เข้าสู่ระบบผ่าน

ผู้กล้าเหนือกาลเวลา นิยาย บท 905

บทที่ 905 คนบ้าบิ่น

เสียงของสวี่ชิงแหบแห้งเล็กน้อย ในขณะที่พูดออกไป นายกองก็แสดงท่าทีตื่นเต้นออกนอกหน้า

“ศิษย์น้องเล็กวางใจได้ ศิษย์พี่ใหญ่อย่างข้า มั่นใจเต็มร้อย ไม่มีปัญหาแน่นอน!”

ดวงตาของสวี่ชิงแดงก่ำเป็นทุนเดิม เตรียมพร้อมที่จะทำเรื่องนี้ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของนายกอง เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกใจหายวาบ

ส่วนนายกองก็รู้สึกฮึกเหิมมากขึ้น และยังคงพูดต่อไป

“ศิษย์น้องเล็ก ตั้งแต่ที่ข้าคาดเดาจุดประสงค์ของเทพทั้งสามได้ ข้าก็วางแผนเรื่องนี้มานาน พยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อที่จะขึ้นรถม้าคันนี้!”

“ก่อนที่จะพบกับค่ายกลส่งข้ามโบราณที่คืนชีพ ข้าก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แม้ว่าจะเตรียมสิ่งของสำหรับหลบหนี และวางแผนฝึกฝนหลายครั้ง แต่สุดท้ายวัสดุก็ยังด้อยไปหน่อย”

“จนกระทั่งได้พบกับค่ายกลส่งข้ามโบราณที่คืนชีพ นั่นแหละสวรรค์โปรดข้าโดยแท้!”

นายกองหัวเราะลั่น

“แม้แต่การวางแผนต่อต้านชื่อหมู่ในตอนแรก ก็เกี่ยวข้องกับตอนนี้ เพราะเนื้อและเลือดของชื่อหมู่เป็นของดี นางเป็นผู้ที่กลายเป็นเทพคนแรกของดินแดนต้องประสงค์ เป็นผู้ที่นำเสี้ยวหน้ามา และมีเคราะห์กรรมหนักหนากับเสี้ยวหน้า”

“เคราะห์กรรมนี้ เมื่อรวมกับการเสริมพลังของขนนกหนึ่งเส้น ในทางทฤษฎีแล้วสามารถสร้างการส่งข้ามเฉพาะได้!”

“แต่พลังที่จำเป็นสำหรับการส่งข้ามนั้นน่ากลัวเกินไป”

“ดังนั้น จึงเกิดการเดินทางไปยังแผ่นดินเทวะในครั้งนี้!”

“ใช้พลังของการเลื่อนระดับของแผ่นดินเทวะเป็นพลังขับเคลื่อน พลังขับเคลื่อนเช่นนี้ เจ้ารู้ว่ากว่าจะได้มามันยากแค่ไหน เป็นโอกาสหายากเพียงใด!”

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้แผ่นดินเทวะกำลังลอยขึ้น ระยะห่างจากเสี้ยวหน้าก็สั้นลง…แต่เพียงแค่นี้ยังไม่พอ ยังต้องอาศัยการชี้นำทิศทางของวิถีสวรรค์!”

“ลูกชายของเรา มีหน้าที่ตรงนี้!”

“สุดท้าย เมื่อรวมกับการซ่อนตัวของเจ้าไร้อักษร ทำให้เราซ่อนตัวดีที่สุด เมื่อรวมกับพลังของร่างจักรพรรดินี้ เสริมพลังให้เราด้วยเทพเจ้าและเจตจำนงของจักรพรรดิ ทำให้เจ้าและข้าทำการใหญ่ระดับสุดขั้วนี้ได้!”

“ศิษย์น้องเล็ก เจ้ากับข้าสองพี่น้องร่วมใจ ครั้งนี้จะต้องไม่มีปัญหาแน่นอน!”

นายกองหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง คำพูดนั้นฟั่นเฟือนถึงที่สุด

“จะเริ่มเมื่อไหร่เล่า!” สวี่ชิงไม่อยากฟังอีกต่อไป ยิ่งนายกองพูดแบบนี้ เขายิ่งรู้สึกอันตราย

แต่…มาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าสวี่ชิงไม่ได้ลองก็ไม่สบายใจ

จึงสะกดความหิวในร่างกายอีกครั้ง

“ใกล้แล้ว ในขณะที่แผ่นดินเทวะแตกสลาย นั่นคือเวลาแห่งการส่งข้าม พวกเรา…อืม? โอกาสมาแล้ว!”

คำพูดของนายกองเปลี่ยนไป สวี่ชิงก็ตั้งสติในทันที

ในขณะเดียวกัน บนท้องฟ้าเหนือดินแดนต้องประสงค์ ดวงตาที่เปิดกว้างของเสี้ยวหน้าเทพเจ้าที่แขวนอยู่บนนั่น ก็ปิดลงในที่สุด

ทันทีที่ปิดลง แผ่นดินเทวะที่เทพทั้งสามสถิตอยู่ ก็สลายไปอย่างเงียบเชียบ เริ่มจากขอบกลายเป็นเถ้าธุลี ลอยขึ้นไปสู่ท้องฟ้า

และแผ่นดินเทวะเอง ขณะที่สลายไปนั้นก็เข้าใกล้เสี้ยวหน้าขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อมองจากระยะไกล แผ่นดินเทวะที่ค่อยๆ หายไปในม่านฟ้านั้น เล็กลงเรื่อยๆ

และเทพทั้งสามที่นั่งขัดสมาธิอยู่ภายใน ดวงตาเทพของแต่ละคนก็เบิกกว้างขึ้น ร่างกายหายไปในแผ่นดินเทวะที่กำลังจะสลายในชั่วพริบตา พร้อมกับเหล่าองค์ท่าน ที่หายไปพร้อมกันคือเหยียนเสวียนจื่อและคนอื่นๆ ที่สลบไสลจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้

เมื่อปรากฏตัว เทพทั้งสามก็อยู่นอกแผ่นดินเทวะ กลางอากาศเหนือดินแดนต้องประสงค์

ความแข็งแกร่งในกายปะทุขึ้นนที่สุดก็ก้าวข้ามระดับเพลิงพิบัติทุกขั้น เข้าสู่ระดับพิสุทธิ์

นับแต่นี้ไปมีแต่จะทะยานขึ้น ไม่มีหายนะอีก มีความหวังจะไปถึงแท่นเทวะแล้ว

นี่คือระดับที่เทพเจ้ามากมายที่มีอยู่ในดินแดนต้องประสงค์ในปัจจุบันปรารถนา แต่น่าเสียดายที่การบรรลุระดับพิสุทธิ์นั้นเป็นความปรารถนาที่ยากเกินไป เมื่อมองไปทั่วทั้งดินแดนต้องประสงค์ ที่ผ่านมามีเทพเจ้าที่บรรลุระดับพิสุทธิ์เพียงไม่กี่องค์

ผู้แข็งแกร่งอย่างชื่อหมู่ ในตอนนั้นยังเหลือเพียงครึ่งก้าวเท่านั้น

ทว่าบัดนี้เทพทั้งสามไร้ที่ติ ไฟเทวะเผาไหม้ในร่างกายของเหล่าองค์ท่านถึงขีดสุด แต่ละองค์ปล่อยพลังน่ากลัวเกินกว่าชื่อหมู่ เปลี่ยนสีฟ้าดินไป เสียงคำรามดังไปทุกทิศทาง

สามารถจินตนาการได้ว่า หลังจากนี้ รูปแบบของดินแดนต้องประสงค์คงจะเปลี่ยนแปลงไปตามระดับพิสุทธิ์ของเทพทั้งสาม

สีหน้าของเหล่าองค์ท่านก็ฉายแววชัดเจนอันหาได้ยากยิ่ง บัดนี้เงยหน้าขึ้น มองดูแผ่นดินเทวะที่สลายไป มองดูจุดจบของการบูชาครั้งนี้

ม่านใหญ่นี้ ดูเหมือนกำลังจะปิดลง

แต่ในขณะนั้นเอง เทพแห่งดวงอาทิตย์ก็เปลี่ยนสีหน้าไปกะทันหัน ดวงตาของเทพแห่งดวงจันทร์ที่อยู่ข้างๆ หดลง ส่วนเทพแห่งดวงดาวก็เลิกคิ้วขึ้น

สายตาของเหล่าองค์ท่านจับจ้องไปที่แผ่นดินเทวะที่กำลังลอยไปหาเสี้ยวหน้าบนท้องฟ้า

แผ่นดินเทวะนี้ตอนนี้เหลือเพียงพื้นที่แกนกลาง ส่วนอื่นๆ ได้สลายไปหมดแล้ว และแม้แต่ใจกลางนี้ก็กำลังกลายเป็นเถ้าธุลี

แต่บนนั้น กลับมีพลังส่งข้ามระเบิดออกมามหาศาล

พลังของการส่งข้ามนี้น่าตกตะลึง ยิ่งใหญ่อย่างหาที่เปรียบมิได้ กลิ่นอายเหนือกว่าค่ายกลโบราณที่ถูกเปิดใช้ร้อยเท่า ทำให้ท้องฟ้าในในเสี้ยวขณะนั้นส่องแสงเจิดจ้าในทันที

สว่างถึงขีดสุด บดบังฟ้าดินได้พอๆ กับความมืด!

ในขณะนี้ ไม่เพียงแต่เทพทั้งสามที่เห็นภาพนี้ สายตาและจิตเทพทั้งหมดที่ถูกดึงดูดโดยการกระทำก่อนหน้านี้ของเทพทั้งสาม ต่างก็สังเกตเห็นภาพนี้เช่นกัน

ภายใต้สายตาและจิตเทพนับไม่ถ้วน ภายในค่ายกลส่งข้ามที่ระเบิดพลังอันน่ากลัว ในขณะนี้…ปรากฏร่างหนึ่งขึ้นเด่นชัด

คือร่างจักรพรรดิที่สวี่ชิงและเอ้อร์หนิวอยู่!

ทุกสายตาจับจ้อง ความตกตะลึงบังเกิดขึ้นทุกทิศทาง

“พวกเขาจะทำอะไร!”

เทพแห่งดวงอาทิตย์ผู้สุขุมยังตกใจ

“รนหาที่ตายกระมัง” ความซับซ้อนวาบผ่านสายตาเทพแห่งดวงจันทร์ แต่ดูเหมือนจะไม่แปลกใจอะไร แล้วกล่าวอย่างเฉยเมย

ส่วนเทพแห่งดวงดาว ก็ตกใจไม่แพ้กัน แต่สิ่งที่มากกว่าคือความประหลาดใจบนใบหน้า

ในขณะที่ทุกฝ่ายตะลึงฝัน ภายในแผ่นดินเทวะที่พังทลาย ในแสงส่งข้าม ร่างจักรพรรดิที่สวี่ชิงและนายกองอยู่ ยกมือขวาขึ้น

ชูขนนกสีทองที่ไม่ธรรมดาขึ้นสูง!

แสงส่งข้ามกระจายออกมาจากขนนกดังกล่าว

ขนนกนี้ถูกนายกองบูชาหลายครั้ง จึงมีพลังเทพเช่นนี้ การปรากฏตัวของมัน ทำให้แสงส่งข้าม พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยแรงระเบิด

“ลูกชาย!!”

บทที่ 905 คนบ้าบิ่น 1

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ผู้กล้าเหนือกาลเวลา