เอลเลนเกือบโดนเจซลวนลามหลังจากบังคับให้เธอดื่มเหล้าจนเมามาย แต่ฮาร์วีย์ก็ช่วยเธอเอาไว้ได้ ตั้งแต่นั้นมาทั้งสองคนก็ไม่ได้พบกันอีกเลย
ถึงแม้ว่าเอลเลนจะตกอยู่ในสภาพเมามายในตอนนั้น แต่เธอรู้อย่างแน่นอนว่าฮาร์วีย์คือผู้ที่ช่วยชีวิตเธอไว้
สายตาที่เอลเลนจ้องมองฮาร์วีย์นั้นเป็นสายตาที่ดูต่างจากเดิมเป็นอย่างมาก เธอไม่ได้ดูถูกเขาอีกต่อไปแล้ว
ผู้หญิงที่อยู่ข้าง ๆ เธอสวมชุดที่ดูเป็นงานเป็นการพร้อมกับสวมแว่นกรอบทอง เธอดูเหมือนผู้หญิงที่อยู่ในวัยสี่สิบกว่า ๆ แต่รูปร่างเพรียวบางและใบหน้าอันงดงามของเธอช่างดูโดดเด่นมาก
แต่ยังไงก็ตามเธอดูไว้ตัวและเหินห่างเป็นอย่างยิ่ง ผู้ชายธรรมดา ๆ ไม่อาจเงยหน้าขึ้นมามองเธอได้เลย
“สวัสดีค่ะ"
เอลเลนพยักหน้าให้สารวัตรทั้งสองคนนั้น ก่อนจะเดินไปหาฮาร์วีย์ด้วยสีหน้าสับสน
“คุณมาที่นี่ทำไมเหรอฮาร์วีย์?
“นี่คือฮาร์วีย์ค่ะแม่ เขาเป็นคนที่จัดการทุก ๆ คนเพื่อช่วยหนูเอาไว้"
เอลเลนไม่ได้ติดต่อเคทีเลยหลังถูกปลดออกจากงาน เธอจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตระกูลคอบบ์
สีหน้าของสารวัตรสาวหน้ากลมดูเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อพิจารณาจากน้ำเสียงของเอลเลนแล้ว เธอตระหนักได้ว่าฮาร์วีย์ได้ให้ความช่วยเหลือเอลเลนเป็นอย่างมาก
เอลเลนเป็นลูกสาวของโนเอมิ โมเรโน่ สุภาพสตรีคนที่สองของตระกูลโมเรโน่
แต่ถูกครอบครัวของเธอทอดทิ้งเพราะเธอเป็นลูกนอกสมรส
แต่ยังไงก็ตามเธอก็ยังเป็นคนของตระกูลที่ยิ่งใหญ่ตระกูลหนึ่งแห่งทะเลใต้ สารวัตรธรรมดา ๆ ไม่อาจมาต่อกรกับคนอย่างเธอได้
ก่อนที่ฮาร์วีย์จะทันได้พูดอะไร ผู้หญิงสวมแว่นกรอบทองก็มองเขาอย่างพินิจพิจารณา จากนั้นเธอก็พูดกับเอลเลนว่า "ตำรวจกำลังทำหน้าที่ของเขาอยู่ เลิกก่อกวนเขาได้แล้ว!”
ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากโนเอมินั่นเอง
เนื่องจากเธอเคยแต่งงานกับวายร้ายคนหนึ่งมาตั้งแต่อายุยังน้อย เธอจึงไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรเลยเมื่อได้ยินลูกสาวพูดถึงผู้ช่วยชีวิตของเธอ แต่เธอก็ระมัดระวังตัวมากกว่าเดิม
เอลเลนขมวดคิ้วเมื่อเห็นฮาร์วีย์ถูกใส่กุญแจมืออยู่บนโต๊ะ
“เกิดอะไรขึ้นที่นี่เหรอ?”
“คุณโมเรโน่!”
สารวัตรสาวหน้ากลมรีบอธิบายถึงสถานการณ์ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว โดยที่ฮาร์วีย์ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำเดียว
“เขาทำร้ายนายน้อยของตระกูลคอบบ์ค่ะ นับเป็นข่าวร้ายสำหรับเขา!”
สารวัตรหัวโล้นก็พยักหน้าพร้อมกัน
“ถูกต้องแล้วครับ!”
เอลเลนมีสีหน้าดุดันและหัวเราะอย่างเย็นชาเมื่อได้ยินชื่อของอีเดน
“ไม่ต้องถามอะไรอีกนะคะแม่ ต้องมีอะไรผิดพลาดกับฮาร์วีย์แน่ ๆ! หนูจะประกันตัวเขาออกไปเดี๋ยวนี้เลย!”
โนเอมิขมวดคิ้วทันที
“ลูกยังจัดการกับปัญหาตัวเองไม่เสร็จเลยนะเอลเลน! อย่าทำอะไรบุ่มบ่ามไปหน่อยเลย ถ้าไปก่อเรื่องกับตำรวจเพิ่มขึ้นก็จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของตระกูลเรานะ"
“ฮาร์วีย์เป็นคนดีค่ะ! หนูเชื่อเขา!
“ตระกูลคอบบ์ชั่วร้ายมาก! ถ้าเคทีเป็นเพื่อนกับเขาจริง ๆ เขาคงไม่มาติดแหงกอยู่ที่นี่หรอกค่ะ!”
เอลเลนดูฉุนเฉียวมาก เธอโกรธมากที่เพื่อนที่ดีของเธอไม่ยอมมาประกันตัวฮาร์วีย์ออกไป ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะเลิกคบกับเคทีอย่างไม่ลังเลอะไรเลย
เมื่อเห็นแม่ของเธอขมวดคิ้ว เอลเลนก็กลอกตามองบนแล้วจับมือฮาร์วีย์พร้อมกับยิ้ม
“หนูลืมบอกอะไรไปค่ะแม่
“หนูอยากอยู่กับฮาร์วีย์ตลอดไป! เขาช่วยชีวิตหนูไว้! ฮาร์วีย์คือแฟนของหนูตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ไม่สิ...เขาคือคู่หมั้นของหนูต่างหาก!
“หนูจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าแม่จะประกันตัวเขาออกไป!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก
ยังไม่จบใข่ไหมครับ...
ผมอ่านสองตอนวันนี้แล้วเริ่มเวียนหัว... บท... เวียนไปวนมา... ว่าจะหยุดหล่ะครับ บาย...
ผมขอเสนอแนะครับ แปลได้ 10 ตอน แล้วมาลงทีเดียวดีไหมครับ ระยะหลังมานี้ ลงครั้งละ 2 ตอน อ่านไม่ถึง 5 นาทีครับ ยังไม่ได้อรรถรสเลย บทนิยายหมดแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ...
เนื้อเรื่องโรงพยาบาลซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบละ แค่เปลี่ยนชื่อบุคคล สถานที่ เรื่องราวนิดหน่อย อ่านมามีแต่น้ำ เนื้อเรื่องจริงๆแทบไม่กระดิกไปไหน...
เย้ๆๆ มาแล้ว ขอบคุณคับ...
นานจังรออ่านอยู่ครับ...
รออ่านหลายสัปดาห์แล้วครับ รีบๆแปลให้อ่านหน่อย...
เป็นนิยายที่หลังๆเป็นเกาเหลา(มีแต่น้ำ) จะง้างทีต้องอธิบายกันไปถึงอีกฝ่ายแอบเป็นริดสีดวง สู้กับแค่คนๆเดียวไม่ยอมจบ มาหลังๆนี้รู้เลยยิ่งไม่เคยจบ ต้องพาศิษย์ผู้พี่ ผู้น้อง ลุงป้าน้าอา ไหนจะอธิบายความในใจ สรุป นิยายดึง จบไม่เป็นไปต่อไม่ได้ จุดขายคือรอพระเแกตบ...
หลายวันเลย ไม่มีมาซักตอน เป็นกำลังใจให้ ครับ...
เช้าวันนี้ ได้อ่าน 10 ตอน บวกเพิ่มอีก 2 ตอน รวมเป็น 12 ตอน ขอบคุณอย่างมากเลยครับ...