ตอนที่ 123 รวบรวมข้อมูล (2)
“ไม่รู้ว่านายรู้เรื่องความสูญเสียครั้งใหญ่ของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เทียนหนานก่อนหน้านี้หรือเปล่า ตอนนี้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นกว่าเดิม หลายแห่งต่างก็เกิดเรื่องแบบนี้ ดังนั้นทุกคนจึงพยายามพัฒนาความสามารถให้เร็วที่สุด เมื่อก่อนผู้ฝึกยุทธ์ที่อ่อนแออาจจะสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่หลังจากนี้อาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝัน ผู้อ่อนแอไม่มีสิทธ์สิ้นเปลืองทรัพยากรอีกแล้ว! ต้องรวมตัวบ่มเพาะผู้แข็งแกร่งขึ้นมา ถึงจะสามารถจัดการกับภัยร้ายได้มากขึ้น ดังนั้นฉันเลยบอกว่าตอนนี้นายควรแย่งชิงทรัพยากรให้เยอะๆ แน่นอนว่าถ้าไม่ได้สนใจเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์เท่าไหร่ก็ทำเป็นว่าฉันไม่เคยพูด เรียนจบด้วยขั้นสองขั้นสาม บางทีอาจสามารถมีชีวิตที่ร่ำรวยสงบสุขได้แล้ว”
หลู่เฟิ่งโหรวพูดคร่าวๆ ก่อนจะส่ายหัว “เป็นปีที่มีแต่เรื่องราว เมื่อก่อนมีแค่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามเท่านั้นที่จะเข้าร่วมได้ บางทีต่อไปอาจลดจนถึงขั้นสองหรือกระทั่งขั้นหนึ่ง หลายปีมานี้นับวันก็ยิ่งบ่อยขึ้นเรื่อยๆ”
ไม่รู้ว่าเธอพูดกับฟางผิงหรือกำลังพูดกับตัวเอง
แม้ฟางผิงจะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่สัมผัสได้ถึงความรู้สึกตึงเครียดเช่นกัน
เดินกันมาสักพัก สุดท้ายหลู่เฟิ่งโหรวจึงโบกไม้โบกมือว่า “นายกลับไปก่อนได้เลย ถ้ามีเรื่องอะไรฉันจะบอกนายอีกที ยังไงนายก็เป็นลูกศิษย์ฉัน”
“ครับอาจารย์ งั้นผมขอตัวก่อน”
“ไปเถอะ”
รอจนฟางผิงจากไปแล้ว หลู่เฟิ่งโหรวค่อยถอนหายใจเบาๆ
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วไปตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก อันที่จริงเมื่อก่อนเคยเกิดขึ้นเหมือนกัน แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวใหญ่อะไร ครั้งนี้กลับมีท่าทีราวกับไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
ตอนแรกหลู่เฟิ่งยังเมินเฉย ขี้เกียจจะสนใจเรื่องพวกนี้
แต่ตอนนี้หลู่เฟิ่งเพิ่งทราบว่าเรื่องราวนั้นเป็นปัญหากว่าที่ตัวเองคาดไว้
นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวที่เทียนหนาน ทางเข้าถ้ำใต้ดินแต่ละแห่งก็มีสัญณาณแปลกๆ นี่อาจเป็นลางว่าปัญหาใหญ่ใกล้มาถึงแล้ว
มหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ที่ทำหน้าที่เฝ้าระวังถ้ำใต้ดินแต่ละแห่งต่างนั่งไม่ติดที่ เริ่มแสวงหาทรัพยากรจำนวนมากเพื่อมาพัฒนาความสามารถรับมือกับเหตุร้าย
นี่จึงได้จัดการแข่งขันแลกเปลี่ยนขึ้น
ก่อนหน้านี้ทางเซี่ยงไฮ้ยังมองอะไรไม่ออกเท่าไหร่ แต่ช่วงนี้ชัดเจนขึ้นมาแล้ว
ลูกศิษย์ของเธอหลายคนที่อยู่ข้างนอกต่างทยอยบาดเจ็บหนัก
มีคนหนึ่งแทบจะเอาชีวิตไปทิ้ง หลู่เฟิ่งโหรวก็เพิ่งทราบถึงเหตุไม่คาดฟังที่เกิดขึ้นจากปากของลูกศิษย์
พวกหวังจินหยางและฉินเฟิ่งชิงบอกว่าจะไปล่าผลประโยชน์ ก็เพราะเรื่องนี้เหมือนกัน
หลู่เฟิ่งโหรวไม่รู้ว่านี่คือลางบอกเหตุหรืออะไร แต่สุดท้ายยังคงรับรู้ได้ถึงวิกฤต
ครั้งนี้ที่เธอพูดกับฟางผิง จิตใจของเธอก็รู้สึกซับซ้อนเช่นกัน
นักศึกษาทั่วไปยังพอว่า ทว่านี่คือนักศึกษาใหม่
แต่ฟางผิงที่เป็นนักศึกษาโดดเด่น มีความเป็นไปได้ว่าหลังจากนี้อาจจะถูกแจ้งเรื่องถ้ำใต้ดินให้รู้ล่วงหน้าและถูกบังคับให้เข้าร่วมด้วย
ปกติมักจะสามารถเลือกรับภารกิจตามความสมัครใจ
แต่เมื่อถึงช่วงเวลาสำคัญ ยังจะถามความสมัครใจอย่างนั้นเหรอ?
เขาจะอยากไปหรือไม่ไปก็ต้องไป นี่เป็นหน้าที่ของผู้ฝึกยุทธ์!
แน่นอนว่าไมใช่แค่ฟางผิง อันที่จริงฟางผิงยังเป็นแค่ทหารตัวเล็กๆ เธอกลัวว่าไม่นานตัวเองก็ต้องห่างจากมหาวิทยาลัยเช่นกัน
เสวยสุขใช้ชีวิตอย่างปกติมานานเกินไป แทบจะลืมเรื่องพวกนี้ไปแล้ว
แต่มหาวิทยาลัยจัดหาทรัพยากรก้อนโตให้พวกเขาจนมาถึงขั้นห้าขั้นหก พอถึงเวลานี้ หดหัวหันหลังหนีภัยคงเป็นไปไม่ได้ แม้จะเป็นปรมาจารย์ก็เหมือนกัน
—
ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลาง ช่วงนี้ต่างเคร่งเครียดขึ้นมา
ผู้ฝึกยุทธ์ระดับล่าง นอกจากขั้นสามที่กำลังทำภารกิจ คนอื่นๆ ยังคงไม่รู้เรื่องราวอะไร
แม้หลู่เฟิ่งโหรวจะบอกฟางผิงหลายประโยค ฟางผิงกลับรู้แค่ครึ่งๆ กลางๆ เพราะไม่มีแหล่งข้อมูลข่าวสาร
แต่สิ่งที่เขารู้อย่างหนึ่งคือต้องพยายามพัฒนาความสามารถให้เร็วที่สุด
ฟางผิงกลับมาหอพัก ก็ทิ้งความรู้สึกดีที่เพิ่งอัดคนไปทันที เริ่มทำการหลอมกระดูกต่อ
เมื่อกี้แค่เป็นการทะเลาะของเด็กๆ เท่านั้น จ้าวเหล่ยเป็นแค่นักศึกษาใหม่
นอกจากเรื่องที่หลอมกระดูกมากกว่าเขานิดหน่อยแล้ว อย่างอื่นล้วนไม่มีอะไรพิเศษ รังแกคนแบบนี้แทบไม่มีความภาคภูมิใจแม้แต่น้อย
—
ไม่ทันถึงอีกวันที่เข้าคลาสฝึกพิเศษ เย็นวันนั้นฟางผิงฝึกวิชา ก็รับรู้ได้ว่าพื้นดินสั่นไหว
ดีที่เกิดขึ้นเพียงครู่เดียว เกรงว่าคนส่วนมากคงจะสัมผัสไม่ได้


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน