ฮาร์วีย์อดที่จะทำเสียงเยาะเย้ยไม่ได้หลังจากเห็นสารวัตรหัวล้านคนนั้นทำสีหน้าจริงจัง
ในที่สุดเขาก็รู้ว่าสถานที่แห่งนี้ไม่เคารพกฎหมายเอาเสียเลย เขารู้ว่าความยุติธรรมและความถูกต้องก็ใช้ที่นี่ไม่ได้เช่นกัน
แต่ยังไงก็ตามเขาไม่รู้สึกเสียใจอะไรเลยถ้าเขาต้องใช้สายสัมพันธ์ของเขาบ้างในภายหลัง
“คุณกำลังล้อเล่นกับฉันอยู่รึไง?!”
สารวัตรหัวโล้นคนนั้นรู้อับอายขายหน้าเมื่อเห็นฮาร์วีย์ทำสีหน้าเยาะเย้ย
เขาเอามือทุบโต๊ะด้วยความโกรธเกรี้ยว
“ฉันขอเตือนแกนะไอ้สารเลว! ที่นี่เป็นสถานที่แห่งความถูกต้องและยุติธรรม!
“ฉันจะฟ้องแกในฐานหมิ่นประมาทถ้าแกยังทำปากเสียอยู่อีกล่ะก็!”
ฮาร์วีย์ยิ้ม
“ดี ฉันกำลังรอคำพูดนั้นอยู่เลยล่ะ
“คุณจะเชื่อไหมถ้าผมจะบอกว่าผมจะต่อสู้กลับก็ต่อเมื่อตระกูลคอบบ์ลงมือก่อน?”
เหล่าสารวัตรพวกนั้นมองหน้ากันแล้วทำเสียงเยาะเย้ย
“ตระกูลคอบบ์เป็นหนึ่งตระกูลที่ยิ่งใหญ่แห่งทะเลใต้ ตระกูลนี้มีแต่ผู้คนที่มีความโดดเด่นทั้งนั้นเลย!
“แล้วทำไมพวกเขาถึงต้องมาต่อกรกับคนนอกอย่างแกด้วยล่ะ?”
“พวกเขาทำอย่างนี้ก็เพื่อบีบบังคับให้เคทีแต่งงานกับกาเอลเท่านั้นแหละ" ฮาร์วีย์ตอบอย่างใจเย็น
“เธอกำลังถูกบังคับเหรอ?”
สารวัตรสาวหน้ากลมแสดงสีหน้าดูถูกเหยียดหยาม
“คุณรู้ไหมว่ากาเอลคือใคร? เขาเป็นนายน้อยที่มีชื่อเสียงในแบล็คเบิร์น ซิตี้!
“ผู้คนต่างก็ไม่กล้าฝันที่จะได้แต่งงานกับคนแบบนั้นด้วยซ้ำไป!
“ทำไมเขาจะต้องบังคับเคทีด้วยล่ะ?!
“แล้วอีกอย่างหนึ่งนะ เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับแกด้วยล่ะ?”
สารวัตรสาวหน้ากลมเริ่มรู้สึกรำคาญมากขึ้นเรื่อย ๆ
“แกควรสารภาพออกมาได้แล้ว! ฉันจะได้จับแกเข้าห้องขังแล้วกลับบ้านกลับช่องซะที"
ฮาร์วีย์หัวเราะเบา ๆ
“ทำไมไม่สืบสวนในเรื่องนี้ด้วยตัวเองก่อนจะรีบสรุปผลล่ะ?”
“แกกำลังสั่งสอนฉันอยู่เหรอ?!” สารวัตรสาวหน้ากลมกระโกนบอกด้วยสีหน้าเย็นชา
ฮาร์วีย์ไม่สนใจที่จะพูดคุยอีกต่อไป
“เอาโทรศัพท์ของฉันมา ฉันจะโทรหาใครบางคน"
ฮาร์วีย์ไม่อยากเสียเวลาพูดคุยกับสารวัตรพวกนั้นอีกต่อไป
ใบหน้าของสารวัตรหัวโล้นคนนั้นดูมืดมนลงทันที
“ตอบคำถามให้ชัดเจนหน่อย แกจะเอาโทรศัพท์ไปทำอะไร?
“ฉันจะโทรหาเพื่อนไม่ได้เหรอ?” ฮาร์วีย์ถามอย่างใจเย็น
“คุณไม่เข้าใจเหรอ?
“ก่อนที่ฉันจะถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมนั้น ฉันมีสิทธิ์ที่จะติดต่อกับคนที่ฉันต้องการได้
“โอ้? แกรู้กฎหมายที่นี่ด้วย แต่ก็ยังทำผิดกฎหมายอยู่อีกเหรอ?”
สารวัตรสาวหน้ากลมกวาดตามองฮาร์วีย์ก่อนจะโยนโทรศัพท์ให้เขา
“โทรไปเลย! ฉันอยากรู้เหมือนกันว่าใครกันที่แกบอกว่าเป็นเพื่อนคนนั้น!” เธอร้องบอกพร้อมกับเสียงเยาะเย้ยอย่างเย็นชา
“ไม่มีใครในแบล็คเบิร์น ซิตี้ช่วยพาแกหนีรอดจากเรื่องนี้ไปได้หรอก! ฉันแน่ใจมาก!”
ฮาร์วีย์วางแผนจะโทรไปหาจูเลียนเพื่อตามตัวสารวัตรเฟลเลสมา จนกระทั่ง...
“ฮะ? คุณมาที่นี่ทำไมเหรอฮาร์วีย์?”
มีคนเดินผ่านประตูไปแล้วเดินถอยหลังกลับมาสองสามก้าวหลังจากเห็นฮาร์วีย์ หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงอุทานด้วยความประหลาดใจดังขึ้น
เมื่อประตูเปิดออกก็มองเห็นผู้หญิงวัยกลางคนพร้อมกับหญิงสาวอีกคนหนึ่ง
สารวัตรพวกนั้นต่างยืนขึ้นโดยสัญชาตญาณ "ซีอีโอโมเรโน่! คุณโมเรโน่!”
ฮาร์วีย์มองออกไปก็เห็นเอลเลนยืนอยู่ตรงหน้าประตูนั้น
เขาไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ แต่เธอก็ยังดูงดงามเหมือนเคยในชุดเดรสสั้นของชาแนล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก
ยังไม่จบใข่ไหมครับ...
ผมอ่านสองตอนวันนี้แล้วเริ่มเวียนหัว... บท... เวียนไปวนมา... ว่าจะหยุดหล่ะครับ บาย...
ผมขอเสนอแนะครับ แปลได้ 10 ตอน แล้วมาลงทีเดียวดีไหมครับ ระยะหลังมานี้ ลงครั้งละ 2 ตอน อ่านไม่ถึง 5 นาทีครับ ยังไม่ได้อรรถรสเลย บทนิยายหมดแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ...
เนื้อเรื่องโรงพยาบาลซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบละ แค่เปลี่ยนชื่อบุคคล สถานที่ เรื่องราวนิดหน่อย อ่านมามีแต่น้ำ เนื้อเรื่องจริงๆแทบไม่กระดิกไปไหน...
เย้ๆๆ มาแล้ว ขอบคุณคับ...
นานจังรออ่านอยู่ครับ...
รออ่านหลายสัปดาห์แล้วครับ รีบๆแปลให้อ่านหน่อย...
เป็นนิยายที่หลังๆเป็นเกาเหลา(มีแต่น้ำ) จะง้างทีต้องอธิบายกันไปถึงอีกฝ่ายแอบเป็นริดสีดวง สู้กับแค่คนๆเดียวไม่ยอมจบ มาหลังๆนี้รู้เลยยิ่งไม่เคยจบ ต้องพาศิษย์ผู้พี่ ผู้น้อง ลุงป้าน้าอา ไหนจะอธิบายความในใจ สรุป นิยายดึง จบไม่เป็นไปต่อไม่ได้ จุดขายคือรอพระเแกตบ...
หลายวันเลย ไม่มีมาซักตอน เป็นกำลังใจให้ ครับ...
เช้าวันนี้ ได้อ่าน 10 ตอน บวกเพิ่มอีก 2 ตอน รวมเป็น 12 ตอน ขอบคุณอย่างมากเลยครับ...