ตอนที่ 230 มีเงินถึงจะสบายใจ (2)
ฟางผิงคำนวณเล็กน้อย สามวันให้หลังก็วันที่สิบแปด ฟังจบจึงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “รบกวนพวกคุณแล้ว ครั้งนี้จำเป็นจริงๆ”
เจียงหยวนเฮ่าเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง ครุ่นคิดก่อนเอ่ยว่า “คุณฟางกำลังเตรียมกักตุนของที่จำเป็น?”
“ครับ”
“อย่างนี้นี่เอง…”
เจียงหยวนเฮ่าเงียบไปพักหนึ่ง “งั้นเอาแบบนี้ ผมจะโทรหาบริษัทตอนนี้เลย ให้บริษัทพยายามจัดการขั้นตอนให้เสร็จเร็วที่สุด ไม่อาจให้ถ่วงรั้งเรื่องสำคัญของคุณฟางได้”
ลงถ้ำต้องซื้อหยูกยา อาวุธต่างๆ ล่วงหน้า นี่ถือเป็นเรื่องปกติที่ต้องเสียเงิน
แม้เจียงหยวนเฮ่าจะไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสาม แต่ยังคงมีความรู้เกี่ยวกับถ้ำใต้ดินอยู่บ้าง จึงเดาถึงจุดประสงค์ของฟางผิงออก
เซ็นสัญญาแล้ว ลงทุนกับหยวนฟางและฟางผิง คงไม่อยากให้ฟางผิงตายไวเช่นกัน
เจียงหยวนเฮ่าพูดแล้วก็ทำทันที ต่อสายโทรศัพท์หาบริษัทกองทุนผู้ฝึกยุทธ์ใหม่
ฟางผิงรีบกล่าวขอบคุณซ้ำไปซ้ำมา เรื่องสัญญาในวันนี้ถือว่าเสร็จสิ้นอย่างเป็นทางการ
ส่วนเรื่องสัญญาหลักๆ ที่จะส่งเจ้าหน้าที่มากำกับดูแล เรื่องพวกนี้ฟางผิงไม่ได้สนใจนัก การเข้าออกของบริษัทกองทุนผู้ฝึกยุทธ์ใหม่ ทำให้หยวนฟางมีการกระจายอำนาจ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับหลี่เฉิงเจ๋อคนเดียว สำหรับฟางผิงแล้วถือเป็นเรื่องดี ไม่จำเป็นต้องให้เขาไปหาคนมากำกับเอง
—
ทุกคนกินข้าวกลางวันด้วยกัน ตอนที่กินข้าว ฟางผิงจึงค่อยเข้าใจเกี่ยวกับบริษัทกองทุนผู้ฝึกยุทธ์ใหม่คร่าวๆ
กองทุนผู้ฝึกยุทธ์ใหม่เพิ่งก่อตั้งได้ไม่นาน สำนักงานใหญ่ไม่ได้อยู่ในเซี่ยงไฮ้ แต่เป็นปักกิ่ง
แม้อีกฝ่ายจะก่อตั้งในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ยังนับว่าเงินทุนหนา หนึ่งปีที่ผ่านมาในเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งต่างมีการลงทุนจำนวนมาก ฟังจากที่เจียงหยวนเฮ่าพูด คนที่พวกเขาให้การลงทุน ส่วนมากก็เป็นนักศึกษาจากสองมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ชื่อดัง
แทนที่จะพูดว่าลงทุนกับบริษัท ยังไม่สู้พูดว่าลงทุนกับคนมากกว่า
นักศึกษาจากสองมหาวิทยาลัยดัง จบออกไปแล้ว ปกติอนาคตไม่แย่อยู่แล้ว แต่ลงทุนกับฟางผิงที่เป็นนักศึกษาปีหนึ่ง สถานการณ์แบบนี้มีไม่บ่อยนัก แม้ฝีมือของเจียงหยวนเฮ่าจะสู้ฟางผิงไม่ได้ แต่ความรู้กลับเยอะกว่าฟางผิงอยู่บ้าง
ระหว่างการกินข้าวยังเอ่ยถึงสถานการณ์ของมหาวิทยาลัยแต่ละแห่งขึ้นมา
รวมถึงบุคคลอัจฉริยะบางส่วน
“นักศึกษาปีสี่รุ่นนี้จบการศึกษาจากปักกิ่งแล้ว หัวเรือจึงกลายเป็นหลี่หานซงจากปีสาม หลี่หานซงเข้าสู่ขั้นสี่ตอนปลายแล้ว ก่อนจบการศึกษามีหวังจะทะลวงขั้นห้า แต่หลังจากหลี่หานซงแล้ว นักศึกษาปีสองของปักกิ่งกลับไม่มีใครโดดเด่นเป็นพิเศษ ปีหนึ่งกลับยังมีหลายคน หานซวี่ไม่กี่วันก่อนทะลวงขั้นสามแล้ว ตอนนี้เป็นที่ยืนยันแล้วว่าหลอมกระดูกสามครั้ง อยู่ระดับเดียวกับคุณฟาง ส่วนฟางเหวินเสียงเข้าสู่ขั้นสองสูงสุดแล้วเช่นกัน ขั้นสามคงอยู่ไม่ไกล”
“ส่วนทีมพันธมิตรแปดมหาวิทยาลัยก็มีอัจฉริยะเช่นกัน หลายปีนี้เป็นช่วงที่แต่ละมหาวิทยาลัยปล่อยอัจฉริยะออกมา รวมถึงมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ทั่วไปด้วย มีอัจฉริยะอยู่เช่นกัน หวังจินหยางจากหนานเจียงเหมือนจะทะลวงขั้นสี่ตอนปลายแล้ว ส่วนมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ นอกจากคุณฟาง ยังคงมีอัจฉริยะมากมายเหมือนกัน เซี่ยเหล่ยเข้าสู่ขั้นสามสูงสุด ตอนนี้คุณฟางทะลวงขั้นสามตอนปลายแล้วเช่นกัน เพื่อนร่วมชั้นของคุณ จ้าวเหล่ย เฉินอวิ๋นซีพวกนี้อยู่ขั้นสองตอนปลาย ห่างจากคุณแค่ก้าวเดียวเท่านั้น…ในอนาคตอีกไม่กี่ปี ผมคิดว่าแต่ละมหาวิทยาลัยอาจจะมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ขั้นห้าเกรงว่าคงจะพบเห็นกันได้ไม่น้อยเช่นกัน สามารถเดินมาถึงจุดนี้ได้ในช่วงมหาวิทยาลัย ผมรู้สึกนับถือจริงๆ…”
อันที่จริงเจียงหยวนเฮ่าจบจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เช่นกัน แต่น่าเสียดายที่เขาเพิ่งจะทะลวงขั้นหนึ่งสูงสุดหลังจากจบมหาวิทยาลัยแล้ว
ตอนนี้อยู่ขั้นสองสูงสุด ขั้นสามยังมีหวัง แต่เทียบกับนักศึกษาแนวหน้าในมหาวิทยาลัยพวกนั้น ระยะห่างก็ไม่น้อยอีกแล้ว ห่างจากทุกคนเกือบสิบปีเต็มๆ
—
คุยเล่นกันสักพัก กินข้าวเสร็จแล้ว ทั้งสองฝ่ายจึงแยกย้ายกันไป
ฟางผิงไม่กลับไปที่บริษัทอีก แต่ยังคงร้อนใจอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าเงินจะมาถึงมือเมื่อไหร่
เวลาหกโมงเย็น ฟางผิงก็ได้รับข้อความแจ้งเตือน
เงินเข้าบัญชีแล้ว!
“ยี่สิบเจ็ดล้านหกแสน”
นี่คือเงินที่มาถึงมือฟางผิง เห็นว่าเงินสามสิบล้านหายไปส่วนหนึ่ง ฟางผิงจึงนึกได้ว่านี่ถือเป็นการโอนย้ายหุ้นของตัวเอง ต้องเสียค่าภาษี ชั่วขณะนั้นจึงหมดแรงจะเถียงอยู่บ้าง
อัตราการจ่ายภาษีของผู้ฝึกยุทธ์อันที่จริงนับว่าต่ำแล้ว คนทั่วไปขายหุ้นสามสิบล้าน สุดท้ายอย่างน้อยต้องหักค่าภาษีเกือบห้าล้าน
ไม่สนใจเรื่องนี้อีก ฟางผิงรีบตรวจดูค่าทรัพย์สินของตัวเอง
ทรัพย์สิน : 80,500,000
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน