ฮาร์วีย์รู้ได้เลยว่าโนเอมิคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรเลย
ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นธรรมดาที่แม่จะต้องปกป้องลูกสาว
เขารับนามบัตรมาและเก็บไว้ในกระเป๋าของเขา
ทันใดนั้นจู่ ๆ โนเอมิก็ไอขึ้นมา
ฮาร์วีย์จึงมองที่หน้าอกของเธอโดยสัญชาตญาณ
โนเอมิรู้สึกเดือดดาลมากเมือเห็นฮาร์วีย์กำลังมองมาที่ไหน
'เด็กน้อยอย่างเขากล้าดียังไงมาทำแบบนี้?! เขาคิดว่าฉันเป็นใครเหรอ?'
ถ้าฮาร์วีย์ไม่เคยช่วยลูกสาวของเธอไว้ เธอคงตบหน้าเข้าไปแล้วที่มาแสดงความหยาบคายกับเธอ
“ในเมื่อคุณใจดีกับผมมากคุณโมเรโน่ ผมจึงขอบอกอะไรกับคุณหน่อยนะครับ"
ฮาร์วีย์ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อ
“ผมไม่รู้ว่าคุณกำลังฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แบบไหนอยู่ แต่การฝึกฝนของคุณเต็มไปด้วยข้อบกพร่องอย่างมาก
“ผมคิดว่าคุณควรหยุดการฝึกซ้อมหรือปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณเคยฝึกฝนมา เพราะถ้าคุณไม่ทำอย่างนั้นคุณจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน"
“ฮาร์วีย์!”
เอลเลนตัวแข็งทื่อ จากนั้นเธอก็นึกถึงความสำเร็จของเขาที่ช่วยชีวิตดีนได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
“คุณพูดจริงหรือเปล่า?
“ฮาร์วีย์เก่งมากค่ะแม่! แม่ควรฟังเขานะคะ!”
โนเอมิหรี่ตามอง แล้วในที่สุดก็เปิดเผยความกลัดกลุ้มของเธอออกมา
“อย่างนั้นเหรอ? ฉันไม่คิดคุณจะมีสายตาอันแหลมคมอย่างนั้น จริงค่ะที่ฉันฝึกฝนศิลปะการต่อสู้มาได้สองสามปีแล้ว เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย...
“นี่หมายความว่าคุณก็เป็นผู้เชี่ยวชาญเหมือนกันเหรอ?”
ฮาร์วีย์พยักหน้า
“ผมไม่อาจเอื้อมที่จะพูดอย่างนั้น แต่ผมอยู่ในระดับเดียวกับคุณ
“ปอดของคุณเกิดการบาดเจ็บจากการฝึกฝน ดังนั้นทางที่ดีก็ควรหยุดฝีกฝนไปเลย
“ถ้าคุณไม่ยอมหยุดคุณก็จะไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมา
“คุณสามารถไปทำการตรวจด้วยการสแกนที่โรงพยาบาลได้นะ ถ้าคุณไม่เชื่อผม"
ฮาร์วีย์กำลังคิดที่จะค้นหาว่าเธอได้รับบาดเจ็บตรงส่วนไหนแน่ ๆ แต่ต้องหยุดหลังจากเห็นสีหน้าระมัดระวังตัวของเธอ
เอลเลนมีท่าทีลังเล เธออยากให้ฮาร์วีย์ตรวจดูอาการของแม่เธอ หลังจากได้ยินว่าแม่ของเธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ แต่โนเอมิไม่เคยป่วยเป็นอะไรมานานมากแล้ว เอลเลนจึงไม่รู้จะพูดอะไรในตอนนั้น
“ผมรู้ว่าการชี้ให้เห็นข้อบกพร่องในการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ของคนอื่นนั้นเป็นเรื่องต้องห้าม...
ฮาร์วีย์สูดหายใจลึก ๆ
“แต่ที่ผมบอกคุณก็เพราะคุณเป็นเพื่อนของผม นอกจากนี้คุณทั้งสองคนก็ยังให้ความช่วยเหลือผมด้วย
“ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเด็ดขาดถ้าเป็นคนอื่น"
“แหะ แหะ! ฉันไม่คิดว่าคุณจะใจดีขนาดนี้!”
โนเอมิยับยั้งคำพูดของลูกสาวเอาไว้ ก่อนจะยิ้มให้ด้วยท่าทีสงบนิ่ง
“คุณบอกว่าปอดของฉันได้รับบาดเจ็บ แต่ฉันกลับไม่รู้สึกอะไรเลย
“ฉันวิ่งเกือบสิบกิโลเมตรทุกวัน แล้วยังฝึกชกลมเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเองด้วย!
“ถ้าคุณกำลังพูดถึงอาการไอของฉัน นั่นเป็นการไอครั้งเดียวในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา!
“คุณจะบอกว่าอาการไอนั้นทำให้คุณรู้ว่าการฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ของฉันมีข้อบกพร่องเกิดขึ้นใช่ไหม? คุณจะบอกว่าคุณรู้ว่าร่างกายของฉันผิดปกติและรู้วิธีแก้ไขด้วยใช่ไหม?
“ถ้าคุณเก่งขนาดนั้นจริง ๆ ตอนนี้ก็คงมีชื่อเสียงโด่งดังไปแล้วละสิ!
“ทำไมคุณยังเป็นที่ไม่มีชื่อเสียงอยู่ล่ะ?”
ฮาร์วีย์หัวเราะอย่างขมขื่น
“คุณโมเรโน่ อาการของคุณยังรักษาได้ง่ายอยู่นะครับเพราะเป็นอาการขั้นแรก ถ้าคุณยังมัวแต่ถ่วงเวลาอยู่ ก็จะไม่มีอะไรเหลือให้ช่วยคุณได้อีกแล้ว"
“เอาเถอะ! พอได้แล้ว! ฉันรู้สึกซาบซึ้งในความเป็นห่วงของคุณ"
โนเอมิไม่ได้ตอบคำถามตรง ๆ เธอแค่คิดว่าฮาร์วีย์เป็นคนงี่เง่าเท่านั้นเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก
ยังไม่จบใข่ไหมครับ...
ผมอ่านสองตอนวันนี้แล้วเริ่มเวียนหัว... บท... เวียนไปวนมา... ว่าจะหยุดหล่ะครับ บาย...
ผมขอเสนอแนะครับ แปลได้ 10 ตอน แล้วมาลงทีเดียวดีไหมครับ ระยะหลังมานี้ ลงครั้งละ 2 ตอน อ่านไม่ถึง 5 นาทีครับ ยังไม่ได้อรรถรสเลย บทนิยายหมดแล้ว ฮ่าๆๆๆๆ...
เนื้อเรื่องโรงพยาบาลซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบละ แค่เปลี่ยนชื่อบุคคล สถานที่ เรื่องราวนิดหน่อย อ่านมามีแต่น้ำ เนื้อเรื่องจริงๆแทบไม่กระดิกไปไหน...
เย้ๆๆ มาแล้ว ขอบคุณคับ...
นานจังรออ่านอยู่ครับ...
รออ่านหลายสัปดาห์แล้วครับ รีบๆแปลให้อ่านหน่อย...
เป็นนิยายที่หลังๆเป็นเกาเหลา(มีแต่น้ำ) จะง้างทีต้องอธิบายกันไปถึงอีกฝ่ายแอบเป็นริดสีดวง สู้กับแค่คนๆเดียวไม่ยอมจบ มาหลังๆนี้รู้เลยยิ่งไม่เคยจบ ต้องพาศิษย์ผู้พี่ ผู้น้อง ลุงป้าน้าอา ไหนจะอธิบายความในใจ สรุป นิยายดึง จบไม่เป็นไปต่อไม่ได้ จุดขายคือรอพระเแกตบ...
หลายวันเลย ไม่มีมาซักตอน เป็นกำลังใจให้ ครับ...
เช้าวันนี้ ได้อ่าน 10 ตอน บวกเพิ่มอีก 2 ตอน รวมเป็น 12 ตอน ขอบคุณอย่างมากเลยครับ...