ตอนที่ 267 ถุ้ย พวกยาจก (2)
การจัดอันดับมีการเปลี่ยนแปลงใหม่อีกครั้ง!
ฉินเฟิ่งชิงทะลวงสู่ขั้นสี่ทำให้หายไปจากการจัดอันดับขั้นสาม
ฟางผิงเอาชนะเจี้ยเซ่อได้จึงแทนที่ในอันดับหกซึ่งเป็นตำแหน่งเดิมของเขา
ช่วงเวลาสั้นๆ แค่ครึ่งเดือน ฟางผิงฝ่าจากอันดับเก้าขึ้นไปอยู่อันดับหก
การจัดอันดับฉบับนี้ไม่มีการประกาศผลการรบอีก มีข่าวลือภายในว่าไม่สะดวกที่จะเปิดเผยต่อสาธารณะ
แต่การจัดอันดับฉบับนี้ยังคงก่อให้เกิดคลื่นกระเพื่อมเป็นวงกว้าง!
—
“เกิดอะไรขึ้นกับวัดว่านซาน? ไม่ได้เป็นวัดหรอกเหรอไง? มีผู้ฝึกยุทธ์ด้วย?”
“สำนักเจินอู่ก็เหมือนกัน นี่…ถือว่าเป็นพรรคนิกายงั้นสินะ?”
“หน่วยทหารก็บ่มเพาะผู้ฝึกยุทธ์? ฉันคิดมาตลอดว่ามีแต่ทหารธรรมดา ผู้ฝึกยุทธ์ทหารจะแข็งแกร่งถึงขนาดไหนกัน!”
“โง่หรือเปล่า หน่วยทหารไม่มีผู้ฝึกยุทธ์จะควบคุมผู้ฝึกยุทธ์พวกนี้ได้ยังไง? จะก่อกบฏกันเอาน่ะสิ?”
“ภิกษุที่ประมือกับฟางผิงคนนั้น ที่แท้ก็คือภิกษุเจี้ยเซ่อ นึกไม่ถึงว่าประเทศจีนจะมีพวกสำนักนิกาย เปิดโลกจริงๆ!”
“…”
หลายคนต่างตกตะลึงพรึงเพริด
มีชีวิตโตมาขนาดนี้ยังเป็นครั้งแรกที่รู้ว่าประเทศจีนมีสำนักนิกาย
มีชีวิตโตมาขนาดนี้เพิ่งจะรู้ว่านอกจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ยังมีอีกหลายสถานที่เป็นแหล่งบ่มเพาะผู้ฝึกยุทธ์
ในขณะเดียวกันยังเป็นครั้งแรกที่หลายคนเพิ่งรู้ว่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามแข็งแกร่งขนาดนี้ ฟางผิงและเจี้ยเซ่อแข็งแกร่งหรือเปล่า?
ในความคิดของพวกเขา แข็งแกร่งมากจริงๆ!
ผลการรบก่อนหน้านี้ของฟางผิงคือสังหารผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสี่ตอนกลาง หนีตายจากขั้นหกได้ ตอนนี้ล่ะ?
ตอนนี้ถูกจัดอยู่ในอันดับหก!
สรุปแล้ว เขาแข็งแกร่งขนาดนี้ยังมีคนอยู่ข้างหน้าเขาอีกตั้งห้าคน
ขั้นสามแข็งแกร่งขนาดนี้ แล้วขั้นสี่ขั้นห้าล่ะ? ปรมาจารย์อีก?
ก่อนหน้านี้ทุกคนคิดว่าปรมาจารย์เทียบเท่ากับจรวดอาร์พีจีเคลื่อนที่แล้ว ตอนนี้ยังต้องจินตนาการเป็นอะไรอีก?
วิดีโอการประมือของฟางผิงและเจี้ยเซ่อที่อยู่ขั้นสามถูกเผยแพร่ออกมา ทุกคนต่างไม่กล้าคิดว่าหากปรมาจารย์แข็งแกร่งแค่นั้น แล้วจำเป็นต้องแบ่งแยกขั้นสี่ขั้นห้าขั้นหกไปทำไมอีก
—
“ฟางผิงเดินทางขึ้นเหนือท้าประลองยอดฝีมือที่อยู่ในการจัดอันดับ ดูท่าคงอยากจะขึ้นเป็นที่หนึ่ง!”
ในวิดีโอที่ถูกเผยแพร่ออกมา หลิวต้าลี่เอ่ยด้วยสีหน้าเบิกบานใจ “ผมจะติดตามความคืบหน้าต่อ จากการเดินทาง ด่านต่อไปของฟางผิงน่าจะเป็นมณฑลเป่ยเหอที่ตั้งของซีว่างกรุ๊ป ผู้จัดการอวี๋ของซีว่างกรุ๊ปเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพียงคนเดียวที่มาจากแวดวงธุรกิจซึ่งอยู่ในสิบอันดับแรกของการจัดอันดับขั้นสาม ยอดฝีมือที่มาจากหน่วยทหาร สำนักและมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ต่างไม่น่าแปลกใจ อวี๋เฉินจากซีว่างกรุ๊ปไม่ได้จบจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ทั้งไม่ได้มาจากหน่วยทหารหรือสำนักเหมือนกัน อายุไม่ได้เยอะมาก เพิ่งจะสามสิบเท่านั้น แต่ไหนแต่ไรทุกคนก็ไม่อาจประเมินพลังต่อสู้ที่แน่ชัดของผู้ฝึกยุทธ์ในแวดวงธุรกิจออกมาได้ ครั้งนี้บางทีพวกเราอาจจะสามารถเห็นพลังต่อสู้ที่แท้จริงของผู้ฝึกยุทธ์แวดวงธุรกิจแล้ว!”
“บางทีหลังจากนี้อาจจะเห็นการประลองระหว่างเซี่ยงไฮ้และปักกิ่ง ทั้งนักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้และผู้ฝึกยุทธ์หน่วยทหารได้เช่นกัน…ตั้งตารอได้เลย! แต่เพื่อสมทบทุนค่าเดินทาง หวังว่าทุกคนจะตามไปดูวิดีโอที่ผมเผยแพร่ลงในอินเทอร์เน็ตก่อนหน้านี้ด้วย การต่อสู้ของปรมาจารย์ขั้นแปดในตอนแรก ผมเป็นคนเสี่ยงชีวิตไปถ่ายเหมือนกัน แต่ทุกคนไม่ต้องขออนุญาตอีกแล้ว เพื่อให้สิทธิประโยชน์กับทุกคน ผมจะมอบสิทธิ์ให้ทุกคนชมฟรีบนอินเทอร์เน็ต…น่าเสียดาย ก่อนหน้านี้ไม่สามารถเข้าไปชมการต่อสู้ของปรมาจารย์ขั้นแปดใกล้ๆ ได้ แต่ทุกคนวางใจ ขอแค่มีการต่อสู้ของปรมาจารย์อีก ผมหลิวต้าลี่คนนี้จะเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเข้าไปถ่ายแน่!”
แค่พูดไปอย่างนั้น!
ก่อนหน้านี้ไม่รู้เรื่องจึงไม่รู้สึกกลัวอะไร
รอจนเห็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามสูงสุดต่อสู้กันจนสถานที่กลายเป็นแบบนั้น หลิวต้าลี่ก็ตกใจจนฉี่แตกไปตั้งนานแล้ว
นึกไม่ถึงว่าก่อนหน้านี้ฉันจะรอดชีวิตมาได้?
คนนอกไม่รู้ถึงความแตกต่างของปรมาจารย์และขั้นสามอยู่แล้ว เขาจะยังไม่รู้ได้ยังไง?
แต่เขาไม่เคยเห็นปรมาจารย์ลงมือมาก่อนจริงๆ ครั้งก่อนแค่ได้ยินคนพูด เขาถึงเกิดความสงสัย ตามไปถ่ายวิดีโอ
ผลปรากฏว่า…เหมือนจะรับมือไหว
ตอนนี้หลิวต้าลี่รู้แล้วว่าเพิ่งจะเก็บชีวิตของตัวเองคืนมาได้!
ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสามตอนกลางคนหนึ่ง หลิวต้าลี่มาจากคลาสฝึกศิลปะการต่อสู้ ทั้งยังเป็นคลาสฝึกที่พิลึกพิลั่น ใช้เวลาสิบปีถึงกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสาม นับว่าเป็นเรื่องที่ยากยิ่งเช่นกัน


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน