บทที่ 248 หมาป่าถ้าหันหัวกลับ จักต้องมีเหตุผล
เวลานี้ฟ้าสว่าง สิ่งประหลาดทั้งหมดสลายหาย ร่างสวี่ชิงกระโจน หาต้นไม้ใหญ่แล้วนั่งลงทำสมาธิเสียรอบหนึ่ง
จนกระทั่งตะวันสูงโด่ง เขาก็ลืมตาขึ้นมองไปยังทิศทางเมืองผีที่ปรากฏขึ้นเมื่อคืน ความโหดเหี้ยมในดวงตายิ่งปะทุ จากนั้นกระโจนร่างลงมาเงียบๆ เริ่มเดินเวียนอยู่ในป่าผืนนี้
สวี่ชิงไม่ได้ออกไปค้นหาอสูรที่ตั้งเป้าไว้เมื่อวันนี้ แต่พุ่งทะยานด้วยความเร็วในพื้นที่ต้องห้าม เขาสังเกตทุกจุดที่ผ่านอย่างถ้วนถี่ จนผ่านไปครึ่งชั่วยาม สวี่ชิงก็เห็นหุบเขาแห่งหนึ่ง
สวี่ชิงเปิดสภาวะแสงนภา ตรวจสอบในหุบเขารอบหนึ่ง
รูปร่างหุบเขานี้หากมองลงมาจากด้านบนจะเป็นลักษณะร่องลึกเว้าเข้าไป มีแต่ทางเข้า ไม่มีทางออก
หลังจากยืนยันว่าที่นี่ไม่มีปัญหา สวี่ชิงก็เงยหน้ามองเบื้องบน จากนั้นก็มองไปทั้งสองฝั่ง ก็พลันยกมือขวาขึ้นชกไปที่หินผาข้างๆ หนึ่งหมัด
เสียงครืนครัน เศษหินมหาศาลกระจัดกระจาย ตัวหน้าผากลายเป็นช่องขนาดใหญ่ช่องหนึ่ง
สวี่ชิงกวาดตาดู จากนั้นก็เปลี่ยนทิศแล้วออกหมัดต่อไป
ครู่ต่อมา ในร่องเว้าส่วนหน้าผาสูงชันทั้งสองด้านถูกสวี่ชิงชกจนเกิดเป็นช่องขนาดใหญ่นับสิบช่อง
ทำเรื่องเหล่านี้เสร็จ เขาก็ชกพื้นดินในร่องเว้าต่อ จนกลายเป็นหลุมใหญ่อีกนับสิบหลุมถึงได้หยุดมือลง
จากนั้นเขาก็คำนวณเวลา ไม่ชักช้าเข้าไปด้านในช่องขนาดใหญ่ ล้วงกล่องเหล็กออกมาจากถุงเก็บของ
ของสิ่งนี้ก็คือกล่องปรารถนาที่ใส่ลูกกลอนพิษต้องห้ามเอาไว้
สวี่ชิงเปิดกล่องปรารถนาในช่องนี้ วางลงไปบนพื้น
ทันใดนั้นในกล่องปรารถนาก็มีกลิ่นอายลูกกลอนพิษแผ่ออกมา กระจายออกไปรอบทิศ
สวี่ชิงถอยหลังอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจลูกกลอนที่กำลังแผ่พิษ หยิบเศษหินที่กระจายอยู่รอบๆ วางไว้ที่ขอบช่องที่วางลูกกลอนพิษไว้ ก่อเป็นกำแพง
แม้จะไม่ได้ก่อกำแพงหินปิดไว้จนสนิท แต่ด้วยความรู้เกี่ยวกับลูกกลอนพิษต้องห้ามของสวี่ชิง ขอแค่ไม่มีลม กลิ่นอายที่กระจายอยู่สามารถอยู่ได้ถึงหนึ่งวัน
ดังนั้นตอนกำแพงหินกำลังจะก่อตัวเสร็จสิ้น สวี่ชิงก็รออยู่ครู่หนึ่ง ตะปบจากด้านนอกช่อง ทันใดนั้นกล่องปรารถนาก็ลอยเข้ามา และถูกปิดลงทันที จากนั้นจึงปิดช่องนี้เสีย แล้วไปต่อยังช่องที่สอง
สวี่ชิงคิดจะใส่กลิ่นอายลูกกลอนพิษลงไปในทุกๆ ช่อง รวมถึงหลุมลึกบนพื้นดินทั้งหมด เมื่อเป็นเช่นนี้ในสภาพแวดล้อมที่พิเศษของหุบเขา ในพื้นที่นี้ก็จะเต็มไปด้วยกลิ่นอายพิษปริมาณมหาศาล
สวี่ชิงเคลื่อนไหวต่อไป
บรรพจารย์สำนักวัชระที่อยู่ข้างๆ เมื่อเห็นสวี่ชิงลงมือวางแผน รวมถึงประกายโหดเหี้ยมในดวงตาเข้มข้นขึ้นทุกขณะ ใจก็สั่นสะท้าน แอบคิดในใจว่าจะยั่วโมโหใครก็ได้ แต่อย่ามายั่วโมโหจอมมารสวี่…
เวลาผ่านไหลผ่านไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้
สวี่ชิงวางหมากไปเรื่อยๆ จนกระทั่งราตรีย่ำกราย และช่วงใกล้ยามจื่อ[1] ในที่สุดสวี่ชิงก็จัดการวางหมากทั้งหมดเสร็จสิ้น
รูใหญ่ที่นี่รวมแล้วมีถึงหกสิบกว่ารูถูกสวี่ชิงปิดเอาไว้ลวกๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขาก็เอาลูกกลอนพิษใส่ไว้ในทุกรูให้มันแผ่กลิ่นอายออกมาด้านใน
พริบตาต่อมากลิ่นอายลูกกลอนพิษในหุบเขานี้เข้มข้นขึ้นมาก ในช่วงขั้นตอนนี้ ต่อให้ความต้านทานพิษของสวี่ชิงก็แทบจะทนรับไม่ไหว หลายครั้งที่จำเป็นต้องออกมาพักด้านนอกครู่หนึ่งแล้วกระตุ้นผลึกวารีสีม่วง ถึงค่อยๆ ฟื้นฟูกลับมา
หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนความ เขามองหุบเขานี้ผาดหนึ่ง ดวงตาเผยความพึงพอใจ
สวี่ชิงรู้สึกว่าด้วยการต้านพิษของตนเองอย่างมากก็อยู่ด้านในได้ราวครึ่งชั่วก้านธูปเท่านั้น ถ้าเกินกว่านี้เขาก็ไม่มั่นใจว่าผลึกวารีสีม่วงจะช่วยตนเองได้หรือไม่
เช่นนั้น ถ้าคนอื่นติดพิษนี้ คงลำบากอย่างแน่นอน
“จะคอยดูว่าเจ้าหัวโตนั่นจะทนได้สักกี่น้ำ” สวี่ชิงออกจากหุบเขา นั่งขัดสมาธิในป่าที่ไม่ห่างจากหุบเขานัก ที่นี่มีต้นไม้ใหญ่สามต้นที่เขาตัดและถูกวางเป็นรูปสามเหลี่ยม
บนไม้ยังมีเทียนสีขาวอีกสามเล่ม
สวี่ชิงกังวลว่าเจ้าหัวโตจากเมืองผีนั่นจะไม่ออกมาคืนนี้ เขาจึงเตรียมตัวไว้ถ้าหากไม่มาจริงๆ ตนเองก็จะอัญเชิญเขาออกมาเสียเลย
ระหว่างเฝ้ารอนี้ ในที่สุดก็มาถึงช่วงยามจื่อ
ความจริงพิสูจน์แล้วว่าสวี่ชิงคิดเยอะเกินไป เมื่อถึงเวลา เขาไม่จำเป็นต้องอัญเชิญก็สัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบที่คุ้นเคยรอบๆ รวมถึงหมอกขาวที่ศีรษะพระพ่นออกมาอีกด้วย
“มาแล้ว!” สวี่ชิงหรี่ตาลง เงยหน้ามองห่างออกไป
ไม่นานป่าเบื้องหน้าก็อวลไปด้วยปราณหมอก พริบตาต่อมาเมืองผีที่คุ้นเคยเมืองนั้นก็เผยออกมาอีกครั้ง
ครั้งนี้ โซ่เหล็กรอบๆ ศีรษะพระในเมืองผีมากขึ้นกว่าเมื่อคืนนี้ เมืองผีทำการสะกดเขารุนแรงกว่าแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัด
แต่ชัดเจนว่า ในเมื่อมันยังสามารถส่งผลกระทบกับเมืองผีแห่งนี้จนปรากฏตัวออกมาได้ด้วยตนเอง นี่อธิบายได้ว่าการสะกดระดับนี้ยังไม่เพียงพอ
และพริบตาที่ปรากฏ ดวงตาของพระนั่นก็ถลึงขึ้นทันควัน พุ่งเป้ามายังสวี่ชิง ปากก็ส่งเสียงครืนครัน
“วิหคทองจะต้องตาย!”
ระหว่างที่พูด หัวนี้ก็ลอยออกมาทันทีเหมือนเมื่อวาน ไม่สนใจโซ่ตรวนแขนที่ตรึงอยู่เหล่านั้น พุ่งตรงมาหาสวี่ชิงอย่างรวดเร็ว
พริบตาต่อมาสถานที่ที่สวี่ชิงอยู่ ต้นไม้ล้มครืน พื้นดินแตกเป็นเสี่ยง
สวี่ชิงพุ่งออกไปก่อนก้าวหนึ่ง ระเบิดสภาวะแสงนภาทั้งหมดอย่างรวดเร็ว พุ่งหนีออกมาไกล สีหน้าตกตะลึงและพรั่นพรึง
“เจ้าผีร้ายไม่ยอมหายไปเสียที เจ้าจะเอาอย่างไรกันแน่!!”
ต่อให้อีกฝ่ายสติสัมปชัญญะไม่แจ่มชัด แต่สวี่ชิงก็ยังป้องกันไว้ก่อน แผดเสียงต่ำ พุ่งทะยานสุดกำลัง

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา