บทที่ 525 ชิงอาหารจากปากพยัคฆ์! (2)
…………….
หลังจากสวี่ชิงกับนายกองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดในความบิดเบี้ยวเลือนรางนั้นเลาๆ ในใจก็โหมคลื่นยักษ์ขึ้นมาเช่นกัน
ตอนที่ทุกสายตาที่ต่างจับสังเกตมาที่นี่อย่างไม่อาจควบคุม ชื่อหมู่ที่มาสิงร่างจางซืออวิ้นจนเป็นร่างแยกเทพเจ้า ร่างขององค์ท่านในตอนนี้ เปล่งแสงเจิดจ้าออกมามาอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
ท้องฟ้าแดนต้องห้ามเซียน อักขระที่ก่อร่างจากรอยปริแตกนับไม่ถ้วนก็กำลังเปล่งแสงด้วยเช่นกัน
ทั่วทั้งท้องฟ้าตอนนี้กลายเป็นสีแดงเข้ม หมุนวนด้วยตัวเอง
ท้องฟ้าหมุนวนเร็วขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็กลายเป็นคลื่นวนสีเลือด
ท่ามกลางเสียงครืนครันกึกก้อง พระจันทร์ดวงหนึ่งลอยขึ้นมาในคลื่นวนรางๆ
ราวกับคลื่นวนบนท้องฟ้า เชื่อมต่อกับฟ้าดินที่ไม่รู้จัก และสิ่งที่ลอยเด่นอยู่ในฟ้าดินผืนนั้น คือพระจันทร์สีเลือดขนาดยักษ์ดวงหนึ่ง
นั่นคือพระจันทร์สีชาดที่แท้จริง!
บนพระจันทร์สีชาด มีรูปสลักที่นั่งคุกเข่าบดบังดวงตาทั้งสองรูปหนึ่ง ตอนนี้รูปสลักปล่อยมือทั้งสองข้างลงช้าๆ
มุมปากของรูปสลักยกขึ้น ฉายแววละโมบออกมา
นี่คือร่างจริงของชื่อหมู่!
เห็นได้ชัดว่าการเข้าไปกลืนกินเทพชั้นสูงสักองค์ในดินแดนกาฬกาลกิณี แค่ร่างแยกไม่พอ ชื่อหมู่จึงคิดจะจุติลงไปที่นั่นด้วยตนเอง
องค์ท่านยืนขึ้นบนพระจันทร์สีชาด โลกที่อยู่ฟ้าดินเปลี่ยนสี ครืนครันไปทั้งแปดทิศ ขณะที่เริ่มวอดวาย ร่างขององค์ท่าน ก้าวไปเบื้องหน้าหนึ่งก้าว
ย่างก้าวนี้ ข้ามผ่านกาลเวลา ข้ามผ่านมิติ ข้ามผ่านคลื่นวน ออกจากฟ้าดินที่ไม่รู้จัก มาปรากฏตัวที่…ด้านในบ่อน้ำเก่าแก่ที่ก่อร่างใต้เปลวไฟสีทองของเทพเจ้าปลา
พริบตาที่ปรากฏกาย ร่างแยกที่ลืมตื่นในร่างจางซืออวิ้นก็เริ่มเลือนราง พลังกว่าครึ่งในร่างถูกสูบออกมา กวานบนศีรษะก็เริ่มหม่นหมองเช่นกัน
หลังจากดึงพลังของร่างแยกกลับมากว่าครึ่ง ร่างเดิมของชื่อหมู่ก็เดินเข้าไปในส่วนลึกของบ่อน้ำโบราณ จุติที่ดินแดนกาฬกาลกิณี!
บ่อน้ำโบราณส่งเสียงครืนครัน ขณะที่เทพเจ้าปลาส่งเสียงกรีดร้อง ในบ่อน้ำโบราณที่ถูกบีบคั้นให้ก่อร่างขึ้นก็มีเสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังมาออกมาเช่นกัน
ในที่ที่เรียกว่าดินแดนกาฬกาลกิณีเกิดอะไรขึ้น ไม่มีใครล่วงรู้
ทว่ามีเลือดสดสีทองหลั่งทะลักออกมาจากในบ่อน้ำโบราณมายา ขณะเดียวกันก็มีเสียงกัดเคี้ยวรวมถึงร้องคำรามดังออกมาจากมิติที่ห่างไกลเลาๆ
สะท้อนก้องในแดนต้องห้ามเซียน สะท้อนก้องในเขตปกครองผนึกสมุทร สะท้อนก้องทั่วทั้งแผ่นดินใหญ่คลื่นศักดิ์สิทธิ์ และสะท้อนก้องที่ดินแดนเมืองหลวงจักรพรรดิของเผ่ามนุษย์
ยิ่งสะท้อนก้องไปยังดินแดนเผ่ามนุษย์อีกหลายที่
มากกว่าสี่สิบดินแดน มีเสียงดังออกมาจากความว่างเปล่า
พริบตานี้ สั่นสะเทือนไปทั้งแผ่นดินใหญ่ต้องประสงค์
ขณะเดียวกัน ใต้เสามรรคาสวรรค์พ้นพันธะของมณฑลรับเสด็จราชันก็มีเลือดสดสีทองเอ่อล้นขึ้นมา ถ้ำใต้ท้องทะเลต้องห้ามก็เช่นเดียวกัน
ยังมีอุโมงค์ภูตอีกกว่าแปดพันแห่งที่กระจัดกระจายอยู่ในมณฑลอื่น เขตปกครองอื่น พื้นที่อื่นของแผ่นใหญ่ต้องประสงค์ ล้วนมีเลือดเทพเจ้าเอ่อล้นออกมาอย่างน่าครั่นคร้ามในพริบตานี้
หมื่นเผ่าพรั่นพรึง สรรพสิ่งสั่นเทา
ไม่ใช่แค่นี้ พื้นที่ต้องห้าม แดนต้องห้ามทั้งหมด ตอนนี้ล้วนตกอยู่ในความเงียบสงัด ไม่มีเสียงใดลอดออกมา ตัวตนภายในพากันนิ่งเงียบ
จิตเทพเจ้าที่น่ากลัวหลายสายปะทุขึ้นอย่างคลุมเครือในพื้นที่มากมายของแผ่นดินต้องประสงค์ ล้วนกำลังจับตามอง
กระทั่งเสี้ยวหน้าเทพเจ้าบนท้องฟ้า ก็เหมือนจะหันหน้ามาเล็กน้อย แต่ไม่ได้ลืมตา
สิ่งที่เหล่าองค์ท่านจับตามอง ไม่ใช่ที่ใดที่หนึ่งของเขตปกครองผนึกสมุทร แต่คล้ายจะอยู่ใต้ดิน เห็นได้ชัดว่าดินแดนกาฬกาลกิณี….ไม่ได้หาเจอง่ายดายเช่นนั้น
ส่วนแดนต้องห้ามเซียนเขตปกครองผนึกสมุทรที่ก่อเรื่องขึ้น กลับไม่ค่อยมีคนสนใจนัก แม้ว่าที่นี่กำลังฉายฉากการกลืนกินของเทพเจ้า แต่อย่างไรเมื่อเทียบกับตัวตนเทพเจ้าชั้นสูงแล้ว ก็ยังไม่เพียงพอจะดึงดูดผู้คน
ในแดนต้องห้ามเซียนตอนนี้ หลังจากที่พระจันทร์สีชาดลงไปยังดินแดนกาฬกาลกิณี ร่างแยกที่ใช้ร่างของจางซืออวิ้นเป็นภาชนะที่อยู่ที่นี่ ก็หันหน้ากลับมาในสภาวะภาพมายา ขณะที่น้ำลายไหลหยด ก็กัดกลืนเทพเจ้าปลาตัวใหญ่ฉับพลัน
ความกว้างของปากบดบังร่างกาย กรามบนค้ำแผ่นฟ้า กรามล่างยันพื้นดิน คำเดียวอมเทพเจ้าปลาลงไปกว่าครึ่ง คาบไว้ในปาก แยกชิ้นส่วนและย่อยอย่างต่อเนื่อง กลืนลงไปทีละน้อย
หลังจากที่คาบไว้แน่น องค์ท่านก็เริ่มกลับไปที่คลื่นวนสีแดงบนท้องฟ้า
เหมือนจะลากเทพเจ้าปลาเข้าไปในคลื่นวน
ราวกับว่าทั้งหมด กำลังจะจบสิ้น
ไม่มีใครกล้ารบกวนการกินของพระจันทร์สีชาด ต่อให้ที่นี่จะเป็นเพียงแค่ร่างแยก ถูกร่างจริงสูบพลังกว่าครึ่งไปก่อนหน้านี้เพื่อไปยังดินแดนกาฬกาลกิณี แต่ก็ยังไม่มีใครกล้ารบกวนแม้แต่น้อย
กองทัพใหญ่เผ่ามนุษย์ในแดนต้องห้ามเซียนส่วนใหญ่ถูกผลกระทบจนสลบไป ไอพลังประหลาดแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ล้มตายไปก็ไม่น้อย พวกเขาย่อมไม่กล้า
ต่อให้เป็นพวกองค์ชายเจ็ดที่ทางเข้าแดนต้องห้ามเซียนก็เงียบนิ่ง
แต่ตอนนี้เอง ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นกะทันหัน!
ขณะที่ปากขนาดใหญ่ที่แปรมาจากร่างแยกชื่อหมู่คาบร่างเทพเจ้าปลาไปครึ่งหนึ่ง คมเขี้ยวจมลงไปในเนื้อและกำลังจะกลับไปในคลื่นวน จู่ๆ ท้องฟ้าสีแดงข้างๆ ก็ปรากฏรอยปริแตกรอยหนึ่งขึ้นมา
รอยปริแตกในม่านฟ้าสีเลือดนี้สะดุดตายิ่ง เพาะสีของมันแตกต่างกับท้องฟ้าสีเลือดอย่างมาก!
ระเบิดแสงสีขาวออกมาจากด้านใน
แสงนี้ขาวราวหิมะ ขณะที่เจิดจ้าแยงตา ด้านในก็มีมือข้างหนึ่งยื่นออกมา!
มือสีขาวราวหิมะข้างหนึ่งขนาดนับพันจั้ง
เหมือนสร้างมาจากหยกสีขาว เผยเจตจำนงศักดิ์สิทธิ์เช่นเดียวกับเทพเจ้าออกมา
จากการปรากฏขึ้น รอบด้านก็บิดเบี้ยวทันที เลือนรางไปหมด ขณะที่ไอพลังประหลาดของมือหยกขาวข้างนี้แผ่ซ่านไปรอบทิศ องค์ท่านก็คว้าไปทางเทพเจ้าปลาที่ถูกร่างแยกชื่อหมู่คาบเอาไว้!
ไกลออกไป พริบตาที่สวี่ชิงเห็นทั้งหมดผ่านภาพพร่าเลือนในฝ่ามือของนายกอง ในใจเขาก็โหมคลื่นกระหน่ำซัด เพราะ…เขาเคยเห็นมือหยกขาวข้างนั้นมาก่อน!
เมื่อครั้งที่เขาปะทะกับฉู่เทียนฉวินบิดาของเซิ่งอวิ๋นผู้ปราดเปรื่องในโลกใบเล็กเผ่าควันขจร วิชาเทพน่าครั่นคร้ามที่อีกฝ่ายสำแดงออกมาตอนสุดท้ายก็คือมือหยกขาวข้างนี้


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา