ตอนที่ 143 เชี่ยวชาญการตีหน้า (2)
ท่ามกลางนักศึกษาสองฝั่งที่ยืนดูการประลอง
หยางเสี่ยวม่านสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย “พลังแขนของเขาแข็งแกร่งจริงๆ!”
“น้ำหนักของอาวุธก็ไม่ใช่เบาๆ”
ฟู่ชางติ่งตัดบทว่า “นี่ไม่ใช่ประเด็นหลัก จุดสำคัญคือการระเบิดปราณของเขาสูงยิ่งกว่าจ้าวเหล่ยซะอีก!”
“เป็นไปได้ไง!”
หยางเสี่ยวม่านตกใจอยู่บ้าง “จ้าวเหล่ยหลอมกระดูกห้าสิบห้าชิ้นแล้ว อย่างน้อยปราณต้องสูงกว่าสองร้อยเจ็ดสิบแคล…”
“ฟางผิงแข็งแกร่งกว่าเขาอยู่มาก ไม่ใช่แค่ห่างกันเล็กน้อย!”
ฟู่ชางติ่งเผยสีหน้าจริงจัง หลังจากเริ่มคลาสฝึกพิเศษ พวกเขาก็ไม่ได้เห็นฝีมือของฟางผิงอีกเลย
การเปลี่ยนหัวหน้าครั้งที่สอง ไม่มีใครท้าประลองเช่นกัน
ส่วนครั้งที่สาม เพราะเดือนก่อนแต่ละคนต่างไปทำภารกิจของตัวเอง ทุกคนจึงไม่มีโอกาสพบเจอกัน
จนถึงตอนนี้พวกเขาค่อยพบว่าปราณของฟางผิงนั้นสูงจนน่าตกใจ
อย่างน้อยคงจะอยู่ที่สองร้อยแปดสิบแคล…ไม่สิ สองร้อยแปดสิบแคลสร้างแรงกดดันถึงขนาดนี้ไม่ได้หรอก อย่างน้อยน่าจะประมาณสามร้อยแคล!
“นี่คือผู้ฝึกยุทธ์ที่หลอมกระดูกสามครั้งอย่างนั้นสินะ?”
ฟู่ชางติ่งพึมพำ ก่อนจะดึงสติกลับมาได้ เอ่ยอย่างเคร่งขรึมว่า “ปราณสูงขนาดนี้ คงหลอมกระดูกได้ไม่น้อยแล้ว อย่างต่ำต้องประมาณห้าสิบชิ้น ไม่งั้นแม้จะหลอมกระดูกสามครั้ง ปราณคงไม่สูงขนาดนี้”
ในขั้นหนึ่งทุกครั้งที่หลอมกระดูกสำเร็จหนึ่งชิ้น ขีดกำจัดของปราณจะมีการเพิ่มขึ้น
หากฟางผิงหลอมกระดูกได้ไม่เยอะ แม้ว่าเขาจะหลอมกระดูกสามครั้งแล้ว ปราณคงไม่สูงขนาดนี้เช่นกัน
“สามร้อยแคล!”
หยางเสี่ยวม่านหน้าซีดอยู่บ้าง ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งวัดกันจากจำนวนหลอมกระดูก และระดับปราณ เคล็ดวิชาต่อสู้ของทุกคนแทบไม่ต่างกันมาก เพราะยังไม่ได้เรียนเคล็ดต่อสู้ที่พิเศษอะไร
ปราณของฟางผิงแข็งแกร่งขนาดนี้ สำหรับพวกเขาแล้วแทบจะถูกสร้างความกดดันอย่างสิ้นเชิง
ระหว่างที่ทุกคนวิพากษ์วิจารณ์ จู่ๆ ฟางผิงก็คำรามขึ้นมา ดาบยาวเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ฟาดกลางอากาศจนเกิดเสียงดังลั่น
“เคร้ง!”
ครั้งนี้เสียงกระทบของโลหะผสมดังขึ้นกว่าเดิม!
จ้าวเหล่ยใบหน้าแดงก่ำ ตะโกนด้วยความโมโหเช่นกัน ฝีเท้ากลับถอยไปข้างหลังอย่างต้านไม่อยู่ คราบเลือดที่ง่ามมือนั้นชัดเจนยิ่งกว่าเดิม
“ยังไม่ยอมแพ้อีก? จะให้ฉันอัดนายจนร้องไห้?”
ฟางผิงคำรามอีกครั้ง ฟันดาบยาวลงมาใหม่!
“เคร้ง!”
ครั้งนี้หลังจากฟางผิงฟันลงไป ในที่สุดจ้าวเหล่ยก็จับกระบองไว้ไม่อยู่ กระบองเหล็กหลุดจากมือร่วงสู่พื้นจนเกิดเสียงดังก้อง
สองมือของจ้าวเหล่ยชาจนแทบขยับไม่ได้ เขากลับไม่อยากจะยอมแพ้เช่นนี้ เคลื่อนไหวฝีเท้าอย่างว่องไว คิดจะประกบต่อสู้กับฟางผิง
ฟางผิงไม่ปล่อยโอกาสให้เขา ดาบยาวแหวกกลางอากาศ ฟันลงมาอีกครั้ง ขวางอยู่ข้างหน้าเขา
จ้าวเหล่ยม่านตาหดเกร็ง รีบถอยหลัง
เขาเพิ่งถอย ฟางผิงเปลี่ยนจากท่าฟันเป็นตบแทน ใช้หน้าดาบตบเข้าที่กลางหน้าอกของจ้าวเหล่ย!
“ปึก!”
ความเร็วของจ้าวเหล่ยสู้ฟางผิงไม่ได้ จึงหลบไม่ทัน ถูกโจมตีเข้าที่อก กระอักเลือดออกมาทันที!
เวลานี้ฟางผิงไม่คิดใช้ดาบต่ออีกแล้ว โยนดาบไปทางพวกหยางเสี่ยวม่าน พวกหยางเสี่ยวม่านรีบหลบกันแทบไม่ทัน
ฟู่ชางติ่งกลับยื่นมือไปรับ พอดาบร่วงสู่มือ สิ่งแรกที่สัมผัสได้คือความหนักอึ้ง
ก่อนจะเห็นความมันวาวของโลหะจากตัวดาบ จึงอดสบถออกมาไม่ได้ “ไอ้มหาเศรษฐี!”
“แม่งเหอะ นี่ทำมาจากโลหะผสมระดับ D!”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนในชั้นเรียนต่างหันไปมองดาบเฟิ่งจุ่ยทันที
ทุกคนต่างก็มองออก แรงโจมตีเมื่อครู่ของฟางผิงไม่ใช่น้อยๆ ดาบต้องหนักอยู่แล้ว อาจจะประมาณสามสิบจินได้
หากเป็นโลหะผสมระดับ D ไม่ได้หมายความว่าต้องใช้คะแนนแลกเปลี่ยนถึงสามร้อยคะแนนหรอกหรือ?
ฟู่ชางติ่งด่าว่าไอ้มหาเศรษฐีนั้น ความจริงไม่นับว่าเป็นการใส่ร้ายเลย
พวกเขายังสนใจกับดาบยาวอยู่ ทางฟางผิงกลับคุมตัวจ้าวเหล่ยได้แล้ว
ในตอนที่ทุกคนเบนสายตากลับมาก็ได้เห็นฉากที่คุ้นตาอีกครั้ง!
“พลั่ก!”
จนกระทั่งถึงเวลานี้ มือสองข้างของจ้าวเหล่ยยังคงชาเป็นอัมพาต เขาทำได้แค่มองหมัดพุ่งเข้าหาจมูกของตัวเอง
จ้าวเหล่ยเบิกตาแทบถลน รีบเอนหัวไปด้านหลัง แต่เดิมทีก็แทบหลบหมัดของฟางผิงไม่ได้แล้ว!
“พลั่ก!”
เสียงดังก้องไปทั่ว จมูกของจ้าวเหล่ยมีเลือดไหลออกมาทันที ดวงตานั้นแดงก่ำอย่างยิ่ง น้ำตาร่วงลงมาในชั่วพริบตา
“บอกว่าอย่าร้องไห้ ยังจะร้องไห้อีก!”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน