ตอนที่ 122 ฟางผิงผู้ใจกว้าง (1)
วันต่อมา
ตึกฝึกซ้อมใหญ่
ฟางผิงมาถึงก็สัมผัสถึงไอชั่วร้ายที่ประดังประเดเข้ามา
นักศึกษาหลายคนเห็นเขา ต่างอดนึกถึงฉากที่ถูกเขาอัดจนหน้าบวมจมูกเขียวเมื่อเดือนก่อนไม่ได้
จ้าวเหล่ยเผยสีหน้าดูไม่ดีนัก เห็นฟางผิงจึงแค่นเสียงในลำคอเบาๆ “ฟางผิง เรื่องครั้งก่อนไม่ช้าก็เร็วต้องถูกสะสางแน่!”
“หา?”
ฟางผิงตะโกนเสียงดังขึ้นมาทันที “จ้าวเหล่ย เป็นผู้ชายเหมือนกัน อย่าใจแคบแบบนี้สิ? นายดู กระทั่งพวกหยางเสี่ยวม่านที่เป็นผู้หญิงยังไม่คิดเล็กคิดน้อยเลย นายยังจะคิดเล็กคิดน้อยอีก! ฉันก็ยอมแพ้ไปแล้วนี่นา? นี่ยังไม่พออีกเหรอ หรือนายอยากจะอัดฉัน?”
จ้าวเหล่ยโมโหจนแทบจะกระอักเลือด ฉันพูดเบาๆ นายจะตะโกนทำหอกอะไร!
หยางเสี่ยวม่านที่อยู่ด้านข้างมีโทสะขึ้นมาเช่นกัน ฉันไม่คิดเล็กคิดน้อยอย่างนั้นเหรอ?
ฉันแค่พูดออกมาไม่ได้ต่างหาก!
แน่นอนว่าเพราะเกรงกลัวฟางผิงอยู่บ้างเหมือนกันเลยไม่กล้าหาเรื่องตรงๆ
จ้าวเหล่ยถอยห่างไปด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน ฟู่ชางติ่งเอ่ยอย่างขบขัน “หรือนายไม่คิดเล็กคิดน้อยกับเขา? อยู่ดีๆ จะยั่วเขาขึ้นมาทำไม?”
“แย่งชิงผลประโยชน์ไง!”
ฟางผิงเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “เมื่อกี้ฉันเจออาจารย์ข้างนอก ได้ข่าวมาว่าคลาสฝึกพิเศษจะต้องเลือกหัวหน้าชั้นออกมาหนึ่งคน มีผลประโยชน์ให้ด้วย จะได้คะแนนเพิ่มขึ้นอีก ตอนที่ควรจะแย่งชิงก็ต้องแย่งชิงสักหน่อยสิ ยังไงอีกเดี๋ยวคงได้อัดเขาอีกครั้งแน่ เผื่อเวลาให้เขาได้เตรียมตัวก่อนไง”
“แค่กๆๆ…”
ฟู่ชางติ่งไอค่อกแค่กอยู่พักใหญ่ เอ่ยอย่างหมดคำพูด “นายจริงจัง?”
“ไร้สาระ!”
ฟางผิงกลอกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ถ้าไม่มีผลประโยชน์ ฉันคงไม่เข้าร่วมหรอก แต่เมื่อมีก็ต้องไตร่ตรองให้ดีเสียหน่อย นายอย่ามาแย่งฉันละกัน ไม่งั้นนายต้องโดนอัดเหมือนกัน!”
ฟู่ชางติ่งเบะปาก กลับไม่ปริปากพูดอะไร
ก่อนหน้านี้เขายังไม่รู้เรื่องของฟางผิง แต่หลังจากกลับมามหาวิทยาลัยได้สองวัน ฟู่ชางติ่งที่มีแหล่งข่าวกระจายไปทั่ว จึงได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนวันหยุด
แม้เขาจะหลอมกระดูกได้เยอะกว่าฟางผิง แต่หากปะทะกันจริงๆ…คงยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฟางผิงอยู่ดี
หากฟางผิงอยากจะเป็นหัวหน้าชั้น เขาไม่มีความคิดที่จะแย่งชิงตำแหน่งนี้จริงๆ
—
ระหว่างที่ทุกคนคุยเล่นกัน ถังเฟิงและพวกอาจารย์ขั้นหกก็พากันเดินเข้ามา
ถังเฟิงไม่มากความ เอ่ยปากทันที “ผู้ฝึกยุทธ์ที่หลอมกระดูกสองครั้ง จวงกงถึงระดับสอง สำเร็จเคล็ดวิชาต่อสู้เบื้องต้น หลอมกระดูกได้ยี่สิบชิ้นขึ้นไปให้ลุกขึ้นยืน!”
สิ้นเสียงมีคนจำนวนไม่น้อยยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว
ฟางผิงลุกตามคนอื่นเหมือนกัน
“ไม่เลว สี่สิบเอ็ดคน สี่สิบเอ็ดคนนี้เข้าคลาสฝึกพิเศษได้เลย”
พูดจบ ถังเฟิงไม่เปิดโอกาสให้ทุกคนซุบซิบกัน เอ่ยต่อว่า “นักศึกษาสาขายุทธศาสตร์ที่หลอมกระดูกสิบห้าชิ้น ออกมานอกแถว!”
ครั้งนี้การเคลื่อนไหวไม่มากเท่าไหร่ มีนักศึกษาชายเดินออกมาสองคน
“สี่สิบสามคนแล้ว!”
“สาขาศึกษาวิจัยที่สามารถซ่อมแซมอาวุธได้ยืนขึ้น”
ปกติสาขาศึกษาวิจัยมีผู้ฝึกยุทธ์ไม่เยอะอยู่แล้วในนี้ยังแบ่งเป็นผลิตคิดค้นยาบำรุง สร้างอาวุธยุทโธปกรณ์ และศึกษาวิจัยเคล็ดวิชา
เพิ่งเปิดเรียนได้ไม่นาน คนที่สามารถซ่อมแซมอาวุธ ทั้งยังเป็นผู้ฝึกยุทธ์นั้นยิ่งมีน้อยไปอีก
ในกลุ่มนักศึกษามีคนตัวเล็กคนหนึ่งยืนขึ้นอย่างขัดเขิน เอ่ยอ้อมแอ้มว่า “อาจารย์ ฉันพอซ่อมแซมได้แค่พวกอาวุธโลหะผสมระดับ E เท่านั้น”
“อืม ไม่มีปัญหา”
ถังเฟิงไม่ได้สนใจมาก เอ่ยต่อว่า “นักศึกษาสาขาสังคมที่ถูกจัดอยู่ในอันดับต้นๆ ของหลักสูตรวิเคราะห์ข่าวกรองยืนขึ้น!”
ครั้งนี้ยังคงมีคนน้อย มีคนยืนแค่คนเดียวเท่านั้น
ถังเฟิงถอนหายใจเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยว่า “นักศึกษาหญิงที่หน้าตาดีออกมา…”
“แค่กๆๆ!”
หลายคนสำลักไอขึ้นมาทันที!
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน