เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 559

บทที่ 559 โลงสัมฤทธิ์ใต้ทะเลเพลิงสวรรค์! (2)

ค่าตอบแทนของการสังหารผู้รับใช้เทวะ เป็นสิ่งที่เผ่าพันธุ์ใดก็ตามในแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทราไม่อาจแบกรับได้

กระทั่งว่าด้วยฐานะผู้รับใช้เทวะของนางแล้ว เพียงประโยคเดียวก็สามารถตัดสินความเป็นตายของเผ่าเล็กๆ เผ่าหนึ่งได้

เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะนางเติบโตอยู่ในตำหนักเทวะมาตั้งแต่เด็กๆ ในเผ่าเคยมีผู้ที่ดำรงตำแหน่งทูตเทวะ เช่นนี้ถึงจะทำให้ผู้สืบสายเลือดได้รับวาสนาอันล้ำค่าเป็นที่สุดในแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทราเช่นนี้ได้

ตอนนี้นางทะยานอยู่ใต้หินหนืดพันจั้ง เป้าหมายชัดเจน

และสวี่ชิงก็อยู่ที่ระดับความลึกพันจั้งเช่นกัน ห่างไปจากที่นี่ไม่ไกล จากการสัมผัสรับรู้ที่รางเลือน กำลังเข้ามาใกล้

ทั้งสองฝ่ายคนหนึ่งอยู่ข้างหน้า คนหนึ่งอยู่ข้างหลัง กำลังเข้ามาใกล้

เพียงแต่ เทียบกับสวี่ชิงทางนี้แล้ว ความเร็วของหญิงสาวคนนั้นเร็วกว่า ดังนั้น นางจึงเข้าไปในพื้นที่ที่กำหนดไว้ได้ก่อน

และการสกัดกั้นประสาทสัมผัสเทพใต้หินหนืดก็ทำให้พวกเขาทั้งสองคนตอนนี้ต่างสัมผัสถึงตัวตนซึ่งกันและกันไม่ได้ นอกจากนี้ เทียบกับสวี่ชิงแล้ว พวกเขาทั้งสองคนเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน ก็เป็นตัวกำหนดให้ความระแวดระวังภัยของผู้รับใช้เทวะสู้สวี่ชิงไม่ได้

ดังนั้น ภายใต้การเข้าไปใกล้อย่างระมัดระวังของสวี่ชิง เขาเห็นบริเวณที่พลังพระจันทร์สีม่วงสัมผัสได้ในพริบตา และมองเห็นเงาร่างของหญิงสาวชุดแดงที่พุ่งตรงไปทางนั้น

ร่างสวี่ชิงหยุดชะงักทันที ย่อตัวลง พยายามย่อตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สายตาฉายประกายวาววับ สังเกตเงียบๆ

จากที่ไกล ใต้หินหนืดความลึกระดับพันจั้ง ตรงนั้นมีภูเขายอดตัดขนาดมหึมาแปลกประหลาดลูกหนึ่ง

พูดให้ถูกต้องคือ นี่อาจจะไม่ใช่ภูเขา แต่เป็นเหมือนโลงขนาดมหึมาที่วางตั้งตรงอยู่ตรงนั้นมากกว่า

ส่วนที่ปรากฏในสายตาสวี่ชิงมีขนาดราวกับเมือง เห็นได้ถึงความใหญ่โตของโลงใบนี้

ทั้งโลงทำมาจากสัมฤทธิ์ บนนั้นเต็มไปด้วยรอยสนิม ผสมไปด้วยสีดำ สีเขียวและสีฟ้า หลอมรวมอยู่ด้วยกัน ทำให้โลงใบนั้นเต็มไปด้วยความเก่าแก่

เหมือนว่ามันถูกวางอยู่ตรงนั้นเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว

ส่วนความสูงไม่รู้ สวี่ชิงกวาดสายตามองไปมองไม่เห็นขอบ เห็นเพียงที่มุมทั้งสี่ของโลงมีโซ่เส้นหนาสี่เส้นเชื่อมต่อไปในจุดลึกของหินหนืด

นอกจากนี้ ฝาโลงก็ไม่ได้ปิดสนิทแต่เผยอช่องว่างไว้ช่องหนึ่ง

เพียงแต่เนื่องจากโลงใบนี้มีขนาดมหึมานัก ดังนั้นช่องที่เผยอนี้ดูแล้วจึงเหมือนกับร่องหุบเหวลึก

ตอนนี้ เงาร่างที่สวมชุดแดงร่างนั้นกำลังลอยต่ำลงไปในรอยแยกนั่น ลอยอยู่ที่ความสูงหนึ่งร้อยจั้ง สองมือประสานปาง ระลอกคลื่นที่แฝงไว้ด้วยพลังเทพพระจันทร์สีชาดแต่ละทางก็แผ่ไปทั่วทุกทิศจากการทำปางมือ

ผสานเข้าไปในเขตแดนต้องห้ามไร้รูปร่างที่เดิมก็อยู่ที่นี่อยู่แล้ว ทำให้ที่นี่ประกายแสงสีแดงกะพริบวูบวาบ ตาข่ายผืนมหึมาค่อยๆ ปรากฏออกมา

ตาข่ายนี้ก็แปรเปลี่ยนมาจากเขตแดนต้องห้ามที่นี่นั่นเอง

มองไปให้ละเอียดก็จะเห็นว่าตาข่ายที่ปรากฏออกมาเต็มไปด้วยอักขระ ฉายพลังอำนาจเทพออกมา

สวี่ชิงอำพรางร่องรอย สังเกตอย่างละเอียด มองออกว่าอีกฝ่ายเหมือนจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้เขตแดนต้องห้าม เพียงแต่ พลังเทพแค่นี้ไม่มีผลอะไรเท่าไร

แต่ไม่นานนัก ดวงตาสวี่ชิงก็จ้องเพ่ง เขาเห็นหลังจากที่หญิงสาวชุดแดงคนนั้นประสานปางมือ ก็เอาผลึกวารีสีแดงก่ำขนาดเท่ากับศีรษะลูกหนึ่งออกมาจากในร่าง

ทันทีที่ผลึกวารีนี้ปรากฏออกมา หินหนืดรอบๆ ก็เดือดพล่าน ยิ่งมีกลิ่นอายน่ากลัวแผ่ซ่านออกมาจากในผลึกวารี สวี่ชิงจิตใจสั่นสะท้านไปเช่นกัน

คนนอกอาจจะมองไม่ออก แต่เขาผ่านจากการรับรู้ของพระจันทร์ม่วงตัวเองก็วิเคราะห์ได้ทันทีว่าผลึกวารีลูกนี้เกิดจากเลือดที่หลังจากถูกทำให้เจือจางนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

‘เลือดของชื่อหมู่อย่างนั้นหรือ’

สวี่ชิงหัวใจเต้นรัว แม้จะเป็นเลือดที่ถูกทำให้เจือจางแล้วหยดหนึ่ง แต่พลังพระจันทร์สีชาดที่แฝงอยู่ในนั้นก็ยังคงเข้มข้นเป็นอย่างยิ่ง สำหรับสวี่ชิงแล้วก็เป็นการบำรุงอย่างมหาศาลเช่นกัน

ในตอนที่สวี่ชิงจับตามอง หญิงสาวชุดแดงคนนี้ก็มองผลึกวารี ในดวงตาก็ฉายความปรารถนาออกมาเช่นกัน แต่กลับฝืนควบคุมเอาไว้ นางรู้ว่านี่ไม่ใช่ของที่ตัวเองจะใช้ได้

‘รอเทพชั้นสูงมา หลังจากที่เก็บเกี่ยวดินแดนนี้ ตระกูลที่ข้าอยู่ก็จะได้โลหิตเทวะเช่นนี้เหมือนกัน ถึงตอนนั้น บางทีข้าอาจจะมีโอกาสดูดซับสักหน่อย’

หญิงสาวพึมพำในใจ จากนั้นก็ยกมือ โยนผลึกวารีนี้ลงไป

ผลึกวารีไม่ได้ร่วงลงไปในรอยแยก แต่ลอยอยู่ในหุบเหว แตกร้าวขึ้นเอง แผ่ระลอกคลื่นพลังน่ากลัวออกมา ผสานไปในเขตแดนต้องห้ามรอบๆ ทำให้ตาข่ายสีแดงที่ปรากฏออกมาผืนนั้นยิ่งพราวพร่างระยิบระยับ

นี่ ถึงจะเป็นการเพิ่มพลังที่แท้จริง

และจากตาข่ายสีเลือดทอประกายแสงเจิดจ้า พลังอำนาจเทพเพิ่มขึ้น โลงมหึมาใบนั้นก็ถูกพลังนี้กระตุ้น พลันสั่นสะท้านขึ้นมา ยิ่งมีเสียงคำรามเจ็บปวดเสียงหนึ่งดังก้องออกมาจากในโลง

“ชื่อหมู่!!”

เสียงนี้ดังออกมา โลงก็สั่นไหวแรงยิ่งขึ้น สวี่ชิงในใจเกิดระลอกคลื่น ในยามที่ยิ่งระมัดระวัง หญิงสาวชุดแดงก็ก้มหน้า ทอดสายตามองหุบเหว ส่งจิตเทพออกไป

“หุบปาก!”

เสียงลมหายใจหอบถี่ดังก้องออกมาจากในโลง เห็นได้ชัดว่าการหยามหมิ่นจากผู้บำเพ็ญระดับต่ำเช่นนี้ สำหรับตัวตนที่อยู่ในโลงแล้วเป็นการหยามหมิ่นที่สุดแสนอัปยศ

แต่กลับจนปัญญา

หญิงสาวชุดแดงดวงตาฉายแววเยาะเย้ย สำหรับนาง หยามหมิ่นตัวตนโบราณทั้งยังน่ากลัวแบบนี้ นำมาซึ่งความตื่นเต้นเร้าใจสุดแสนพิเศษมาให้ จึงยกมือสะบัด เอาเนื้อชุ่มเลือดแต่ละก้อนๆ ออกมาจากในถุงเก็บของ

ทั้งหมดร้อยกว่าก้อน ทุกก้อนล้วนมีขนาดสิบจั้ง หลังจากลอยเต็มอยู่รอบๆ หญิงสาวยกมือขึ้นชี้ออกไป ทันใดนั้น เนื้อก้อนหนึ่งก็ร่วงลงไปในหุบเหวลึก

“กินสิ นี่เป็นอาหารที่เทพสูงสุดเตรียมให้เจ้า ล้วนแต่เป็นประชาชนในแผ่นดินใหญ่เซ่นจันทราทั้งนั้น พี่น้องทั้งหลายของเจ้า พวกเขาก็เหมือนกับเจ้า ล้วนชอบกินกันทั้งนั้น

“อีกทั้ง เพื่อให้พวกเจ้าย่อยได้ดียิ่งขึ้น พวกเรายังใส่ใจเลาะกระดูกออกให้หมดด้วย

“กินให้อร่อย”

บทที่ 559-2 โลงสัมฤทธิ์ใต้ทะเลเพลิงสวรรค์! (2) 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา