ตอนที่ 253 ใครจะหนีจากความตายได้ (2)
ตอนนี้ทุกคนใช้ปราณเกือบเกลี้ยงแล้ว กลับไปเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อกอบกู้ศพของทุกคน ในถ้ำใต้ดินไม่อยากให้ทำแบบนั้นเท่าไหร่ แม้คุณจะตาย ก็ควรฆ่าพวกถ้ำให้ตายมากที่สุดถึงค่อยไปตายได้
“รอสงครามใหญ่สิ้นสุดแล้ว พวกเราจะไปค้นหาอีกที…”
อาจารย์ที่นำทีมเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ทำลายกองกำลังนี้แล้ว ภารกิจของพวกเราถือว่าสำเร็จผล แต่สินสงครามไม่ได้มากมาย เก็บกวาดไม่ทัน ตอนนี้ทรัพยากรมีอย่างจำกัด อย่างมากหน่วยทหารก็ชดเชยเป็นยาบำรุงให้ทุกคนเท่านั้น…อย่าได้ขุ่นเคืองในเรื่องนี้เลย!”
“ครั้งนี้ภารกิจของพวกเราถือว่าสบายๆ ในความเป็นจริงหน่วยทหารดูแลพวกเราอยู่ตลอดเช่นกัน! เพราะหลายคนคิดว่านักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้คือบุคคลที่พิเศษ มีหวังจะได้เป็นปรมาจารย์! ดังนั้นผู้ฝึกยุทธ์ทหารจึงกินใช้อย่างประหยัด ใช้ความเสียสละและทุ่มเทของพวกเขา มอบทรัพยากรจำนวนมากให้พวกเราแทน! ทุกปีผู้ฝึกยุทธ์ทหารตายในสงครามเยอะกว่ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ถึงสิบเท่า! ทหารทั่วไปมากกว่านี้อีก! ดังนั้นแม้หน่วยทหารจะไม่ให้อะไรเลย ก็ไม่ควรแสดงความขุ่นเคือง ตายในการต่อสู้ของถ้ำใต้ดินเป็นความรับผิดชอบของพวกเรา! ส่วนการรักษาอาการบาดเจ็บหรือสูญเสียปราณ กลับไปมหาวิทยาลัยจะส่งยาบำรุงเข้ามา ให้ทุกคนไปเอาเอง!”
ทุกคนพากันพยักหน้า ฟางผิงกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่บ้าง ลูบกระเป๋าที่ตุงของตัวเอง คนอื่นๆ มัวยุ่งกับการต่อสู้ ไม่มีเวลาไปเก็บสินสงคราม
เขากลับได้มาไม่น้อย…
ราวกับเห็นการเคลื่อนไหวของฟางผิง อาจารย์นำทีมเอ่ยขึ้นอย่างเรียบนิ่ง “เธออย่าเพิ่งไป ในการต่อสู้ สินสงครามเป็นของเธออยู่แล้ว แต่ว่าไม่อนุญาตให้แย่งสินสงครามของคนอื่นไป อย่าลืมแบ่งสินสงครามพวกนั้นให้กับเพื่อนๆ ส่วนหนึ่งด้วย”
ก่อนจะออกมา ฟางผิงคลำสินสงครามได้จากเจ็ดแปดศพ ในนั้นยังมีผู้ฝึกยุทธ์ที่คนอื่นเป็นคนฆ่า
แม้คนอื่นจะไม่มีเวลาเก็บไป แต่ในเมื่อฟางผิงเอามา ก็ควรแบ่งส่วนหนึ่งให้พวกเขาเช่นกัน
ฟางผิงได้ยินแบบนั้นจึงควักเอาของบางส่วนจากกระเป๋าออกมาทันที ส่งให้คนอื่นๆ
มีคนส่ายหัวว่า “ไม่เป็นไร นายเก็บไว้เถอะ ถ้าไม่ใช่นาย ครั้งนี้พวกเราอาจตายไปเกือบครึ่งแล้ว”
“อย่าเลย ทุกคนรับไว้เถอะ รักษาบาดแผลสักหน่อย อันที่จริงก็ไม่มีของมากมายอะไร มีแต่พวกยาจก”
พวกเขาพากันหัวเราะ ต่างเก็บสินสงครามที่ตัวเองควรได้กลับไป
“เอาล่ะ กลับเมืองกัน!”
อาจารย์นำทีมตะโกนเสียงดัง ทุกคนทยอยลุกขึ้น มุ่งหน้าไปสู่เมืองความหวัง
—
ตอนที่มาถึงเมืองความหวัง ฟ้าก็สว่างพอดี
นอกเมืองมีผู้ฝึกยุทธ์หลายคนกำลังกลับเข้ามาเช่นกัน
บางคนแบกคนเจ็บ บางคนอุ้มร่างไร้วิญญาณ มีแต่ความเงียบสงัด
อาจารย์นำทีมเห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจว่า “ครั้งนี้สองเมืองร่วมมือกัน พวกเราจำเป็นต้องบุกโจมตีผู้ฝึกยุทธ์บางส่วนอย่างกะทันหัน ทำลายขวัญกำลังใจของพวกเขา บั่นทอนกำลังของพวกเขาลง! แม้ว่าต้องสละชีวิตไปบ้าง ก็จำเป็นต้องต่อสู้อยู่ดี!”
ฟางผิงเอ่ยอย่างหดหู่ “ทำได้แค่ให้ผู้ฝึกยุทธ์ต่อสู้ซึ่งๆ หน้าเหรอครับ? หลายปีมานี้หน่วยทหารไม่มีการคิดค้นอาวุธทำลายล้างที่มากกว่านี้เลยหรือไง?”
“มี น่าเสียดายที่ขาดแคลนหินพลังงาน” อาจารย์นำทีมตอบกลับ “ใช้หินพลังงานเป็นอาวุธฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ ต้องใช้ค่าตอบแทนที่มากกว่า ตอนนี้อาวุธพลังงานล้าหลังเกินไป ฆ่าขั้นสามหนึ่งคน อาจต้องสิ้นเปลืองหินพลังงานฝึกวิชาถึงสิบกรัม! แต่หินพลังงานฝึกวิชาต้องอาศัยผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามจำนวนมากไปฆ่าพวกถ้ำเพื่อได้มาเช่นกัน พวกเธอลองคิดดู หน่วยทหารจะกล้าใช้หรือเปล่า? ยังไม่สู้ผลิตยาบำรุงและอาวุธให้มากยิ่งขึ้น ให้ทุกคนได้ฝึกวิชา จากขั้นสามขึ้นไปอยู่ขั้นสี่ จะฆ่าขั้นสามก็ง่ายขึ้นแล้ว”
สรุปแล้ว ไม่คุ้มค่าพอที่จะทำแบบนั้น
หินพลังงานหายากเกินไป
ฟางผิงถอนหายใจ ไม่พูดอะไรอีก
อยู่ที่นี่ต้องทำความคุ้นชินกับความตาย
หลู่เฟิ่งโหรวเคยบอกพวกเขาตั้งนานแล้ว การตายของผู้ฝึกยุทธ์ อย่าได้หลั่งน้ำตา อย่าได้เสียใจ หากมีฝีมือก็ไปฆ่าผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำพวกนั้นล้างแค้นให้พวกเขา ไม่มีฝีมือ งั้นทำได้แค่อดทนข่มกลั้นไว้
—
กลับมาที่ห้องประชุมอีกครั้ง
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน