ตอนที่ 115 อยากแข็งแกร่ง อยากมีชีวิตรอด (2)
หวังจินหยางไม่ได้พูดอะไร รอฟางผิงนั่งลงแล้วค่อยเอ่ยว่า “ฉันรู้เรื่องที่นายถูกท้าประลองนานแล้ว”
“อือ”
“ไม่แปลกใจหน่อยเหรอ? ยังไงฉันก็เป็นคนเอาปัญหามาให้นาย ถ้าฉันออกหน้าตั้งแต่แรก นายอาจจะไม่ต้องลงมือเอง”
ฟางผิงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ผมตัดสินใจเอง ไม่ได้มีใครบังคับ ตอนที่ขึ้นเวที สมาคมผู้ฝึกยุทธ์ถามผมก่อนเหมือนกัน ผมยอมรับการประลอง อย่างแรกคือไม่พอใจ ถือสิทธิ์อะไรมาสร้างปัญหาให้ผม! อีกอย่างคืออยากลองสัมผัสประสบการณ์ของผู้ฝึกยุทธ์สักหน่อย”
หวังจินหยางเผยยิ้ม “งั้นในความคิดนาย ผู้ฝึกยุทธ์เป็นยังไง?”
“เฉยชาต่อความเป็นความตาย?”
ฟางผิงพูดออกไปทันที
หวังจินหยางแค่นเสียง “ไร้สาระ ใครไม่กลัวตายบ้าง! ทุกคนต่างกลัวตาย ไม่มีใครเฉยชาต่อความเป็นความตายหรอก ปรมาจารย์ก็เหมือนกัน หรือเพราะผู้ฝึกยุทธ์ชอบต่อสู้แข่งขัน นายเลยคิดว่าพวกเขาไม่แยแสต่อความเป็นความตาย?”
“นายเข้าใจผิดแบบนี้ อาจเป็นเพราะมีประสบการณ์น้อย คนในสนามประลองวันนี้อาจจะไม่ได้คิดฆ่านายเสมอไป อันที่จริงอาจเป็นความไม่พอใจที่พ่ายแพ้ ผู้ฝึกยุทธ์เป็นคนที่อยากแข็งแกร่งและมีชีวิตรอด พวกเขาถูกฉันตัดเส้นทางที่ทำให้แข็งแกร่ง ดังนั้นจึงได้แค้นเคืองและไม่พอใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาอยากเอาชีวิตไปทิ้ง”
ระหว่างที่พูด หวังจินหยางวางตะเกียบลง เอ่ยช้าๆ ว่า “ที่ฉันไม่ได้ออกหน้าก่อนนายจะประลอง เพราะอยากให้นายเข้าใจ การเอาแต่หลีกหนีนั้นไม่ใช่วิถีทางที่จะแข็งแกร่งและมีชีวิตรอดของผู้ฝึกยุทธ์ แม้จะไม่มีเรื่องของฉัน จากสถานการณ์ของนาย ไม่นานคงจะได้ใกล้ชิดกับภารกิจที่อันตราย แทนที่จะปล่อยให้ถูกคนอื่นฆ่าข้างนอก ยังไม่สู้ให้นายสัมผัสความหวาดกลัวระหว่างความเป็นความตายในมหาวิทยาลัยเพื่อจะได้เปลี่ยนแปลงจิตใจเสียก่อน”
“อันที่จริงนายไม่ใช่คนขี้กลัว ตอนแรกที่เป็นคนธรรมดา ยังกล้าวางแผนกับหวงปินผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสอง นั่นแสดงให้เห็นว่านายใจกล้า ทั้งไม่ได้โง่ แต่นายขาดแคลนบางสิ่ง อย่างน้อยก็ขาดจิตใจที่ฮึกเหิม สิ่งนี้ไม่ใช่ว่าจำเป็นต้องมี แต่จะไม่มีเลยไม่ได้! ออกไปทำภารกิจข้างนอก นายต้องพบกับคนชั่วโฉดใจอำมหิต คนพวกนี้ไม่พูดพร่ำไร้สาระกับนายหรอก นายจะฆ่าเขา เขาก็จะฆ่านายเหมือนกัน!”
“ดังนั้นถ้าสัมผัสประสบการณ์นองเลือดก่อนจะเป็นประโยชน์ต่อนายมากกว่า แน่นอนว่าถ้านายถูกฆ่าตายในการประลองจริงๆ นั่นก็เรื่องของนาย ฉันไม่รู้สึกผิดอะไรหรอก นายพัฒนารวดเร็วเกินไป ครั้งนี้ไม่ถูกฆ่าตาย ครั้งหน้าอาจจะตายก็ได้ คนที่มีชีวิตอยู่ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิดกับคนที่ตายไปแล้วหรอก”
ฟางผิงทำหน้าจนใจ คำพูดนี้เหมาะสมจริงๆ งั้นเหรอ?
ฉินเฟิ่งชิงที่อยู่ด้านข้างพูดในขณะที่เคี้ยวข้าวเต็มปาก “ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งขั้นสองในมหาวิทยาลัยไม่ค่อยมีประสบการณ์นี้ ที่จริงนี่ถือเป็นจุดอ่อนอย่างหนึ่ง รอถึงขั้นสามแล้ว บางคนยังสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก ออกทำภารกิจครั้งแรกก็ตายกันเป็นเบือ แทนที่จะเอาชีวิตไปทิ้งอย่างไม่รู้อะไร ไม่สู้ตายเพราะคนอื่นมอบประสบการณ์ให้ตอนขั้นหนึ่งขั้นสองดีกว่า แน่นอนว่าไม่มีใครอยากจะตายอย่างไร้คุณค่า แต่เรื่องวันนี้โทษนายไม่ได้ พวกเขานั้นตายเปล่า ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมาก”
ความจริงฉินเฟิ่งชิงและหวังจินหยางกำลังปลอบใจฟางผิง แต่วิธีปลอบใจของทั้งสองคนแค่ไม่เอาไหนอยู่บ้างเท่านั้น
ฟางผิงไม่ได้พูดอะไร เปลี่ยนประเด็นอื่น “พี่หวังจะทะลวงขั้นแล้ว?”
“อืม อีกไม่กี่วันนี้แหละ”
“งั้นพี่มาเซี่ยงไฮ้…”
หวังจินหยางส่ายหัว “ไม่ใช่อย่างที่นายคิด ฉันไม่ได้อยากจะหาเรื่องให้พวกนักศึกษาหรอก อยู่ต่ำกว่าขั้นสาม มันเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ฉันจำเป็นต้องออกหน้า แต่ถ้าอยู่ระดับกลางแล้ว แม้จะเป็นหมู่อาจารย์ ฉันก็ไม่ได้อ่อนแอที่สุดเหมือนกัน ครั้งนี้มาเซี่ยงไฮ้เพราะมีธุระต้องจัดการ คนพวกนั้นของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ยังคิดว่าฉันมาท้าทายพวกเขา คิดมากเกินไปแล้ว!”
ฉันเฟิ่งชิงเบะปากขำ “ฉันเชิญมาเอง ครั้งนี้มีภารกิจใหญ่ต้องทำ หมอนี่แข็งแกร่งพอ พวกเราวางแผนจะไปเอารางวัลก้อนโตมาสักหน่อย!”
หวังจินหยางไม่ปฏิเสธ แต่เอ่ยเตือนว่า “นายอ่อนแอเกินไป ถ้าตายอย่ามาโทษฉันละกัน”
“เชอะ ฉันไม่ได้ตายง่ายขนาดนั้นเถอะ?”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน