เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 798

บทที่ 798 ยุคทองแห่งเซียนต่างวิถี

บนท้องฟ้าเหนือวังศึกษา ไหมวิญญาณหนึ่งล้านสามเส้นประดุจงูตัวยาวล้านตัว สอดประสานไม่หยุด หลอมรวมไม่หยุด ก่อเป็นร่างสะท้านฟ้า สูงถึงหลายพันจั้ง

ร่างนี้มีลักษณะเป็นจักรพรรดิภูติ พลังกดดันสั่นคลอนโลก ยิ่งอยู่ภายใต้ติงหนึ่งสามสองที่อยู่เหนือศีรษะเป็นกวานจักรพรรดิ ทำให้ร่างที่เหมือนจักรพรรดิเหมือนราชันนี้ ยิ่งมีรัศมีอำนาจจักรพรรดิปกคลุม แปรเป็นมังกรทองมากมาย คำรามไปทั่วทิศ

กระทั่งว่าแม้แต่แสงประกายอรุณก็ยังถูกไหมวิญญาณเลียนแบบออกมา กะพริบรอบกายเกิดเป็นรัศมี มีความรู้สึกดั่งเทพเจ้า

ในร่างยังมีเสียงคำรามของอสูรสมุทรบรรพกาลดังสะท้อน เสียงราวทัณฑ์สวรรค์ สั่นคลอนจิตใจคนที่ดูอยู่ทุกคน โดยเฉพาะความรู้สึกของวิถีสวรรค์รุนแรงเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังแปรเปลี่ยนเป็นเตาหลอมในร่างของเขาที่ลุกโหมเผาไหม้

ไฟของเตาหลอมแผ่ออกมาข้างนอก ก่อเป็นทะเลเพลิงกว้างใหญ่ ลุกโหมหอบม้วนไปทั่วทุกทิศ แผ่ลามไปถึงร้อยลี้ สุดปลายสายตาที่มองไป เปลวเพลิงพุ่งขึ้น รัศมีอำนาจน่าครั่นคร้าม

และร่างที่ยืนตระหง่านอยู่กลางทะเลเพลิง ยกมือขวาขึ้น คว้าไปกลางอากาศ ทันใดนั้นทวนยาววิหคทองเล่มหนึ่งก็ปรากฏออกมา ร่างนี้คว้าเอาไว้มั่น ขณะสะบัดตัวทวนเฉียงลง ชี้ไปยังเจ้าสายผสานเทพ

บนปลายทวน จะเห็นรูปร่างของวิหคทองชัดเจนยิ่ง ในดวงตามีความเฉียบคม ปากพ่นไฟ ผสานทะเลเพลิงไปในนั้น ภายใต้การเพิ่มพลังของมัน ทำให้ร่างนี้มีความน่าครั่นคร้ามประดุจเทพเจ้า

นี่เป็นสภาวะเทพขั้นที่หนึ่งของสวี่ชิงนั่นเอง อีกทั้งยังเป็นสภาวะที่สมบูรณ์ที่สุด

แต่ไม่เหมือนกับอดีต ครั้งนี้ องค์ท่านไม่ได้ผสานสวี่ชิงไปข้างใน แต่ยืนอยู่ข้างหลังสวี่ชิง พลังอำนาจเทพท่วมฟ้า

ส่วนสวี่ชิง เขายืนอยู่ข้างหน้าสภาวะเทพขั้นที่หนึ่งนี้ เหยียบอยู่บนเปลวเพลิง ร่างของเขาเทียบกับสภาวะเทพแล้ว ทั้งๆ ที่ขนาดแตกต่างกันอย่างมาก แต่กลับทำให้รู้สึกเหมือนควบคุมเทพเจ้า

เหมือนว่าเทพเจ้าตอนนี้กลายเป็นสิ่งขับเน้น

ภาพนี้ทำให้ทุกคนที่วังศึกษาต่างจิตใจแผ่ระลอกกันทุกคน ขั้วอำนาจแต่ละฝ่ายต่างตื่นตะลึง จักรพรรดิมนุษย์ทางนั้นก็จับจ้อง

โดยเฉพาะเจ้าสายเซียนต่างวิถีตอนนี้ตื่นเต้นเป็นที่สุด เฉินเต้าเจ๋อที่อยู่ข้างๆ ก็สูดลมหายใจลึก ในใจมีความซับซ้อน ในสายตามีความสะท้อนใจ

ส่วนที่บรรดาลูกศิษย์สายเซียนต่างวิถีที่อยู่ในหมู่ผู้ร่ำเรียนตอนนี้ก็เลิกซ่อนตัว แต่ละคนในดวงตาต่างฉายความฮึกเหิมตื่นเต้นออกมาอย่างยากที่ปกปิด เพราะการลงมือของสวี่ชิง พากันเดินออกมา

การเสวนาเต๋าของสายทั้งสองครั้งนี้ ได้กลายเป็นเวทีของสวี่ชิงเพียงคนเดียวไปโดยไม่รู้ตัว

สังหารองค์ชาย สำแดงเซียนต่างวิถี ทุกเรื่องล้วนเป็นเรื่องน่าตื่นตะลึงทั้งสิ้น

และตอนนี้ จากการเดินออกมาของสวี่ชิง อีกตัวตนหนึ่งของเขาไม่ต้องบอกก็รู้

ผู้บำเพ็ญขั้นใหญ่ลึกลับ…ของสายเซียนต่างวิถีคนนั้น!

ต้องรู้ว่าผู้บำเพ็ญขั้นใหญ่ลึกลับผู้นี้ ในการสร้างสถานการณ์ของสายเซียนต่างวิถีตลอดจนการวิพากษ์วิจารณ์จากภายนอก นั่นคือบรรพจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของสายเซียนต่างวิถี ยิ่งเป็นต้นกำเนิดของการผงาดขึ้นของสายเซียนต่างวิถี

ดังนั้น การปรากฏตัวออกมาของสวี่ชิงในตอนนี้สร้างความตื่นตะลึงให้กับลูกศิษย์สายเซียนต่างวิถีเป็นอย่างยิ่ง

ศิษย์คนสำคัญสายเซียนต่างวิถีในอดีตเหล่านั้น ที่สวี่ชิงเปิดเผยฐานะเจ้าแดนก่อนหน้านี้ก็ตื่นตะลึงแล้ว ตอนนี้หลังจากรู้ว่าสวี่ชิงเป็นต้นกำเนิดพลังของเซียนต่างวิถี แต่ละคนในใจล้วนเกิดลมพายุซัดกระหน่ำ

ในนั้น ศิษย์คนสำคัญที่ตอนนั้นมองสวี่ชิงอย่างโมโหยิ่งหน้าซีดเผือด ทั้งยังมีคนที่ชิงศิษย์ตัวแทนสายกับสวี่ชิงในใจก็กระวนกระวายเช่นกัน

ส่วนศิษย์คนสำคัญที่เข้ามาเร็วกว่าสวี่ชิงสามคนนั้น ตอนนี้ดวงตาเบิกกว้าง

‘บรรพจารย์…พิมพ์จุลสารกับพวกเราอย่างนั้นหรือ’

ในกลุ่มคนยังมีผู้ร่ำเรียนอีกคนหนึ่ง คนผู้นี้เป็นสตรีลึกลับที่วันนั้นอยู่นอกสำนักยอดจักรพรรดิดาราสาขาย่อยคนนั้นนั่นเอง ตอนนี้นางเงยหน้ามองสวี่ชิงที่อยู่กลางท้องฟ้า มองอย่างมั่นใจเป็นอย่างมาก ในใจเกิดระลอกคลื่นอารมณ์อย่างต่อเนื่อง

‘ที่แท้ก็เป็นเจ้า!’

นางกัดฟัน

และภายใต้การจับจ้องจากสายตาคนทั้งหลาย กลางท้องฟ้า สวี่ชิงที่ยืนอยู่ข้างหน้าสภาวะเทพขั้นที่หนึ่ง จ้องมองเจ้าสายผสานเทพ เอ่ยราบเรียบ

“สายเซียนต่างวิถี หลอมไหมวิญญาณ ถักทอความเป็นเทพ สร้างเป็นเงาเทพ

“ทุกอย่างนี้ล้วนเป็นเพียงแค่ผิวภายนอก ประโยชน์ที่ใหญ่ที่สุดของสายเซียนต่างวิถีคือสามารถนำพลังต้นกำเนิดเทพเปลี่ยนให้เป็นพลังในการทะลวงขั้น!

“ในยามถึงขีดจำกัดสูงสุดเผาไหม้เงาเทพให้เป็นแหล่งกำเนิดพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ฝืนทะลวงกำแพงปราการ ก้าวไปข้างหน้าต่อ ก็จะฝ่าฝันเส้นทางสายใหม่ อาศัยพลังเทพสำเร็จเป็นเซียน เรียกว่าเซียนต่างวิถี

“ก่อนหน้านี้ เหตุที่เซียนต่างวิถีตกต่ำ คนภายนอกมองว่าเป็นเพราะฝึกบำเพ็ญได้ผลช้า แต่ความจริงแล้วเป็นเพราะไม่เคยมีคนมีไหมวิญญาณล้านเส้นปรากฏขึ้นมาก่อน

“ไหมวิญญาณล้านเส้นก่อให้เกิดเมล็ดพันธุ์วิถีขึ้นมาได้ ลูกศิษย์ผสานเมล็ดพันธุ์วิถีก็จะเร่งความเร็วในการฝึกฝนได้

“ตอนนี้ เงาเทพข้างหลังข้าเงานี้ เซียนต่างวิถีไหมวิญญาณสามแสนเส้นก็สามารถสร้างออกมาได้ จะถึงระดับหวนสู่อนัตตาขั้นหนึ่ง การเผาไหม้จะสามารถผลักดันกำแพงปราการฝึกฝนได้!”

สวี่ชิงพูดพลางชี้ไปทางเฉินเต้าเจ๋อ

เฉินเต้าเจ๋อย่อมรู้ความหมายของสวี่ชิง ดังนั้นเขาจึงสูดลมหายใจลึก หลังจากโค้งคารวะสวี่ชิงอย่างเคารพนอบน้อม ก็เงยหน้ามองไปยังเงาเทพข้างหลังสวี่ชิง สังเกตอย่างละเอียดเป็นอย่างยิ่ง ทุกชุ่นมองไปจนถึงรายละเอียด

และเขาจดจ่ออยู่กับสายเซียนต่างวิถีมาสองพันกว่าปี ทักษะการสังเกตก็อยู่ในระดับชำนาญการตั้งนานแล้ว แม้เงาเทพของสวี่ชิงจะซับซ้อน แต่หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็กระจ่างแจ้ง ยกมือขวาขึ้นสะบัด

ทันใดนั้นไหมวิญญาณหกแสนเส้นก็แผ่ออกมาจากร่างของเขา สะบัดพริ้วอยู่ข้างนอก สุดท้ายก็ถักทออย่างรวดเร็วข้างหลัง ก่อเป็นเค้าโครง และผ่านการปรับแต่งอย่างละเอียด

สุดท้าย…ร่างสภาวะเทพที่เล็กกว่าสวี่ชิงทางนั้นเล็กน้อยก็พลันปรากฏขึ้น

รูปลักษณ์ภายนอกที่เหมือนกันทุกประประการ แม้แต่กลิ่นอายก็เช่นกัน มีเพียงเงาเทพของสวี่ชิงทางนั้นที่ยิ่งสมจริงกว่า

และระหว่างพวกเขา แต่เดิมแก่นแท้นั้นแตกต่างกัน แต่อาศัยเมล็ดพันธุ์วิถีในร่างมาสำแดงก็ทำให้แก่นแท้ในเสี้ยวขณะนี้เปลี่ยนมาเหมือนกัน

ทิศทางยิ่งเหมือนกัน

ความสั่นสะเทือนจากฉากนี้ที่นำมาให้คนทั้งหลายยิ่งรุนแรง

ในเมื่อเห็นกับทำได้ เป็นสัมผัสรับรู้ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

โดยเฉพาะลูกศิษย์ของสายเซียนต่างวิถี พวกเขาต่างตื่นเต้น เพราะบรรพจารย์เฉินเต้าเจ๋อสร้างเงาร่างเทพของสวี่ชิงได้ นี่หมายถึงผู้ที่เงื่อนไขตรงกับคุณสมบัติในอนาคต ใครก็สามารถทำได้ นี่คือความหวัง

บทที่ 798 ยุคทองแห่งเซียนต่างวิถี 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา