บทที่ 178 สะเทือนสมุทรสยบอสูร!
ทะเลส่งเสียงดังกึกก้อง
สวี่ชิงที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเรือเวท ร่างกายก็ค่อยๆ สั่นสะท้านขึ้นมาจากการแผ่กระจายออกไปของระลอกคลื่น ลมหายใจของเขาหอบถี่ขึ้น ความเย็นเยียบในแววตาไม่นานนักก็แปรเปลี่ยนเป็นความคลุ้มคลั่ง
เพราะว่า เขาหิว!
เป็นความหิวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน!
ต้นเหตุความหิวนี้ด้านหนึ่งคือกายเนื้อที่แห้งเหี่ยวของเขาตอนนี้ต้องการพลังงานมหาศาลซ่อมแซมถึงจะกลับมาเป็นปกติ และในเรื่องนี้ต่อให้เป็นผลึกวารีสีม่วงก็ไม่สามารถช่วยได้
ผลึกวารีสีม่วงสามารถช่วยเร่งการฟื้นฟูบาดแผล แต่ไม่สามารถมอบเลือดลมและสารอาหารให้เขาจากความว่างเปล่าได้
และอีกต้นเหตุหนึ่งของความหิวคือข้างหลังสวี่ชิง!
ข้างหลังของเขากว้างเวิ้งว้าง เหมือนไม่มีอะไรทั้งนั้น แต่ไม่ว่าจะเป็นบรรพจารย์สำนักวัชระหรือจะเป็นเงา ตอนนี้ต่างตื่นหวาดกลัวเป็นอย่างมาก ตามประสาทสัมผัสของพวกมัน ข้างหลังสวี่ชิงเหมือนมีอันตรายและความเหี้ยมเกรียมอะไรบางอย่างซ่อนอยู่
สวี่ชิงรู้ ข้างหลังของเขาไม่ได้ว่างเปล่า
พูดให้ถูกต้องคือ สิ่งที่ทำให้บรรพจารย์สำนักวัชระและเจ้าเงาระแวงและหวาดกลัวสุดขีดเป็นแผ่นหลังใต้อาภรณ์ของเขา ในนั้นเกิดเป็นภาพสัญลักษณ์ภาพหนึ่งขึ้นจากการลืมตาของวิหคทองก่อนหน้านี้
ภาพสัญลักษณ์นี้คือรูปลักษณ์ของวิหคทอง แผ่กลิ่นอายที่น่าหวาดกลัวออกมาเป็นระลอกๆ
นี่คือขั้นที่สองของการกระตุ้นเมล็ดพันธุ์สืบทอด!
สิบวันก่อนหน้านี้สวี่ชิงศึกษาข้อมูลของวิหคทองหลอมหมื่นวิญญาณ รู้ดีว่าการกระตุ้นเมล็ดพันธุ์สืบทอดของวิหคทองหลอมหมื่นวิญญาณมีสองขั้นตอน
ขั้นแรกคือกระตุ้นเมล็ดพันธุ์สืบทอดแปลงเป็นภาพสัญลักษณ์ ประทับไว้บนร่างกาย
ขั้นที่สองคือให้ภาพสัญลักษณ์นี้ปรากฏข้างนอก หลอมเลือดลมเป็นเงา เช่นนี้แล้วถึงจะนับว่ากระตุ้นเมล็ดพันธุ์สืบทอดโดยสมบูรณ์!
และขั้นที่สองต้องการเลือดลมมหาศาลมาหล่อเลี้ยง ดังนั้นเขาถึงได้รู้สึกหิว!
ตอนนี้ระหว่างที่ลมหายใจหอบถี่ ในดวงตาสวี่ชิงก็เต็มไปด้วยเส้นเลือด หันมามองทางบรรพจารย์สำนักวัชระ
บรรพจารย์สำนักวัชระตัวสั่นเทิ้มทันที ถูกสวี่ชิงมองมาเช่นนี้ ความรู้สึกเหมือนจะถูกอีกฝ่ายดูดกลืน ในระหว่างที่ตัวสั่นเทิ้มก็รีบสำแดงกาย จงใจให้ร่างโปร่งแสงอีกเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าตัวเองไม่มีเลือดลม
สวี่ชิงเบนสายตามองไปทางเจ้าเงา
เจ้าเงาสั่นเทิ้มภายใต้สายตาของเขาเช่นกัน
“เอาพวกมันขึ้นมา” เพราะร่างเหี่ยวแห้ง เสียงของสวี่ชิงเปลี่ยนมาแหบแห้งเหลือประมาณ ตอนนี้เมื่อดังออกมา ทางเจ้าเงาก็ไม่ลังเลใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนที่ผสานอยู่ในทะเลสะบัดขึ้นมาทันที ทันใดนั้นก็มีปลาเกราะเหล็กตัวมหึมาตัวหนึ่งพุ่งขึ้นมาจากผิวน้ำ มาอยู่ข้างหน้าสวี่ชิง
สวี่ชิงจ้องปลาหลังเหล็กตัวนี้เขม็ง ภาพสัญลักษณ์ที่หลังพลันร้อนวาบขึ้น เหมือนจะอยากแปลงออกมา แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถทำได้ ทำได้เพียงแปลงออกมาเป็นขนนกสีทองที่เหมือนกับขนหงส์อยู่รอบกายสวี่ชิง
ในขณะที่ขนนกเหล่านี้หมุนวนอย่างรวดเร็วรอบตัวเขา เกิดเป็นแรงดูดหอบม้วนไปหาปลาเกราะเหล็ก
เสี้ยวพริบตาต่อมาตัวปลาเกราะเหล็กตัวขนาดร้อยจั้งตัวสั่นสะท้าน พลังเลือดลมทั้งหมดในกายไหลออกไปจากร่าง
เลือดลมพวกนี้รวมอยู่ด้วยกันเกิดเป็นก้อนเลือดขนาดถึงหลายสิบจั้ง ตอนนี้มันหดเล็กไม่หยุด ถูกหลอมไม่หยุด จนสุดท้ายสลายไปถึงเก้าส่วน เกิดเป็นเลือดสีทองจางๆ หยดหนึ่ง
ขนนกสีทองห่อหุ้นทันที ในขณะดูดซับมัน สวี่ชิงก็สะบัดเพลิงดังกลุ่มหนึ่งออกไปห่อหุ้มปลาเกราะเหล็ก ดึงวิญญาณมันออกมา
ส่วนเจ้าเงาก็สูดปากอย่างอดไม่ได้ กลืนกินพลังวิญญาณที่ไอพลังประหลาดลอยตลบที่ไร้ซึ่งวิญญาณ และไร้ซึ่งเลือดลมหลงเหลือเอาไว้อย่างไม่ให้สิ้นเปลืองเลยแม้แต่น้อย
เหมือนกินข้าว ไม่นานนักเจ้าเงาก็ส่งอสูรทะเลตัวที่สองขึ้นมา จากนั้นก็เป็นตัวที่สาม ตัวที่สี่
สิบวันก่อนหน้านี้ หลังจากที่สวี่ชิงศึกษาวิหคทองหลอมหมื่นวิญญาณก็ตั้งใจเลี้ยงอสูรทะเลจำนวนหนึ่งเอาไว้แล้ว ดังนั้น ไม่นานนัก ขนหงส์ที่แปลงมาจากภาพสัญลักษณ์ข้างหลังก็ดูดซับอสูรทะเลไปถึงยี่สิบสามตัว
จากการดูดซับของขนหงส์ ไม่ใช่แค่ส่วนขนที่ปรากฏมากขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น ขณะเดียวกันยังมีผลต่อการหล่อเลี้ยงของสวี่ชิงทางนี้ด้วย ทำให้สวี่ชิงไม่เหี่ยวแห้งแบบนั้นแล้ว ฟื้นฟูกลับมาเล็กน้อย
และเขาก็สัมผัสพลังกายเนื้อของตัวเองได้อย่างชัดเจนว่ามันพัฒนาขึ้นมาเล็กน้อยจากสภาวะที่หยุดนิ่ง ความเร็วเร็วขึ้นกว่าเดิม ในขณะเดียวกับที่พลังเพิ่มมากขึ้น เขาก็มีประสาทรับรู้ที่น่าอัศจรรย์บางอย่างด้วย
การรับรู้ประเภทนี้เหมือนการขานตอบรับจากวิชาเวทบางอย่าง สวี่ชิงรู้สึกเลาๆ ว่าตัวเองเหมือนไม่จำเป็นต้องประสานปางมือก็สามารถสามารถสำแดงวิชาเวทที่ตัวเองไม่เคยเรียนมาก่อนบางวิชาได้
แต่หลังจากที่เขาทดลองก็ทำไม่สำเร็จ
‘หรือว่า นี่ก็คือสิ่งที่บอกเล่าจากในวิชาวิหคทองหลอมหมื่นวิญญาณ…แย่งชิงพรสวรรค์เผ่าพันธุ์ แต่ตอนนี้ข้ายังฝึกฝนน้อยเกินไป ดังนั้นยังไม่อาจสำแดงได้!’
สวี่ชิงคล้ายครุ่นคิด แต่ตอนนี้ความหิวของเขาแค่คลายลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยังคงหิวมากเช่นเดิม นี่ทำให้เขาไม่มีเวลาครุ่นคิดมากนัก เขาผุดลุกขึ้นมาทั้งที่ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือด เก็บเรือเวทลงไปแล้วพุ่งสู่ทะเล
เสี้ยวพริบตาที่ดำลงไปใต้ทะเล ร่างของสวี่ชิงก็ส่งเสียงครืนครันเปิดสภาวะแสงนภาทันที ภาพสัญลักษณ์ข้างหลังแผ่กลิ่นอายสยบทั่วทุกสารทิศออกมา ทำให้ร่างของสวี่ชิงแผ่พลังกดดันออกมาอย่างหนักหน่วง
บรรพจารย์สำนักวัชระข้างกายเขาอัสนีลอยเอ่อทั่วร่าง บนเหล็กแหลมสีดำอักขระอัสนีกะพริบวูบวาบ คอยติดตามอย่างรวดเร็วอยู่ข้างกายสวี่ชิง
เจ้าเงาแผ่มาผสานไปทั่ว จะเห็นดวงตาร้อยกว่าดวงกระจายอยู่รอบๆ อย่างรางเลือน จากการลืมตาขึ้นก็วาดเป็นเค้าโครงของต้นไม่ใหญ่ น่าขนลุกสยดสยอง
สวี่ชิงในเสี้ยวขณะนี้ ความแข็งแกร่งของกำลังรบโดยรวมเหนือกว่าในอดีตตั้งนานแล้ว ในทะเลต้องห้ามนี้แม้จะยังไม่ขั้นไม่หวาดกลัวเกรงสิ่งใด แต่ในระดับหนึ่งก็สามารถสยบกำราบฟากฝั่งหนึ่งได้อยู่เหมือนกัน
ผิวน้ำระเบิดดังสนั่น ใต้ทะเลกระแสน้ำซัดโหม เงาร่างของสวี่ชิงหายไปในพริบตา ไปปรากฏอยู่ที่ไกล เริ่มทำการสังหาร


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา