ตอนที่ 159 เซี่ยงไฮ้เป็นฝ่ายชนะ (2)
ถังเฟิงกลับพึมพำว่า “เจ้าเด็กนี่เจ้าเล่ห์จะตายไป เกรงว่าคงไม่ใช่เรื่องแค่ยาหมด”
ต้องขึ้นเวที ฟางผิงน่ะเหรอจะไม่เตรียมตัวให้พร้อม?
จู่ๆ จะมาพูดว่ายาหมด ถังเฟิงคนหนึ่งล่ะที่ไม่เชื่อ!
ในสายตาของเขา ฟางผิงนั้นเป็นคำนิยามของความเจ้าเล่ห์กลับกลอก
เขาทิ้งการแข่งไปกะทันหันแบบนี้ อาจเป็นเหมือนที่คนเมื่อกี้พูดจริงๆ อยากจะไว้หน้าให้ทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัย
นี่เป็นการรวมตัวของมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้อันดับรองทั้งแปดแห่ง มีปรมาจารย์กว่าสิบคน
หากฟางผิงเอาชนะอีกฝ่ายห้าคนรวด แม้ว่าปรมาจารย์จะไม่ผูกบัญชีแค้น แต่คงไม่มีสีหน้าดีๆ ให้เขาอยู่ดี
ตอนนี้ชนะสี่คนรวดยังพอว่า นอกจากจะเป็นการแสดงศักยภาพของตัวเอง ยังเผยให้เห็นถึงความใจกว้าง รู้จักความเหมาะสม
—
ฟางผิงลงเวทีด้วยท่าทีสบายๆ
ตอนนี้แม้ปราณของเขาจะลดหลั่นลงไปไม่น้อย แต่ทั่วร่างนั้นไร้บาดแผล จุดนี้มีเพียงฟางเหวินเสียงคนสุดท้ายจากทีมปักกิ่งที่ทำได้
ฟู่ชางติ่งตรงดิ่งมาหาเขาทันที เอ่ยด้วยน้ำตานองหน้า “ในที่สุดนายก็ลงมาสักที!”
ตอนนี้ถึงตาฉันแสดงฝีมือบ้างแล้ว
ฟางผิงกลับเตือนเขาว่า “อย่าชะล่าใจ คนที่คุมท้ายทัพไม่อ่อนแออยู่แล้ว เว่ยปินแข็งแกร่งเหมือนกัน เพียงแค่ฉันแข็งแกร่งกว่าเท่านั้น”
ฟู่ชางติ่งถลึงตาใส่เขา ไม่สนใจอีก คว้าหอกยาวเดินขึ้นไปบนเวที
อีกฝั่งหนึ่ง ไช่ชิ่งไห่จากทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัย แผ่นหลังนั้นมองเห็นถึงความองอาจแฝงด้วยความเศร้า สาวเท้าเดินขึ้นเวทีเช่นกัน
ทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัย ตอนนี้เหลือแค่เขาคนเดียวแล้ว
ไม่มีแม้แต่เสียงเชียร์เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ!
คนอื่นๆ อีกสี่คนล้วนถูกส่งไปห้องพยาบาลหมดแล้ว
—
ด้านล่างเวที
ฟางผิงเดินกลับมา ไป๋รั่วซีก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ยาหมดจริงๆ งั้นเหรอ?”
“หมดจริงๆ ครับ!”
ฟางผิงประท้วงว่า “มหาวิทยาลัยให้ยาบำรุงเลือดและปราณขั้นหนึ่งห้าเม็ด ตอนนี้ผมใช้หมดแล้วยังต้องควักของตัวเองมาใช้อีกเม็ด อาจารย์ไป๋ เรื่องนี้มหาวิทยาลัยต้องชดใช้ให้ ไม่งั้นผมยังไม่รู้ว่าการแข่งรอบหลังจะสู้ไหวหรือเปล่า มหาวิทาลัยให้ผมยี่สิบเม็ด รอบหลังผมคงเอาชนะปักกิ่งได้แน่ ให้สิบเม็ด ผมน่าจะสู้ได้สี่รอบเป็นอย่างต่ำ…ถ้าผมฝืนสู้อีกรอบ พวกคุณก็เห็นแล้วนี่ ปราณของผมลดลงเร็วขนาดไหน”
ไป๋รั่วซียังไม่ทันพูดอะไร ถังเฟิงที่เพิ่งเข้ามาก็แค่นเสียงในลำคอว่า “ฝันหวานเกินไปแล้ว!”
“อาจารย์ถัง คำพูดนี้ออกจะไร้เหตุผลอยู่บ้าง ผมต่อสู้เพื่อเซี่ยงไฮ้ เซี่ยงไฮ้จะทุ่มเทให้ผมไม่ได้เชียว? ฐานะทางบ้างผมไม่ได้ดีเหมือนจ้าวเหล่ยและหยางเสี่ยวม่าน พ่อและแม่ของผมต่างเป็นคนธรรมดา เพื่อให้ผมสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ได้ ต้องทำงานหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน อายุแค่ห้าสิบปีกลับดูแก่กว่าคนหกสิบปีแล้ว…ตอนนี้มหาวิทยาลัยให้ผมนำทัพแข่งขัน กระทั่งยาบำรุงชดเชยยังไม่มีให้…”
ฟางผิงคร่ำครวญอย่างโศกเศร้า
“เซี่ยงไฮ้จะปฏิบัติกับนักศึกษายากไร้ที่ทำเพื่อมหาวิทยาลัยแบบนี้ได้ยังไง”
คนอื่นๆ ต่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่บ้าง คำพูดนี้ไม่ได้ไร้เหตุผลเสียทีเดียว
ฟางผิงเอาชนะสี่คนรวดด้วยตัวคนเดียว พวกเขาที่เหลือแทบไม่ต้องออกแรง แม้ว่าจะไม่มีโอกาสแสดงฝีมือ แต่อย่างน้อยถือว่าประหยัดยาบำรุงจริงๆ
ฟางผิงต่อสู้อย่างดุเดือดขนาดนี้ เซี่ยงไฮ้ควรจะชดเชยให้เขาสักหน่อย
ครั้งนี้ถังเฟิงถูกตอกกลับจนพูดไม่ออก ผ่านไปครู่หนึ่งค่อยเอ่ยอย่างจนใจว่า “กลับไปจะชดเชยยาบำรุงเลือดและปราณขั้นหนึ่งให้เธอห้าเม็ด…”
“ห้าเม็ด?”
ฟางผิงเผยสีหน้าขุ่นเคือง โอดครวญว่า “ห้าเม็ดแทบไม่พอ รอบหลังยังเหลือการแข่งขันอีกสองรอบเป็นอย่างต่ำ…”
“รอบหลังนายรั้งท้ายทัพ!”
ถังเฟิงแค่นเสียงในลำคอ ฟางผิงไม่ได้ฝีมืออ่อนด้อย แต่หมอนี่เป็นเหมือนปีศาจที่เขมือบทอง!
ตอนนี้แต่ละทีมเห็นความสามารถของเขาแล้ว รอบหลังสามารถวางแผนลำดับการต่อสู้ใหม่ได้
ให้ฟางผิงรั้งท้ายทัพ เมื่อเป็นแบบนี้โอกาสที่ฟางผิงลงสนามจะมีน้อยลง
สมาชิกคนอื่นๆ ของเซี่ยงไฮ้ ไม่อาจจะรั้งตัวดูความสนุกอย่างเดียวได้เช่นกัน นั่นไม่สอดคล้องกับความตั้งใจแรกของพวกเขา
ฟางผิงได้ยินแบบนี้จึงเบะปากไม่พูดอะไรอีก
หากไปอยู่ท้ายทัพ ให้ยาบำรุงเพิ่มห้าเม็ด ถือว่าไม่น้อยเลย
พวกเขาพูดคุยกันไป ไม่ลืมดูสถานการณ์ตรงหน้าด้วยเช่นกัน
—
บนเวที



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน