ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้! นิยาย บท 265

แม้ว่าตัวเขาเองจะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงตื่นเต้นและหวาดกลัวได้ขนาดนี้

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ชั่วชีวิตนี้ของเยี่ยซือเจวี๋ย เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนว่าเวลาจะผ่านไปได้เชื่องช้าถึงขนาดนี้ และไม่เคยรับรู้ถึงช่วงเวลาอันแสนทุกข์ทรมานขนาดนี้มาก่อน

ในที่สุดก็เห็นมู่ซย่าเงยหน้าขึ้นมามองเขาสักที จากนั้นก็พยักหน้าเอ่ยขึ้น “ได้ งั้นเราไปแต่งงานกัน”

แต่งงานเป็นพิธีเท่านั้น เธอจึงไม่มีความจำเป็นจะต้องขบคิดอะไรมากมาย

ขอแค่เป็นผลดีกับทั้งสองฝ่าย เธอจึงไม่มีความจำเป็นต้องปฏิเสธข้อเสนอของเยี่ยซือเจวี๋ย

ก็เหมือนกับที่เยี่ยซือเจวี๋ยพูด สำหรับเธอในตอนนี้แล้ว นี่เป็นธุรกิจที่ทำแล้วมีแต่ได้กับได้ ต่อให้หย่าร้างกันก็ต้องแบ่งสมบัติอยู่ดี เธอก็ไม่รังเกียจที่จะแบ่งทรัพย์สินเงินทองให้คนดีอย่างเยี่ยซือเจวี๋ยหรอก

เยี่ยซือเจวี๋ยไม่รู้ว่าตนถูกปฏิเสธความรักไปอีกตามเคย เขารู้สึกแค่ว่าตัวเองไม่เคยดีใจขนาดนี้มาก่อน

กระทั่งเขาถึงขนาดแยกไม่ออกว่านี่คือความฝันหรือความจริงกันแน่

เขาทนไม่ได้ที่จะปริปากถามอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ “จริงหรอ? เธอจะแต่งงานกับฉันจริงๆนะเหรอ?”

มู่ซย่าพยักหน้าตอบ “ก็อย่างที่นายพูดแหละ พวกเราไปแต่งงานกันตอนนี้ ล้วนมีประโยชน์กับเราทั้งคู่ เพียงแต่……”

เยี่ยซือเจวี๋ยได้ยินมูซย่าพูดว่า “เพียงแต่” เลยเกิดความกังวลใจขึ้น พร้อมกับซักไซ้ถามต่อว่า “เพียงแต่อะไร?”

“เพียงแต่ฉันต้องตั้งกฎขึ้นมา แม้ว่าพวกเราจะแต่งงานเป็นพิธี ทว่าในขณะที่เราเป็นสามีภรรยากันอยู่นั้น นายห้ามไปยุ่งวุ่นวายกับผู้หญิงคนอื่น ในขณะเดียวกันฉันก็จะไม่เข้าใกล้บุคคลต่างเพศด้วยเช่นกัน

พวกเราต่างฝ่ายต่างต้องไว้หน้าซึ่งกันและกัน ถ้าหากว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีคนที่ถูกใจแล้ว ทางที่ดีก็ให้บอกอีกฝ่ายเพื่อที่จะได้หย่าร้างกัน”

สีหน้าของมู่ซย่าเคร่งขรึมขึ้นอย่างผิดปกติ

ต่อให้จะเป็นการแต่งงานเป็นพิธี เธอก็หวังว่าตนจะไม่โดนสวมเขา

เรื่องของมู่ซินเย่ว์กับซือถูไห่ก็ทำให้เธอขยะแขยงมากเกินพอแล้ว เธอไม่อยากประสบเรื่องน่าขยะแขยงเหมือนดั่งที่แม่ประสบมาอีก

เยี่ยซือเจวี๋ยได้ยินสิ่งที่มู่ซย่าพูด จิตใจที่มันกังวลอยู่นั้นก็ได้ผ่อนคลายลงทันที

“เธอวางใจเถอะ” เขาจ้องไปหามู่ซย่าสายตาไม่กลับกลอกไปมา และได้เอ่ยขึ้น “ในช่วงระหว่างที่เราแต่งงานกัน นอกเสียจากเธอแล้ว ฉันจะไม่มีผู้หญิงคนอื่นอีก จะให้เกียรติเธออย่างเต็มที่ ให้เธอเป็นคุณนายเยี่ยที่มีแต่คนอิจฉาตาร้อน”

เยี่ยซือเจวี๋ยพูดๆอยู่ ก็ได้ถามเพิ่มไปอีกประโยค “ต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรหรือเปล่า? ถ้าหากว่าฉันฝ่าฝืนกฎล่ะก็ ฉันก็จะต้องไปตัวเปล่า เยี่ยซื่อกรุ๊ปก็จะตกเป็นของเธอไปโดยปริยาย”

มู่ซย่าอ้าปากค้าง “นี่มันเยอะเกินไปหรือเปล่า?”

“ไม่หรอก” เยี่ยซือเจวี๋ยนิ่งสุขุม แลเอ่ยอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ “ผมมั่นใจมาก แล้วเธอล่ะ เธอจะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นไหม?”

“ไม่มีวันแน่!” มู่ซย่าพูดจาเด็ดเดี่ยวแน่วแน่

“ได้ งั้นเราก็ตกลงตามนี้ เราจะไปแต่งงานเมื่อไหร่กันดี?”

มู่ซย่าคิดอยู่ชั่วขณะก่อนจะเอ่ยขึ้น “เมื่อไหร่ก็ได้ ในเมื่อคุยกันเรียบร้อยแล้ว ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี”

“ได้” เยี่ยซือเจวี๋ยลุกขึ้นพูด “งั้นก็ไปกันเลย”

มู่ซย่ายังไม่ทันตั้งตัว จึงถามขึ้นอย่างงุนงง “ไปไหนหรอ?”

“ไปแต่งงานสิ!” เยี่ยซือเจวี๋ยมีท่าทางเป็นปกติ

มู่ซย่าชะงักงัน ผ่านไปสองนาทีถึงจะเปล่งเสียงถามขึ้น “ตอ......ตอนนี้เลยหรอ?”

เยี่ยซือเจวี๋ยพยักหน้า “ก็แหงสิ เธอบอกเองนี่ว่ายิ่งเร็วมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ไม่ใช่หรือไง?”

มู่ซย่าหงึกหงักพูดไม่ออก เธอนึกไม่ถึงว่าจะรวดเร็วได้ถึงเพียงนี้

ผ่านไปหลายวินาที มู่ซย่าถึงจะเอ่ยปากพูด “เรื่องแต่งงาน นายไม่ต้องไปปรึกษาแม่ของนายหน่อยหรอ? ท่านอาจจะไม่เห็นด้วยก็เป็นไปได้……”

เยี่ยซือเจวี๋ยฉีกปากยิ้มไปทีหนึ่ง แววตามผสมความเย็นชาอยู่เบาบาง

“การแต่งงานเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน ไม่มีใครมากำหนดได้ แม้แต่ท่านเองก็ตาม”

“แล้ว……ทะเบียนบ้านอะไรพวกนั้นล่ะ……”

เยี่ยซือเจวี๋ยกลับกลอกนัยน์ตาไปมา พลางเอ่ย “เมื่อก่อนฉันเคยยื่นข้อเสนอนี้กับเธอไปแล้วไม่ใช่หรอ? ต่อมาฉันก็เลยพกมันติดตัวอยู่ตลอด วางมันไว้บนรถนั่นเอง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!