เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 813

บทที่ 813 เพลิงศพลุกลาม

ทั้งตำหนักใหญ่เงียบสงัด

ไม่มีใครพูดจา มีเพียงเสียงสุดท้ายขององค์ชายห้าที่ดังกึกก้อง

ทว่าการกระทำขององค์ชายห้าก็ไม่ได้ทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ชอบใจ อย่างไรเขาก็พูดออกมาตรงๆ ไม่ได้ทำหน้าสุขุมแล้วแอบมีแผนร้าย แต่ขอสู้ด้วยวิธีซื่อตรง

ซ้ำคำพูดยังมีเหตุผลและหลักฐาน ทั้งยอมรับความผิดและการสิ้นพระชนม์ขององค์ชายเจ็ด

เป็นเช่นที่พระองค์ว่าจริง อย่างไรพระองค์ก็เป็นพระเชษฐาขององค์ชายเจ็ด รู้ว่าพระอนุชาตัวเองตาย หากพระองค์ไม่รู้สึกรู้สา ในใจต้องมีสิ่งกีดขวางเป็นแน่

โดยเฉพาะคำว่าครอบครัวรวมเป็นเผ่า ยิ่งทำให้คนยากจะพูดอะไร

ดังนั้นแม้แต่จักรพรรดิมนุษย์ก็ที่จะเลือกเงียบ เห็นได้ชัดว่าให้อำนาจการตัดสินใจทั้งหมดแก่สวี่ชิง

สวี่ชิงหลุบตามองอีกฝ่าย

องค์ชายห้าดวงตาเป็นประกาย ทันทีที่สบตากับสวี่ชิง พระเนตรก็มีเปลวเพลิงสีดำคุกรุ่น เปี่ยมด้วยความตายและความอัปมงคล คล้ายจะระเบิดออกมา

แต่เห็นได้ชัดว่าถูกพระองค์ควบคุมให้จับจ้องสวี่ชิง

“ศึกครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับฐานะข้ากับเจ้า ข้าเป็นแค่พี่ใหญ่ที่สู้เพื่อน้องชาย!

“ตอนเด็ก ทุกครั้งที่เขาถูกองค์ชายคนอื่นรังแก ก็ล้วนเป็นข้าที่แก้ปัญหาให้

“สวี่ชิง น้องชายข้ามีความผิด สมควรถูกฆ่า

“และเจ้าที่ฆ่าเขา ข้าต้องสู้กับเจ้า!”

พูดจบเจตนาสู้รบบนกายเขายิ่งเด่นชัด รอคำตอบสวี่ชิง

เวลาผ่านไปทีละอึดใจ ในใจสวี่ชิงเกิดคลื่นเล็กน้อย เขานึกถึงภาพบางอย่างตอนเด็ก ครั้งหนึ่งในอดีต เขาคิดว่าตัวเองมีพี่ชายแบบนี้เหมือนกัน…

เขาจึงหลับตา กล่าวคำเรียบนิ่ง

“พ่ะย่ะค่ะ”

แทบจะพริบตาที่สวี่ชิงเอ่ยคำ เจตนาสู้รบในพระเนตรองค์ชายห้ายับยั้งไม่อยู่อีกต่อไป ปะทุครืนครัน ทะเลเพลิงสีดำแผ่ขยายสนั่นหวั่นไหวทั่วสารทิศ

และทั้งวังหลวงก็เกิดการเปลี่ยนแปลงในยามนี้ ประหนึ่งดวงดาวเคลื่อนย้าย วังหลวง…หายไปแล้ว

ท่ามกลางฟ้าดิน เหลือเพียงสวี่ชิงที่นั่งอยู่ตรงนั้น รวมถึงองค์ชายห้าที่ยืนอยู่เบื้องล่าง

ราวกับที่ที่พวกเขาอยู่ถูกแบ่งแยก สามารถขยายใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด

นี่ทำให้เปลวเพลิงสีดำขององค์ชายห้าขยายออกไปไกลยิ่งในชั่วขณะนั้น ทำให้สภาพแวดล้อมที่นี่เกิดเป็นทะเลเพลิงสีดำสุดลูกหูลูกตา

อุณหภูมิสูงขึ้นฉับพลัน เปลวเพลิงลุกท่วมไม่หยุด เงาร่างขององค์ชายห้าก็สูงใหญ่ขึ้นในพริบตา กลิ่นอายทั้งร่างระเบิดออก พลังบำเพ็ญสำแดงถึงขีดสุด ก้าวย่างไปทางสวี่ชิง

เกราะสีดำบนกายพระองค์ก็ลุกไหม้ในยามนี้ ทั้งคนประหนึ่งยักษ์เปลวเพลิง ทรงพลังจนกลืนภูเขาลำน้ำได้

ทุกย่างก้าวล้วนทำให้ในมิตินี้สะเทือนเลื่อนลั่น สุดท้ายเร็วขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นดาวตกเปลวเพลิงพุ่งมาหาสวี่ชิง

ขณะที่เข้าใกล้ ไหมวิญญาณพุ่งออกจากร่างสวี่ชิงเป็นเส้นๆ ถักทออยู่นอกกาย กลายเป็นสภาวะเทพเจ้าขั้นที่สามในพริบตา ผลึกวารีเป็นกระดูก ไหมวิญญาณเป็นเนื้อ พระจันทร์สีม่วงลอยขึ้นขณะผ้าคลุมสีเลือดปลิวไสว

ไอพลังประหลาดแผ่ซ่าน ทั่วสารทิศพร่าเลือน ขณะที่ความเป็นเทพเด่นชัด สภาวะเทพเจ้าขั้นที่สามแยกตัวออกมาจากสวี่ชิง ยามที่สวี่ชิงก้าวไปปะทะกับองค์ชายห้าที่พุ่งมา

เสียงสนั่นสะท้านฟ้าสะเทือนดิน

องค์ชายห้าที่เป็นดั่งยักษ์เปลวเพลิงถอยหลังฉับพลัน

ส่วนสภาวะเทพเจ้าขั้นที่สามของสวี่ชิงก็ถอยหลังในยามนี้เช่นกัน

พลังบำเพ็ญขององค์ชายห้าคือหวนสู่อนัตตาขั้นที่สาม!

สภาวะเทพเจ้าขั้นที่สามของสวี่ชิงก็มีกำลังรบเท่ากัน ทั้งสองปะทะธรรมดาเพียงครั้งเดียว ยังไม่รู้ผลแพ้ชนะ

กระทั่งถอยหลังไปร้อยจั้ง องค์ชายห้าหยุดร่างกาย พลันเงยหน้า สองมือทำปาง ผมยาวทั้งศีรษะมีครึ่งหนึ่งกลายเป็นสีเทาในพริบตา สีดำบนนั้นลอกหลุดเป็นหมอกตรงหน้าเขา

ขณะหมุนวนต่อเนื่อง เกิดเป็นตะเกียงน้ำมันสีดำ บนนั้นมีเปลวเพลิงเผาไหม้

ไฟนี้ เป็นสีทอง!

แต่ตะเกียงนี้เป็นแบบโบราณเรียบง่าย ทั้งยังแฝงความลึกลับ เห็นได้ชัดว่าไม่ได้เอาไว้ใช้กับคนเป็น แต่ เป็นของที่มอบให้คนตาย น้ำมันตะเกียงบนนั้นขุ่นยิ่ง ทั้งมีกลิ่นอายเก่าแก่ และยิ่งมีความเป็นเทพ

นั่นก็คือน้ำมันตะเกียงที่หลอมจากศพเทพ!

มือถือตะเกียงนี้ องค์ชายห้าสูดหายใจเข้าลึกๆ เป่าลมหายใจไปยังไส้ตะเกียง ไฟในตะเกียงน้ำมันพลันลุกโชน เปลวเพลิงในนั้นพวยพุ่งไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว ขณะไหววูบต่อเนื่อง ยังสะเทือนไปถึงทะเลเพลิงที่แผ่ขยายทั่วมิติ

ทะเลเพลิงรวมตัว ทะลักไปทางตะเกียงน้ำมัน

สุดท้าย กลายเป็นเงาร่างเปลวเพลิงทางหนึ่ง

รูปร่างของเงานี้เปลี่ยนบ่อยครั้ง บางครั้งเป็นคน บางครั้งเป็นอสูร บางครั้งเป็นสิ่งประหลาด บางครั้งคลุมเครือ ไม่มีสภาพแน่นอน มีเพียงกลิ่นอายที่แผ่จากในนั้นซึ่งทำให้รู้สึกขนลุกขนพอง

นั่นก็เป็นกลิ่นอายของเทพ ราวกับน้ำมันศพถูกเปลี่ยนเป็นความคิดขณะมีชีวิตด้วยพลังวิเศษขององค์ชายห้า ยามนี้หลังปรากฏตัวขึ้นก็พุ่งไปหาสภาวะเทพเจ้าของสวี่ชิง

แต่ชั่วขณะที่เงามายานั้นเข้าใกล้ สภาวะเทพเจ้าของสวี่ชิงพลันไหววูบ พุ่งพรวดในพริบตา ไหมวิญญาณลองลอยเป็นเส้นๆ ก่อรูปเป็นสภาวะเทพเจ้าขั้นที่หนึ่งกับขั้นที่สอง และรวมร่างเป็นหนึ่งเดียว

ขณะพลังเพิ่มขึ้นมหาศาล มันก็ยกมือขวาขึ้นชี้ไปทางเงามายาที่ประชิดเข้ามา

สองฝั่งปะทะกันตรงๆ หลังต่างฝ่ายต่างพร่าเลือน สภาวะเทพเจ้าของสวี่ชิงฟื้นสภาพ แต่เงามายานั้นสลายไปแล้ว

ตะเกียงน้ำมันในมือองค์ชายห้าส่งเสียงแตกร้าว ปรากฏรอยแยกเจ็ดแปดทาง ยิ่งมีเลือดทะลักออกจากในนั้น ทว่าเจตนาสู้รบในดวงตายิ่งเข้มข้น

หลังจากถอยหลังอย่างรวดเร็วในยามนี้ องค์ชายห้าคำรามเสียงต่ำ กดตะเกียงน้ำมันที่แตกร้าวนั้นลงกับพื้นด้วยสองมืออย่างรุนแรง

“ต้นเพลิงบูชา แท่นดินยกสูง ผนึกจิตเทพ ยั้งลิขิตสวรรค์!”

บทที่ 813 เพลิงศพลุกลาม 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา