ตอนที่ 166 การแข่งขันแลกเปลี่ยนสิ้นสุด (1)
การแข่งขันครั้งที่สอง สวีอี้ข่ายเจอกับฟางเหวินเสียง
สวีอี้ข่ายฟังคำพูดของฟางผิง ค่อยๆ ดำเนินทีละก้าวอย่างเหมาะสม ถ่วงเวลาฟางผิงเหวินเสียงอยู่ตลอด บางครั้งก็ก่อกวนเขาเล็กน้อย
ทุกคนต่างจับตาดูฟางเหวินเสียงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งสูงสุดคนนี้
เนื่องด้วยอาการบาดเจ็บ สุดท้ายเมื่อถูกดึงเกมจนหมดแรงจึงครวญครางล้มพับไป
การแข่งครั้งที่สามจางเจิ้นกวงพบกับสวีอี้ข่าย
จางเจิ้งกวงได้รับบาดเจ็บที่แขนข้างหนึ่ง ทำได้เพียงใช้มือข้างเดียว
แม้จะเป็นแบบนี้ จางเจิ้นกวงที่โมโหสุดขีดยังสามารถใช้มือเดียว ซัดฝ่ามือออกมาเจ็ดครั้งติดต่อกัน โจมตีสวีอี้ข่ายจนบาดเจ็บหนัก
ส่วนเขา ระหว่างที่โจมตีสวีอี้ข่าย แขนก็บาดเจ็บหนักขึ้นไปอีก รอยเลือดนั้นไหลเป็นทาง
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งสูงสุดที่หลอมกระดูกสองครั้งทั้งสองคนถูกผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งตอนปลายที่หลอมกระดูกหนึ่งครั้งโจมตีจนมีสภาพเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ากำลังถดถอยลงเรื่อยๆ แล้ว
—
การแข่งครั้งที่สี่ เฉินอวิ๋นซีปะทะกับจางเจิ้นกวง
เห็นจางเจิ้นกวงได้รับบาดเจ็บหนัก เฉินอวิ๋นซีขึ้นเวทีก็เอ่ยเสียงเบาว่า “นายลงไปดีกว่า อย่าเสียเวลารักษา…”
ไม่รู้ว่าจางเจิ้นกวงคิดว่าเฉินอวิ๋นซีดูถูกเขาหรือเปล่า ผู้ฝึกยุทธ์ที่นิ่งสุขุมมาโดยตลอดคนนี้จึงโมโหในการแข่งขันรอบนี้เป็นพิเศษ
บางทีอาจเพราะไม่อยากยอมรับ หรืออาจจะเป็นเหตุผลอื่น
จางเจิ้นกวงโจมตีอย่างดุดันอย่างยิ่ง
ทุกคนคิดว่าแขนซ้ายของเขาไม่สามารถขยับได้อีกแล้ว แต่ชั่วพริบตาที่ประมือกับเฉินอวิ๋นซี
จู่ๆ จางเจิ้นกวงก็ใช้แขนซ้ายที่ได้รับบาดเจ็บหนัก ซัดเคล็ดวิชาต่อสู้ระดับต้นออกมา…หมัดกระสุน!
ในเวลาเดียวกับที่เคล็ดวิชาต่อสู้ถูกงัดออกมาใช้ คนของปักกิ่งหลายคนส่งเสียงเชียร์ออกมา บางคนถึงกับน้ำตานองหน้า
—
ชั้นสองมีปรมาจารย์ถอนหายใจว่า “เด็กคนนี้จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว หมัดกระสุนชุดนี้ซัดออกมา เกรงว่ากระดูกมือคงแตกกระจาย รักษาสี่ห้าเดือนก็อาจจะยังไม่หายดี”
เฉินอวิ๋นซีนั้นค่อนข้องมีจิตใจเมตตา ตั้งแต่ต้นเห็นสภาพน่าสมเพชของเขา จึงคิดจะผลาญปราณให้เขาลงเวทีไปแต่โดยดี คลาดสายตาไปครู่เดียวกลับถูกจางเจิ้นกวงโจมตีเข้าที่อกอย่างแรง กระอักเลือดออกมาเป็นทาง
—
ด้านหลังเวที
ไป๋รั่วซีเอ่ยอย่างจนใจ “หากรู้ว่าจะเป็นแบบนี้คงเตือนเธอก่อน อย่าได้ประเมินใครต่ำไป ขึ้นสังเวียนแล้ว ห้ามคิดสงสารใคร ตอนนี้…”
จางเจิ้นกวงนั้นบาดเจ็บอย่างรุนแรงตั้งนานแล้ว เฉินอวิ๋นซีพลังปราณเต็มเปี่ยม ทั้งขึ้นเวทีเป็นครั้งแรก สามารถพูดได้ว่าอยู่ในสถานการณ์ที่ดีอย่างยิ่ง
แต่แม้จะเป็นเช่นนี้ กลับนึกไม่ถึงว่าเธอจะถูกผู้ฝึกยุทธ์ระดับเดียวกันที่ความสามารถถูกจำกัดไปครึ่งหนึ่งโจมตีจนมีสภาพเช่นนี้ ไป๋รั่วซีนั้นผิดหวังจริงๆ
—
เห็นได้ชัดว่าเฉินอวิ๋นซีนึกไม่ถึงเหมือนกัน
กระอักเลือดพลางมองจางเจิ้นกวงที่ล้มลงกับพื้นด้วยความงุนงง
เขายอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายโจมตีครั้งสุดท้าย เพื่อให้เธอบาดเจ็บหนัก?
คุ้มค่าหรือไง?
ทีมปักกิ่งมีโอกาสแพ้สูงอย่างเห็นได้ชัด เวลานี้ไม่ใช่ควรจะให้ความสำคัญกับการรักษาเป็นหลักหรอกเหรอ?
ไม่มีใครให้คำตอบกับเฉินอวิ๋นซี!
ในตอนที่หานซวี่ซึ่งอยู่ในลำดับที่สามขึ้นเวที เฉินอวิ๋นซีที่เต็มไปด้วยความโมโหและไม่เข้าใจก็ระบายทุกอย่างไปไว้ที่หานซวี่ทันที ก่อนหน้านี้หานซวี่ก็ทำร้ายหยางเสี่ยวม่าน!
“ฉันจะฆ่านายให้ตาย!”
เกรงว่านี่จะเป็นประโยคที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เฉินอวิ๋นซีเข้ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มา
เฉินอวิ๋นซีที่อ่อนหวานเรียบร้อยมาโดยตลอด ครู่ต่อมากลับระเบิดพลังต่อสู้อย่างเต็มรูปแบบ!
เธอเรียนวิชากระบี่มาจากไป๋รั่วซี แต่ตอนนี้เฉินอวิ๋นซีทิ้งกระบี่ไปอีกฝั่งหนึ่งนานแล้ว
ใช้กระบี่เพราะทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับเป็นเทพเซียนที่สง่างาม
แต่ไม่ได้หมายความว่าเธอมีความรู้ในวิชากระบี่อย่างลึกซึ้ง
กลับกันเฉินอวิ๋นซีจะชำนาญต่อสู้ประชิดตัวมากกว่า ตอนแรกที่เปิดเรียนก็ใช้ขาคู่ เตะฟู่ชางติ่งจนต้องร้องยอมแพ้มาแล้ว
ตอนนี้เฉินอวิ๋นซีที่ระเบิดพลังต่อสู้อย่างเต็มเปี่ยม กระโดดขึ้นกลางอากาศ ขาสองข้างเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เตะไปหาหานซวี่จากกลางอากาศ!
—
“ระดับสภาวะว่างเปล่า!”
ในหมู่ฝูงชนมีผู้ฝึกยุทธ์ร้องขึ้นมา ระดับสภาวะว่างเปล่าอีกคนแล้ว!


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน