บทที่ 158 บดขยี้ได้อย่างง่ายดาย
“เอ่อ……”
ผู้บำเพ็ญระดับสร้างฐานขั้นไฟชีวิตเผ่าสิงซากสมุทรบนค่ายกลส่งข้ามที่มาเยือนคนนั้นคำพูดหยุดชะงักไปในตอนนี้ทันที
ตอนเขามีชีวิตก็ไม่ใช่เผ่ามนุษย์ ถึงจะเป็นต่างเผ่าที่หน้าตาเหมือนมนุษย์ก็จริง แต่มีดวงตาหกดวง นอกจากตำแหน่งโดยปกติแล้วที่หว่างคิ้วและแก้มทั้งสองข้างต่างมีดวงตาดวงหนึ่ง ท้ายทอยก็มีอีกหนึ่งดวงเช่นกัน
ตอนนี้ร่างกว่าครึ่งปรากฏขึ้นแล้ว รวมถึงส่วนศีรษะและดวงตาด้วย
ตอนนี้เขาหายใจหอบถี่อย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นรูม่านตาของดวงตาทั้งห้าที่มองสวี่ชิง หรือดวงตาที่หกที่มองไม่เห็นต่างพลันหดเล็กลง เผยความหวาดกลัวและไม่อยากเชื่อออกมา ความเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงที่ซัดโหมในใจไม่อาจปกปิดได้เลย
“เจ้า…เจ้าเป็นผู้บำเพ็ญไฟชีวิตหรือ ไม่ใช่แค่ดวงเดียว!! นี่…นี่…”
ผู้บำเพ็ญระดับสร้างฐานขั้นก่อไฟชีวิตเผ่าสิงซากสมุทรคนนี้รู้สึกแค่ว่าในหัวมีเสียงอัสนีฟาดผ่า ร่างสั่นสะท้าน วิกฤตความเป็นตายอันรุนแรงทำให้วิญญาณของเขายังต้องสั่นสะท้าน อยากจะทำลายค่ายกล แต่ค่ายกลเปิดถึงระดับนี้แล้ว ร่างของเขาอยู่ในค่ายกลไม่สามารถทำได้ ดังนั้นจึงคำรามไปหาบัณฑิตชุดคลุมดำอย่างร้อนรน
“รีบทำลายค่ายกลเร็วเข้า!”
ความจริงแล้วไม่ใช่แค่ทางเขาที่เป็นเช่นนี้ บัณฑิตชุดคลุมดำเผ่าสิงซากสมุทรข้างกายเขาที่กำลังประชิดเข้าไปหาสวี่ชิงในเสี้ยวพริบตานี้จิตใจก็ปั่นป่วนเกิดเป็นคลื่นซัดโหมเช่นกัน
เปลวเพลิงในร่างของสวี่ชิงตอนนี้ช่างน่าหวาดกลัวเหลือเกินจริงๆ!
ความแข็งแกร่งที่เหมือนภูเขาไฟปะทุนั่นทำให้ดวงตาของบัณฑิตชุดคลุมดำเจ็บปวดเหลือคณาปานว่ามีเข็มนับไม่ถ้วนแทงมา เหมือนไม่อาจไปจ้องมองตรงๆ ได้ ความหวาดกลัวในใจสะเทือนฟ้าดิน จิตใจใกล้จะพังทลายแล้วเต็มที
สถานการณ์แบบนี้บัณฑิตชุดคลุมดำคนนี้จะกล้าเข้าใกล้ได้อย่างไร วิกฤตเป็นตายรุนแรงในใจเขาซัดโหมซึ่งทุกสิ่ง หนทางที่วางอยู่ข้างหน้าเขามีเพียงเส้นเดียวเท่านั้น
นั่นก็คือละทิ้งเผ่าพันธุ์ตามสัญชาตญาณ ไม่ฟังคำของผู้บังคับบัญชา อาศัยการมาเยือนของผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรหกตาดึงดูดไฟของศัตรู ตัวเองหนีไปอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นเพียงชั่วพริบตาเขาก็ตัดสินใจได้ ร่างถอยหลังไปทันที คิดจะหนี
และในตอนนี้ สวี่ชิงที่ยืนอยู่ไกลๆ ก็เงยหน้าขึ้น
ภูเขาไฟในร่างของเขาสะเทือนฟ้าดิน เผาไหม้จนน้ำทะเลรอบๆ เดือดพล่านแผ่ออกไปไม่หยุด โดยเฉพาะดวงตาทั้งสองตอนนี้ยิงแสงเพลิงแสบตาออกมา ทั้งคนเหมือนแปลงเป็นเทพเจ้า มองไปอย่างเย็นชา
สายตาของเขาเหมือนมองทะลุการกีดขวางและการสกัดกั้นทุกอย่าง ต่อให้ระลอกคลื่นพลังของค่ายกลส่งข้ามก็ยากจะส่งผลให้ได้แม้เพียงน้อยนิด สวี่ชิงเมินมันโดยสิ้นเชิง จับเป้าหมายไปยังร่างของผู้บำเพ็ญหกตาเผ่าสิงซากสมุทร
การมองไปครั้งนี้ ทุกอย่างในสายตาสวี่ชิงมันช่างช้าเนิบนาบเหลือเกิน
บัณฑิตชุดคลุมดำกำลังหลบหนีอย่างอืดอาด ฝุ่นรอบๆ เหมือนหยุดนิ่งอยู่ทั่วทุกที่ ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกลายเป็นชั่วนิรันดร์
ส่วนระลอกคลื่นค่ายกลส่งข้ามก็เหมือนหยดหมึกในน้ำแผ่มาอย่างช้าๆ มีเพียงเงาร่างของผู้บำเพ็ญเผ่าสิงซากสมุทรหกตาในนั้นที่การเคลื่อนไหวเร็วกว่าเล็กน้อย
แต่…ก็ยังช้ามากอยู่ดี!
ถูกสายตานี้ของสวี่ชิงมองมา ผู้บำเพ็ญหกตาเผ่าสิงซากสมุทรคนนั้นฟ้าฟาดผ่าเปรี้ยงในใจ สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างบ้าคลั่ง ในใจร้องโหยหวนอย่างไม่อาจควบคุมได้
“สองดวง จะต้องเป็นสองดวงแน่ๆ ผู้บำเพ็ญยอดเขาที่เจ็ดสำนักเจ็ดเนตรโลหิตคนนี้ในเมื่อมีไฟชีวิตสองดวง ทำไมก่อนหน้านี้ทำไมจึงไม่ให้ข้าออกมา!!” ในขณะที่ใจทุกข์ระทม ค่ายกลส่งข้ามก็พลันมีสัญญาณจะถูกทำลายแล้ว
เห็นได้ชัดว่าอีกฝั่งของค่ายกลทางนั้นกำลังมีคนช่วยเขาทำลายค่ายกล หลบหลีกเคราะห์สังหารครั้งนี้
แต่ก็ยังคงช้าไป
มือขวาของสวี่ชิงยกขึ้น กดไปยังบริเวณที่ตั้งของค่ายกลเบาๆ
เสียงครืนครันดังขึ้น ไฟพิฆาตสีดำกลุ่มหนึ่งปะทุออกมาจากภูเขาไฟในร่างสวี่ชิงทันที แผ่ปกคลุมไปยังค่ายกลอย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะก่อเป็นมือเพลิงสีดำขนาดมหึมา ซัดไปไปยังค่ายกลส่งข้าม
ฝ่ามือนี้แผ่ความร้อนของเปลวไฟอันน่ากลัวออกมาพร้อมกับพลังเผาผลาญทุกสรรพสิ่ง แผ่นดินเกิดรอยแยกเป็นทางๆ คล้ายว่าจะแตกเป็นเสี่ยงๆ จากการซัดลงมา
หญ้าทะเลทั้งหมดแห้งเหี่ยวกลายเป็นเถ้าธุลี น้ำทะเลเขตพื้นที่รอบๆ เหมือนระเหยเป็นไอในทันทีจนกลายเป็นพื้นที่ว่างโล่ง เผยให้เห็นค่ายกลส่งข้ามที่ประกายแสงหมองหม่น
และ…ผู้บำเพ็ญหกตาเผ่าสิงซากสมุทรที่ตอนนี้จิตใจพังทลาย ส่งเสียงคำรามคลุ้มคลั่งบนค่ายกลคนนั้น
ร่างของเขาไม่ทันได้เลือนหายไป วิกฤตความเป็นความตายรุนแรงทำให้เขาส่งเสียงคำรามน่าสังเวชออกมา ใช้กำลังทั้งหมดที่มีทำให้มีแขนงอกออกมาจากร่างกายเพิ่มสี่ข้าง
มือทั้งหกยกขึ้น ไฟชีวิตในร่างเปิดสภาวะแสงนภา ร่างของเขายิ่งทำลายช่องเวทอย่างไม่เสียดายในขณะนี้ กระตุ้นศักยภาพทั้งหมดทำให้ร่างแปลงเป็นเปลวเพลิง ต้านทานฝ่ามือเปลวเพลิงดำของสวี่ชิงด้วยกำลังทั้งหมด
ในเสี้ยวขณะที่ต้านทาน เขายังเอาอาวุธเวทสามอย่างออกมา ปากคายหยกสีฟ้าก้อนหนึ่ง สีหน้าเหี้ยมเกรียมแฝงด้วยความบ้าคลั่งในความสิ้นหวัง ไอรีนโนเวล
แต่ยังไม่พอ!
ไฟชีวิตหนึ่งดวงไม่คู่ควรเป็นศัตรูของผู้บำเพ็ญที่มีไฟแห่งชีวิต

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา