เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 552

บทที่ 552-2 ยามที่สู้กับสวรรค์ หาไม่สักวันจะผันแปร (2)

สวี่ชิงครุ่นคิด ก้มหน้ามองผิวน้ำทะเล จากนั้นยกมือแผ่เกราะป้องกันไปที่ร่างหลิงเอ๋อร์

หลิงเอ๋อร์รู้ว่าสวี่ชิงจะฝึกบำเพ็ญ จึงว่าง่ายไม่รบกวน เพียงแค่ส่งเสียงใสกังวานออกมา

“พี่สวี่ชิงต้องทำสำเร็จแน่ ข้าตอนนี้สำแดงพรสวรรค์ได้บ้างแล้ว ช่วยเหลือพี่สวี่ชิงสัมผัสรอบๆ ได้ว่ามีคนคิดร้ายอยู่หรือไม่!”

สวี่ชิงยิ้ม ในฟ้าดินที่ไม่รู้จัก สิ่งที่เขาเห็นในช่วงหลายวันนี้ล้วนเป็นความมืดมิด แต่เมื่อมีหลิงเอ๋อร์อยู่ด้วย กลับไม่รู้สึกถึงความโดดเดี่ยวเลย

ดังนั้นหลังจากพยักหน้า สวี่ชิงจัดวางทุกอย่างเสร็จ ในดวงตาฉายแววเฝ้ารอ พุ่งไปยังทะเลเบื้องล่าง

พริบตาที่พุ่งลงไป ทะเลเพลิงก็โหมขึ้นรอบตัวเขา ผลึกวารีสีม่วงในร่างสวี่ชิงสั่นสะเทือน

จากการที่สวี่ชิงอ้าปากสูดรับ เปลวเพลิงรอบๆ พลันก็พุ่งเข้าไปในปาก หลังจากสวี่ชิงกลืนกินลงไป เขาก็ครุ่นคิด ยกมือขึ้นสัมผัสผิวหินหนืด

อุณหภูมิสูงมาก

แต่มือก็ยังอยู่ดี

‘ร่างนี้ของข้า น่าจะทานรับได้’ สวี่ชิงคิดถึงจุดนี้ก็ดำดิ่งลงไปในหินหนืดทันที

หลังจากร่างกายกว่าครึ่งจมลงไป สวี่ชิงก็สูดลมหายใจ เขาสัมผัสถึงอุณหภูมิสูงยิ่งที่โอบล้อมร่างกาย ความรู้สึกร้อนลวก กลายเป็นความเจ็บปวดทิ่มแทง

งลงไปอีกไม่ได้แล้วง

สวี่ชิงครุ่นคิด ระวังตัวรอบๆ พลางอ้าปาก สูดเปลวไฟรอบๆ ต่อไป

ไม่นานนัก ขณะที่ผลึกวารีสีม่วงในร่างกายเขาสูดรับอย่างต่อเนื่อง ก็เปล่งแสงเจิดจ้าออกมาหกสาย ส่องสว่างทะเลความรู้สึกของสวี่ชิง

หมอกแห่งชะตาไม่คลุมเครือภายใต้แสงนี้แล้ว ตะเกียงแห่งชีวิตห้าดวงในนั้นยิ่งชัดเจนขึ้น

สวี่ชิงเฝ้ารอเสียเต็มประดา แม้เขาจะควบคุมทิศทางส่องแสงที่เกิดจากผลึกวารีสีม่วงไม่ได้ แต่ตราบใดที่ส่องผ่านทะเลความรู้สึกเข้าไปในหมอกแห่งชะตา ดวงแรกที่จะได้รับแสงสว่างย่อมเป็นตะเกียงร่มดำ

ตะเกียงแห่งชีวิตที่เขาได้มาจากตำหนักเทพเกาะเงือกในตอนนั้น เวลานี้ด้วยการส่องสว่างของแสงทั้งหกสายนี้ก็เริ่มหลอมละลาย

ปลายแหลมที่เกิดขึ้นจากโครงร่มไม่ได้แหลมคมอีกต่อไป ค่อยๆ เปลี่ยนรูปร่างเป็นกลมมน จนกระทั่งกลายเป็นของเหลว ร่วงลงมา

ขณะที่ร่างเขาสั่นสะท้าน สะสารมหัศจรรย์ที่มาจากตะเกียงแห่งชีวิตส่วนหนึ่งกระจายไปในทะเลความรู้สึก ผสานเข้าไปในสายโลหิตของเขา

ทุกอย่าง เหมือนกับที่สวี่ชิงเคยพิสูจน์ไว้ก่อนหน้านี้ไม่ผิดเพี้ยน

ดวงตาสวี่ชิงเปล่งประกาย สูดลมหายใจลึก สูดรับเปลวเพลิงมากขึ้น ก่อตัวแสงสีม่วงหกสายอีกครั้ง หลอมละลายต่อ

หนึ่งชั่วยามต่อมา ของเหลวหยดที่สองก็ร่วงลงมาจากตะเกียงแห่งชีวิตร่มดำ และระหว่างนี้ปราณก่อกำเนิดที่ก่อร่างจากตะเกียงแห่งชีวิตก็กลายเป็นภาพมายา เริ่มเลือนรางจากการที่ตะเกียงแห่งชีวิตหลอมละลาย

สวี่ชิงหยุดลงทันที สังเกตอย่างละเอียด

จนกระทั่งยืนยันว่าปราณก่อกำเนิดของตนไม่ได้รับความเสียหาย แต่หลอมละลายผสานอยู่ในตะเกียงแห่งชีวิต หลังจากที่ผสานรวมกับมันแล้ว สวี่ชิงก็ถอนใจโล่ง ดำเนินการต่อ

เวลาผ่านไปสามวันเช่นนี้

ด้วยเปลวเพลิงที่เพียงพอ ขณะที่สวี่ชิงหลอมละลายตะเกียงแห่งชีวิตอย่างต่อเนื่อง ร่มดำใหญ่ของเขาก็ค่อยๆ หลอมละลายไปสามส่วน

ตอนนี้ดูไม่เหมือนตะเกียงแห่งชีวิต กลายเป็นร่มพังๆ ไปแล้ว

ส่วนวัตถุมหัศจรรย์ที่ประกอบเป็นตะเกียงแห่งชีวิตในสายโลหิตของเขา ก็ยกระดับความเข้มข้นขึ้นเช่นกัน

สวี่ชิงรู้สึกถึงบางอย่างที่แรงกล้า หลังจากที่ระดับความเข้มข้นยกระดับถึงระดับหนึ่งก็น่าจะสร้างตะเกียงแห่งชีวิตที่เป็นของตนเองขึ้นมาได้

คิดถึงจุดนี้ สวี่ชิงก็หายใจหอบถี่ แต่ยับยั้งการสูดรับเปลวเพลิงอย่างต่อเนื่องไว้ ลุกขึ้นแล้วทะยานออกไปจากที่นี่อย่างรวดเร็ว

มุ่งหน้าต่อเนื่องไปอีกหนึ่งวัน เปลี่ยนตำแหน่งแล้วแช่ร่างลงไปหินหนืด และสูดรับต่ออีกครั้ง

อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย นิสัยระแวดระวังและรอบคอบของสวี่ชิงก็เหมือนกลับไปยังตอนที่พึ่งเข้าไปอยู่ในเจ็ดเนตรโลหิตตอนนั้น

เขารู้ว่าตนอยู่ที่ใดที่หนึ่งนานๆ ไม่ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ระดับความอันตรายก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น

หลังจากเปลี่ยนตำแหน่ง สวี่ชิงก็สังเกตรอบด้านก่อน ยืนยันว่าที่นี่ไม่มีปัญหา

“น่าเสียดาย ทะเลเพลิงแห่งนี้ไม่เหมาะจะวางค่ายกล ไม่เช่นนั้นก็จะง่ายขึ้นมาก”

สวี่ชิงพึมพำ หลังจากครุ่นคิด ร่างเขาก็ค่อยๆ เลือนราง กลายเป็นสภาวะกึ่งโปร่งใสของเผ่าพรางมารยา

ตะเกียงแห่งชีวิตร่มดำที่ไม่เหลือเค้าเดิมแล้ว ด้วยการที่แสงจากผลึกวารีสีม่วงส่องสะท้อนต่อเนื่อง ก็หลอมละลายอีกครั้ง เพียงแต่ยิ่งถึงตอนสุดท้าย การหลอมละลายของตะเกียงแห่งชีวิตก็ยิ่งช้า

โดยเฉพาะที่ใต้ตะเกียงยิ่งเป็นเช่นนั้น

ดังนั้นผ่านไปสามวัน ตอนที่สวี่ชิงเปลี่ยนตำแหน่ง การหลอมละลายของตะเกียงแห่งชีวิตก็มาถึงห้าส่วน

‘ไม่เป็นไร ยังพอมีเวลา!’

สวี่ชิงไม่รีบร้อน รักษาจังหวะของตนเองต่อไป ทุกที่ล้วนอยู่ไม่เกินสามวัน เปลี่ยนตำแหน่งไปซ้ำๆ สูดรับไปซ้ำๆ

ตะเกียงแห่งชีวิตร่มดำของเขาก็หลอมละลายจากห้าส่วนค่อยๆ ไปถึงหกส่วน เจ็ดส่วน แปดส่วนเช่นนี้…

ระหว่างนี้ ก็มีผลึกสีแดงก่อตัวขึ้นบนร่างเขา ทุกครั้งที่เกิดขึ้นชิ้นหนึ่ง ก็จะถูกเขาเก็บไปทันที

สวี่ชิงไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้คืออะไร แต่จะเปิดเผยไว้ด้านนอกคงไม่ดีเท่าไรนัก

และความรอบคอบเช่นนี้ของเขา ก็ใช่ว่าไม่มีประโยชน์

“ผลึกเพลิงสวรรค์ชั้นสูง!!”

เหนือทะเลเพลิงสวรรค์ กลุ่มเล็กๆ ที่ผู้บำเพ็ญเผ่าเงาคันฉ่องรวมตัวกันกลุ่มหนึ่ง ตอนนี้กำลังทะยานรุดหน้ากลางอากาศอย่างรวดเร็ว

พวกเขาแตกต่างกับเผ่าเงาคันฉ่องที่สวี่ชิงเคยเจอมาทั้งหมด ร่างกายไม่ใช่กระจก แต่เป็นร่างที่มีกายเนื้อ และรูปร่างก็ไม่เหมือนกัน กายเนื้อมาจากชนเผ่าต่างๆ

และที่หน้าผากของทุกคนล้วนมีเศษกระจกทรงข้าวหลามตัดชิ้นหนึ่งงอกออกมา เป็นสีแดงชาด ไม่มีรอยแตก และไม่มีคราบสกปรก ดูโปร่งใสอย่างยิ่ง

บทที่ 552-2 ยามที่สู้กับสวรรค์ หาไม่สักวันจะผันแปร (2) 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา