บทที่ 1064 เริ่มเห็นเค้าลาง
หนูสีทองตัวนั้นของชายชราที่มาจากระบบดาวที่ห้า ความเร็วของมันอยู่เหนือกว่ากระแสของเวลา ไปมาไร้ร่องรอย แอบซ่อนอยู่ในห้วงมิติของเวลา หากมิใช่ผู้ยิ่งใหญ่ ยากจะตามหามันเจอ
นี่จะเห็นได้ถึงความน่าหวาดเกรงของอสูรตัวนี้
เพียงแต่ร่างเด็กของมันหากอยากให้เติบโตเต็มวัย อีกทั้งยังถึงขอบเขตอย่างหนูสีทองของชายชราระบบดาวที่ห้าตัวนั้นต้องเผชิญเคราะห์ภัยมหาศาล ร้อยตัวแทบจะเหลือไม่รอดสักตัว ความยากน่าตกใจยิ่งนัก
แต่คุณค่าของมันก็ไม่น้อยเลย
อีกทั้งทันทีที่มหาอสูรทวิกาลถือกำเนิด ผู้ที่จับตามองภาพนี้ก็ไม่ใช่แค่ผู้บำเพ็ญกลางคนลึกลับคนนั้นเท่านั้น
นอกแดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมาร ณ แผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์ ในถ้ำใต้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์พิสดารบันลือ เยี่ยหมัวจื่อที่หลับใหลในห้วงลึกพลันลืมตาขึ้นมา
ในดวงตาสีทองของมันฉายประกายแสงสีทองแข็งแกร่งออกมา เงยหน้าขึ้น ทอดสายตามองไปทางท้องฟ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมาร
ผ่านจากการรับรู้ของสายเลือด องค์ท่านสัมผัสได้ถึงการกำเนิดของลูกหลาน
ในดวงตาฉายแววซับซ้อน และยังมีความรู้สึกโล่งใจแฝงอยู่ด้วย
ตอนนั้นที่เต๋อหลัวจื่อลงมือดับเพลิงเทวะ จับเป็นองค์ท่าน องค์ท่านไม่มีผู้สืบทอด
ไข่สองใบในภายหลัง ความจริงแล้วเป็นการช่วยเหลือตัวเองที่องค์ท่านตัดสินใจในยามสุดท้าย
ใช้พลังพรสวรรค์ของตัวเอง ฝืนแบ่งสายเลือด-องตัวเอง แล้วใช้เวลาปกปิดผลกรรมเวร หลอกความสัมผัสรับรู้ของเต๋อหลัวจื่อ สุดท้าย…สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวเอาไปได้สำเร็จ
เรื่องในตอนนั้นดูเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ความจริงแล้วเป็นเช่นนั้นจริงหรือไม่ บางทีอาจจะมีเพียงองค์ท่านเท่านั้นที่รู้
นานหลังจากนั้น เยี่ยหมัวจื่อหลับตาลง พลังชีวิตขององค์ท่านในเสี้ยวขณะนี้เริ่มสลายไป
มีเพียงเสียงพึมพำที่ดังมาจากปากของเขา สะท้อนก้องเสียงต่ำ
“ห่างไกลจากวันนี้ ห่างไกลจากปัจจุบัน เจาะผ่านกาลเวลา ทลายหมื่นชั้นแห่งความว่างเปล่า หลบหนีไร้ร่องรอย…”
……
แดนศักดิ์สิทธิ์ปีกมารสถานที่ปิดด่านของมหาจักรพรรดิหมิงเหยียน ในโลกเศษชิ้นส่วนที่เมืองไร้บุรุษตั้งอยู่ ในใจสวี่ชิงเกิดระลอกคลื่นอารมณ์
เขามองหนูสีทองในมือ แล้วมองไปทางดอกบุปผาสราญใจมหึมาดอกนั้น ฝ่ายหลังในเสี้ยวพริบตาที่หนูสีทองถือกำเนิดก็ตกอยู่ในความนิ่งงัน
ที่หยุดนิ่งไม่ได้มีแค่ดอกไม้ดอกนี้เท่านั้น แต่ยังมีมิติแห่งนี้
ทุกสิ่งทุกอย่างในเสี้ยวขณะนี้ล้วนนิ่งไม่ไหวติง
มีเพียงสวี่ชิงและหนูสีทองเท่านั้นที่เป็นปกติ
และหนูสีทองตัวนี้ยิ่งกลังจากส่งเสียงจี๊ดๆ ถูตัวไปที่นิ้วของสวี่ชิงแล้วก็ส่งระลอกคลื่นอารมณ์ว่าหิวอกมา จากนั้นแสงทองเพียงฉายวาบ ก็บินออกไปจากฝ่ามือสวี่ชิง อยู่กลางท้องฟ้าแยกเขี้ยวแทะไปที่มิติ
รอยแยกทางหนึ่งปรากฏขึ้นกลางท้องฟ้า มันแทะมิติฉีกขาดในคำเดียว กลืนเศษมิติชิ้นหนึ่งของที่นี่ลงไป
แต่มันที่ยังเป็นร่างเด็ก ทำได้ถึงระดับนี้ค่อนข้างยากลำบาก ดังนั้นหลังจากที่กลืนลงไปคำหนึ่ง มันก็อ่อนแรงลงไปไม่น้อยอย่างเห็นได้ชัด แต่ความรู้สึกหิวโหยก็ทำให้มันกัดลงไปอีกคำอย่างห้ามไม่ได้
ขณะเดียวกัน รอยแยกมิติก็ทำล้ายความนิ่งเงียบของที่นี่ เสี้ยวขณะต่อมา ที่นี่ฟื้นฟูกลับเป็นปกติ ดอกบุปผาสราญใจยิ่งส่ายไหวรุนแรง
และสิ่งที่ทำให้จิตใจสวี่ชิงยิ่งสั่นสะท้านคือ จากการฟื้นคืนสภาพกลับมาของมิตินี้ มีเจตจำนงน่ากลัวสะท้านสะเทือนฟ้าดินกลุ่มหนึ่ง เหมือนจะมาจากความว่างเปล่า กำลังลงมาเยือนยังดอกบุปผาสราญใจดอกนั้น
เจตจำนงนี้ สวี่ชิงแต่สัมผัสเพียงเล็กน้อยก็อกสั่นขวัญแขวน มีความรู้สึกเหมือนถูกทะเลแห่งความตายท่วมจมจนมิด
ดังนั้นเขาไม่ทันได้ขบคิดอะไรมากมาย ไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น คว้าหนูสีทองตัวน้อยที่เหมือนทุ่มสุดกำลังจะแทะคำที่สามอีก ร่างแปรเปลี่ยนเป็นลำแสง พาหนูสีทองพุ่งตรงไปยังรูโหว่มิติที่มันแทะเป็นรู พุ่งเข้าไป
ท่ามกลางการลงมาเยือนอย่างรวดเร็วของเจตจำนงน่าหวาดกลัวข้างหลัง สวี่ชิงพุ่งเข้าไปในทันที หายลับไป
และจากการจากไปของเขา ท้องฟ้าดาราที่กว้างใหญ่ระยิบระยับพร่างพรายก็ปรากฏขึ้นในครรลองสายตาของสวี่ชิง
แม้จะไม่รู้ว่าทำไมนอกโลกเศษเสี้ยวความทรงจำถึงเป็นห้วงท้องฟ้าดารา แต่สวี่ชิงรู้ถึงอันตรายในตอนนี้ ดังนั้นความเร็วจึงไม่ลดลง เคลื่อนไปข้างหน้าทันที จากไปที่ไกลอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ความรู้สึกอันตรายที่มาจากจิตเจตจำนงนั่นหายไป แต่จิตใจที่สั่นหวิวของสวี่ชิงกลับไม่หายไปเลยแม้แต่น้อย
เพราะในห้วงดาราที่กว้างใหญ่ไพศาล มีความงดงามอันยากจะบรรยายก็มีอันตรายเช่นกัน
นั่นคือพายุที่ซัดหอบอยู่ในห้วงท้องฟ้าดารา
พัดกวาดดไปทั่วทุกทิศ ทุกที่ที่ผ่าน ดวงดาราแหลกละเอียด ห้วงท้องฟ้าดาราถูกซัดเป็นหลุมดำ
เหมือนปากมหึมาน่าหวาดกลัวกำลังกลืนกินทุกสิ่ง
และที่ที่สวี่ชิงอยู่ก็เป็นขอบของพายุลูกนี้
ในช่วงเวลาสำคัญ สวี่ชิงไม่คิดให้เสียเวลา ยกมือสะบัด ทันใดนั้น เจดีย์วิเศษเทพศักดิ์สิทธิ์ก็มาปรากฏต่อหน้าสวี่ชิง
เขาก้าวไปเพียงก้าวเดียวก็เข้าไปข้างใน บังคับเจดีย์วิเศษไปไกลจากพายุ
นี่เป็นสิ่งที่สวี่ชิงสวี่ชิงนึกออกว่ามันจะสามารถพาข้ามผ่านห้วงท้องฟ้าดาราได้ ในเมื่อเจดีย์วิเศษนี้มีที่มาที่ไปลึกลับ
เถาวัลย์เทพศักดิ์สิทธิ์บนนั้นยิ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ห้วงท้องฟ้าดารา
เช่นนี้เอง หลังจากนั้นครึ่งชั่วยาม ท่ามกลางการเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วของเจดีย์วิเศษ ในที่สุดก็ไปจากบริเวณพายุห้วงท้องฟ้าดารา
สวี่ชิงเห็นเช่นนี้ในใจก็โล่งอก ขณะเดียวกันก็ทำให้เขาสัมผัสถึงความปรารถนาที่แผ่ออกมาจากเถาวัลย์เทพศักดิ์สิทธิ์
นั่นเป็นความปรารถนาต่อห้วงดารา คล้ายอ้อนวอนสวี่ชิงให้มันไปจากเจดีย์ ควบทะยานไปในห้วงดารา
สวี่ชิงหลังจากขบคิดก็สัมผัสรอบๆ พบว่าพายุไปไกลแล้ว ดังนั้นเขาจึงแผ่จิตเทพออกมา
เถาวัลย์เทพศักดิ์สิทธิ์ส่งเสียงโห่ร้องยินดีออกมา พุ่งออกไปจากเจดีย์อย่างรวดเร็ว แล้วขยายตัวขึ้นรอบๆ ใหญ่ขึ้นมามีขนาดถึงหมื่นจั้ง ฝั่งหนึ่งรัดเจดีย์วิเศษเอาไว้ อีกฝั่งหนึ่งลากไปข้างหน้า
สวี่ชิงเห็นเช่นนี้ก็เดินออกไปจากเจดีย์วิเศษ ทันทีที่ปรากฏตัวขั้น เถาวัลย์เทพศักดิ์สิทธิ์ก็วนล้อมรอบเขา ส่งความดีใจออกมา
สุดท้าย ปลายข้างหน้าก็แตะมาบนร่างสวี่ชิง ยกเขาขึ้นมา ร่างนั้นสั่นสะท้านเล็กน้อย ก่อนจะแผ่กระแสพลังลี้ลับออกมา มันแยกผืนฟ้าออกจากกัน ราวกับปลาที่แล่นฉิวอยู่ในสายน้ำ พุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ภาพนี้หากมีผู้บำเพ็ญเห็นเข้าก็จะต้องจิตใจสั่นสะท้านอย่างแน่นอน
เพราะในภาพนี้ เสื้อคลุมยาวของสวี่ชิงปลิวพริ้วนั่งอยู่บนเถาวัลย์เทพศักดิ์สิทธิ์ และเถาวัลย์นั่นมีขนาดหมื่นจั้ง แผ่รัศมีอำนาจเกรียงไกร ทั้งลำต้นส่องประกายแสงดาว ใบทุกใบต่างคลี่ออกสั่นไหว แหวกผ่านห้วงท้องฟ้าดาราเคลื่อนไปราวกับมังกร
สวี่ชิงในดวงตามีประกายแปลกประหลาด สัมผัสรับรู้ถึงความยินดีของเถาวัลย์เทพและสัมผัสถึงความเร็วของมัน ก็รู้ว่าห้วงท้องฟ้าดาราถึงจะเป็นฟ้าดินของเถาวัลย์เทพศักดิ์สิทธิ์
และท่ามกลางการควบทะยานไปในห้วงท้องฟ้าดารา สวี่ชิงก็ค่อยๆ เห็นเศษชิ้นส่วนน้อยใหญ่ชิ้นแล้วชิ้นเล่า กะพริบแสงระยิบระยับราวดวงดาวอยู่ในห้วงท้องฟ้าดารา
บนเศษชิ้นส่วนเหล่านั้นมีภาพกำลังเคลื่อนไหว
ล้วนแต่เป็นโลกที่แปรเปลี่ยนมาจากความทรงจำทั้งสิ้น!
แต่ว่า หลังจากเพิ่งผ่านประสบการณ์ในโลกบุปผาสราญใจ สวี่ชิงในใจมีความหวาดระแวงต่อโลกเศษชิ้นส่วนเหล่านี้ ย่อมไม่ก้าวเข้าไปง่ายๆ ดังนั้นจึงส่งจิตเทพหาเถาวัลย์เทพศักดิ์สิทธิ์ให้หลบหลีกเศษชิ้นส่วนพวกนี้
ขณะเดียวกันสายตาก็กวาดไป ตามหาโลกที่จักรพรรดินีและศิษย์พี่ใหญ่อยู่
“อย่างไรก็เป็นสถานที่ปิดด่านของมหาจักรพรรดิ อันตรายมากมาย ดังนั้นต้องรีบหาจักรพรรดินีให้เจอถึงจะเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดในตอนนี้”
สวี่ชิงหรี่ตา ความเร็วเร็วยิ่งกว่าเดิม


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา