเทไปกับการดูแลมารดา
หลังจากที่เข้ารับการเปลี่ยนถ่ายตับ ร่างกายของมารดาก็กำลังฟื้นตัวอย่างมั่นคง จากการตัดสินของแพทย์ ไม่นานก็สามารถที่จะกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านได้แล้ว
ส่วนเรื่องของหลินเสว่เอ๋อ เขาไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย
เรื่องในคืนนั้น เป็นแค่เพียงความคิดที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ถ้าเกิดว่าไม่ใช่เพราะเจอเข้ากับหวางเห้า บวกกับถ้าไม่ใช่เพราะหวางเห้ามาพูดจาเย้ยหยันดูถูกเหยียดหยามเขา เขาก็ไม่มีทางที่จะใช้หลินเสว่เอ๋อเป็นเครื่องโจมตี
วันนี้ตั้งแต่เช้าตรู่ เฉินตงดูแลแม่มาทั้งคืน เตรียมที่จะกลับบ้านไปพักผ่อนสักครู่ เพิ่งจะเดินออกมาจากโรงพยาบาล ก็มีสายจากบริษัทเรียกเข้า
“เฉินตง มึงแม่งไปตายห่าที่ไหนแล้ว?” เพิ่งจะรับสาย อีกฝั่งของสายก็มีเสียงแหลมดังของผู้ชายดังขึ้น
คิ้วของเฉินตงขมวดเข้าหากัน ปลายสายของโทรศัพท์เป็นเจ้านายของเขาที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ เจ้าหลี่
ในตอนแรกที่แม่ป่วยหนัก เขาไปขอเจ้าหลี่หยุดงานหนึ่งสัปดาห์ ช่วงเวลานี้มีเรื่องเข้ามาติดกันทีละเรื่องๆ จนทำให้ลืมเรื่องที่หยุดงานไปเสียสนิท
“ขอโทษครับเจ้าหลี่ แม่ของผมเข้าโรงพยาบาล” เฉินตงพูด
“ตายหรือยัง? แม่ของมึงตายหรือยัง? ยังไม่ตายมึงก็กลับมาทำงานเดี๋ยวนี้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้ชนะเลศคือราชา