บทที่ 74 โยนมันออกไป!
หลังจากได้รับสายจากผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลแล้ว
เฉินตงก็อดยิ้มอย่างเหยียดหยามไม่ได้
สามปีที่แต่งงานไป เขารู้ดีสำหรับนิสัยใจคอของคนในตระกูลหวาง
ดังนั้นหลังจากที่เขาย้ายเข้าไปอยู่ในวิลล่าเขาเทียนซาน เขารู้ว่าจาวซิ่วจือต้องมาหาถึงที่และเขาก็ได้แจ้งกับนิติบุคคลไปแล้ว
ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม ต้องแจ้งเขาให้ทราบก่อนและไม่ต้องแจ้งให้แม่ของเขาทราบ
แม้ว่าแม่ของเขาจะพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ในช่วงระยะการพักฟื้น เขาไม่อยากให้แม่ของเขาต้องคิดมาก
โดยเฉพาะเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาด้วย
แม่เหนื่อยมามากพอแล้ว เขาไม่อยากเพิ่มภาระให้แม่ของเขาอีก
“คุณเฉินครับ จะเอายังไงดีครับ?”
ผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลถาม
เฉินตงเลิกคิ้ว “ตอนนี้ผมยังโสด แล้วจะมีแม่ยายได้ยังไง?”
ผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลเงียบไปสักพัก จากนั้นค่อยพูดต่อ “ครับผม ผมเข้าใจแล้วครับ”
หลังจากวางสายลง สีหน้าของเฉินตงดูเย็นชาเล็กน้อย
เขาไม่ได้เป็นคนที่ไม่เด็ดขาดเลย อีกอย่างความสัมพันธ์ของเขากับหวางหนันหนันก็จบกันไปนานแล้ว
ครั้งหนึ่งตระกูลหวางเคยเพิกเฉยต่อเขา และตอนนี้เขาก็จะทำให้ตระกูลหวางไม่สามารถยืนขึ้นได้
ชนิดที่ว่าเข้าประตูไม่ได้ด้วยซ้ำ!
ณ สำนักงานนิติบุคคลของวิลล่าเขาเทียนซาน
แววตาของผู้จัดการที่เพิ่งวางสายลงก็เปล่งประกายออกมา
วิลล่าเขาเทียนซานเป็นของโจวเย่นชิว และบริษัทนิติบุคคลก็อยู่ภายใต้บริษัทอสังหาริมทรัพย์ของโจวเย่นชิวเช่นกัน
หลังจากที่เฉินตงซื้อวิลล่าเขาเทียนซาน โจวเย่นชิวก็ออกคำสั่งโดยตรงไปยังประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์ เพื่อมอบหมายงานของเฉินตงให้ทางบริษัทนิติบุคคลนี้
ดังนั้นผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลจึงพอรู้จักเฉินตงอยู่บ้าง
และเขาก็รู้ว่าทั้งชายและหญิงหน้าที่อยู่หน้าประตูวิลล่านั้น เป็นอดีตพ่อตาแม่ยายของเฉินตงจริงๆ!
“โกงได้แม้กระทั่งเงินค่ารักษาพยาบาลคุณแม่ของคุณเฉิน แล้วตอนนี้เห็นคุณเฉินฐานะดีขึ้นก็คิดจะมาเลียแข้งเลียขาถึงที่? หน้าด้านจริงๆ!”
ผู้จัดการฝ่ายนิติบุคคลยิ้มอย่างเย็นชา จากนั้นออกคำสั่งในวิทยุสื่อสารว่า “ไล่พวกมันไปให้พ้น!”
หน้าประตูวิลล่า
ขณะนี้ความวุ่นวายก็ทวีคูณขึ้น
จาวซิ่วจือทั้งดุด่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนนั้น และถึงขั้นลงไม้ลงมือกับพวกเขาอย่างไม่หยุดยั้ง
จนกระทั่งชุดของเจ้าหน้าที่ทั้งสองฉีกขาดและรอยฝ่ามือบนใบหน้าก็เพิ่มขึ้นด้วย
แต่พวกเขาไม่กล้าทำการโต้ตอบใดๆ ก่อนที่จะได้รับอนุญาต เพราะผลที่ตามมาอาจจะมีปัญหาภายหลังต่อหน้าที่การงานของพวกเขาได้
หวางเต๋อทำได้เพียงกุมหัวแล้วถอนหายใจอยู่ข้างๆ เพราะจาวซิ่วจือ เขาจึงไปไหนไม่ได้
โดยรอบนั้น เริ่มมีคนเข้ามามุมดูกันแล้ว
ผู้คนเหล่านั้นล้วนเป็นผู้ที่อาศัยอยู่หรือเป็นพี่เลี้ยงอยู่ในวิลล่านี้
ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในวิลล่านี้ ทุกคนก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เหมือนกัน
คนที่สามารถพักอยู่ในชุมชนแห่งนี้ล้วนจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีทุกคน ไม่มีใครทำตัวก้าวร้าวต่อหน้าสาธารณะแบบนี้
“มองอะไร? กลับบ้านไปมองแม่ไป!”
เมื่อจาวซิ่วจือได้ยินเสียงวิจารณ์ของคนอื่น เธอก็ชี้หน้าด่าพวกเขาด้วยความโกรธทันที
หวางเต๋อไม่สามารถทนฟังได้อีกต่อไป เขาจึงเดินเข้าไปดึงชายเสื้อจาวซิ่วจือแล้วพูดกับเธอว่า “พอเถอะ เข้าไม่ได้เราก็กลับกันก่อนดีกว่า?”
“กลับบ้าอะไร! เรามาหาลูกเขยที่รักของเรา จะให้คนกระจอกพวกนี้ขวางทางเราได้ไง เรื่องแบบนี้คุณยอมได้เหรอ ฉันยอมไม่ได้หรอก!”
จาวซิ่วจือพูดด้วยสายตาที่จะกินคน จากนั้นตบแขนของหวางเต๋อด้วยความแรง “ไอ้คนกระจอกอย่างนาย หลบไปไกลๆ!”
“คุณ…...” หวางเต๋อหน้าแดงระเรื่อ แต่เขาทำได้เพียงเดินจากไปอย่างไม่เต็มใจ
จาวซิ่วจือหันกลับมาตะโกนด่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนนั้นต่อ “ยังไม่รีบเปิดประตูอีก? อย่าให้ฉันพังประตูเองนะ!”
เธอพูดไปแล้วลงไม้ลงมือกับเจ้าหน้าที่ทั้งสองไปด้วย
และในขณะนั้น
เสียงวิทยุสื่อสารของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ติดต่อนิติบุคคลเมื่อครู่นี้ก็ได้ดังขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้ชนะเลศคือราชา