เยี่ยซือเจวี๋ยจูงแขนของมู่ซย่ามา เอ่ยขึ้น “ที่จริงเอ่ยเรื่องนี้ในวันนี้ไม่เหมาะไม่ควรเท่าไหร่ แต่คนอย่างผม ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่อยากชักช้าลีลา รวมถึงเรื่องแต่งงานด้วย”
ซือถูไห่ชะงักงัน เบิ่งตากว้างและย้ำคำพูดของเยี่ยซือเจวี๋ยใหม่อีกครั้ง “รวมถึงเรื่องแต่งงานด้วยหรือ? นี่มัน……หมายความว่ายังไง?”
เยี่ยซือเจวี๋ยมองมู่ซย่าไปปราดหนึ่ง ปริปากพูดขึ้น “คุณลุง ผมอยากแต่งงานกับมู่ซย่า ผมกลับมาเอาทะเบียนบ้านกับเธอ”
ซือถูไห่สตั้นไปชั่วพริบตา คนใช้ที่ได้ยินด้านข้างก็ต่างพากันยืนแข็งทื่อเป็นหิน
เยี่ยซือเจวี๋ยไม่รอให้ซือถูไห่ได้สติกลับมา เลยพูดต่อไปว่า “ผมอยากจะไปจดทะเบียนกับซานซานวันนี้เลย ส่วนเรื่องงานแต่ง รอให้วันหลังเราทั้งคู่ว่างกันก่อนแล้วค่อยจัดก็ได้ ในเมื่องานแต่งจำเป็นต้องเตรียมการล่วงหน้า ผมคิดว่าตอนที่เตรียมพร้อมอะไรทุกอย่างเสร็จสรรพ ค่อยจัดงานแต่งที่ใหญ่โตให้กับซานซาน ไม่ทราบว่าคุณลุง……จะยินยอมให้เราทั้งคู่แต่งงานกันหรือเปล่า?”
ถึงแม้ว่าซือถูไห่จะอ๊องอยู่ ทว่าได้สบถคำออกจากปากไปแล้ว “ยินยอม!”
ยินยอมแน่นอน!
แม้กระทั่งความฝันของเขายังอยากให้มู่ซย่าแต่งเข้าบ้านตระกูลเยี่ยเลย เขาจะได้เฟื่องฟูเหมือนกับคนอื่นบ้าง จะไม่ยินยอมได้ยังไงกันล่ะ?
หลายครั้งหลายคราที่เขาเพ้อฝันในเวลาดึกดื่นค่อนคืน จนเขาแทบอยากจะย้ายสำนักงานเขตมาตรงหน้าของเยี่ยซือเจวี๋ยและมู่ซย่าเลยด้วยซ้ำ!
ซือถูไห่กลับมามีสติสตางค์ภายใต้การเซอร์ไพรส์สุดยิ่งใหญ่อีกครั้ง และเอ่ยอย่างดีใจเป็นล้นพ้น “เดี๋ยวผมไปหยิบทะเบียนบ้านให้เดี๋ยวนี้เลย!”
“พ่อ!” มู่ซย่าดึงตัวซือถูไห่ไว้ เผยหน้าตาเศร้าโศก “ในขณะที่เราตัดสินใจแบบนี้ ไม่นึกว่าจู่ๆน้องสาวก็ตายจากไปดื้อๆซะงั้น……หนูไปจดทะเบียนสมรสวันนี้ จะดูไม่ดีหรือเปล่า?”
มู่ซย่าพูดแบบนี้ไม่เพียงแต่จะแสร้งทำตัวเป็นลูกสาวที่ดีต่อหน้าซือถูไห่ ซ้ำยังทำเพื่อชื่อเสียงเรียงนามของตัวเองอีกด้วย
ในเมื่อถ้าเรื่องที่เธอไปจดทะเบียนสมรสตรงกับวันตายของน้องสาวถูกเผยแพร่ออกไป จะส่งผลเสียกับชื่อเสียงของเธอเอาได้
“ไม่หรอกน่า!” ซือถูไห่ทำไม้ทำมือซ้ำแล้วซ้ำเล่า “คนที่ตายไปจะไม่มีวันฟื้นคืนกลับมา แต่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ต้องใช้ชีวิตต่อไป! พ่อไปหยิบทะเบียนบ้านมาให้ รอให้ผ่าน 7 วันแรกไป ฝังศพก่อน แล้วพ่อจะหาเวลาประกาศข่าวมงคลนี้ให้ทุกคนทราบ”
ซือถูไห่พูดๆอยู่ ก็แอ๊บสีหน้าท่าทางเศร้าโศกเสียใจออกมาต่อไม่ไหว จึงได้เดินขึ้นชั้นบนไปด้วยสีหน้าเบิกบานใจ ไม่นานก็ได้หยิบทะเบียนบ้านมาให้ถึงมือของมู่ซย่า
และแน่นอนว่า เขาก็ไม่ได้ลืมยื่นอั่งเปาที่เตรียมไว้เมื่อครู่สองซองให้กับทั้งคู่ ทั้งยังจับมือทั้งคู่และพูดขึ้นว่า “พวกหนูก็ไปจดทะเบียนกัน ต่อไปก็ใช้ชีวิตสามัคคีปรองดองกันนะ”
“ขอบคุณค่ะคุณพ่อ” มู่ซย่ายิ้มหวานชื่น หยิบทะเบียนบ้านและออกจากบ้านไปพร้อมกับเยี่ยซือเจวี๋ย
ซือถูไห่เห็นภาพด้านหลังที่ทั้งคู่ควงแขนกันมันช่างหวานหยาดเยิ้มยิ่ง ใบหน้ายิ้มพรายไปด้วยความปลื้มปิติยินดี ความดีใจนี้ยากที่จะพรรณออกมาได้ด้วยคำพูด
เขาอดทอดถอนใจไม่ได้ “เทพเจ้าช่างดีต่อเขาเหลือเกิน!”
ถึงแม้จะสูญเสียลูกสาวไปหนึ่งคน แต่กลับได้ลูกเขยเต่าทองคำระดับไดมอนด์มาแทน
เมื่อคิดแบบนี้ เทพเจ้าช่างดีกับเขาเหลือเกิน!
หลังจากที่งานศพเสร็จสิ้น เขาก็สามารถจัดงานแต่งต่อได้เลย เมื่อถึงตอนนั้น ผู้คนในเมืองจิงตูต่างก็ต้องแหงนหน้ามองพ่อตาของเยี่ยซือเจวี๋ย ซึ่งก็คือเขานั่นเอง
พ่อบ้านคนใหม่เห็นซือถูไห่สีหน้าปิติยินดี ลังเลใจที่จะเข้าไปถาม “คุณท่าน……งั้นพวกเราจะจัดงานศพหรืองานมงคลกันแน่ครับ?”
พ่อบ้านคนใหม่อีคิวค่อนข้างต่ำ มิหนำซ้ำมู่ซย่ายังเป็นคนเลือกอีกต่างหาก
เลือกคนที่ฉลาดหลักแหลมมาเป็นพ่อบ้านไม่ค่อยจะดีนัก เลือกคนโง่มาจะได้ไม่ต้องตุกติกอะไรมากมาย
ซือถูไห่สีหน้าเปลี่ยน นัยน์ตาเย็นเยียบรอพ่อบ้านพูด “ก็ต้องจัดงานศพนะสิ! ชิงซานเพิ่งจะจากไป คุณพูดบ้าอะไรของคุณ!”
พ่อบ้านคนใหม่ตกใจจนตัวสั่นเทา ขานตอบกลับไปว่า “ครับๆๆ! ผมสติเลอะเลือนหมดแล้ว……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ประธานวายร้ายจะแต่งงานกับฉันให้ได้!