ตอนที่ 329 ไม่กลัวปัญหา (2)
เฉินอวิ๋นซีเอ่ยเสียงเบาว่า “ปีสี่ใกล้จะจบการศึกษาแล้ว ตอนนี้นักศึกษาบางคนไม่อยู่ในมหาวิทยาลัย…”
“ยุ่งกับการหาเงิน?”
ฟางผิงเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “จัดลำดับความสำคัญไม่เป็น ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งเข้าสู่อุตสาหกรรมจะหาเงินได้เยอะเท่าไหร่กัน? ช่างเถอะ นักศึกษาปีสี่รุ่นนี้ไร้ประโยชน์กันทั้งนั้น ไม่ต้องสนใจพวกเขา…”
ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยอย่างหมดคำพูด “เฮ้ อย่ามาชี้ต้นหม่อนด่าต้นไหวนะ ฉันก็อยู่ปีสี่เหมือนกัน”
“ถึงบอกว่าพวกนายไร้ประโยชน์ไง แม้รุ่นพี่บางคนของฉันจะอยู่ปีสี่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความคิดนี้ของฉันได้เหมือนกัน!”
ฟางผิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่ดีเท่าไหร่ “ปีสี่เข้ามหาวิทยาลัยมาสี่ปีแล้ว ตอนที่เข้ามหาวิทยาลัยปีนั้นก็ใกล้ทะลวงขั้นหนึ่ง ตอนนี้ผ่านไปสี่ปี ฝึกวิชาในช่วงที่รุ่งโรจน์ก็ยังคงอยู่ขั้นหนึ่ง นายลองพูดมาสิ นี่ยังไม่ไร้ประโยชน์ยังไงอีก? พอดีเลย ช่วงนี้นักศึกษาใหม่จำนวนมากกำลังทะลวงด่าน ทรัพยากรของมหาวิทยาลัยมีอย่างจำกัด ฉันไม่อาจเลี้ยงดูพวกไร้ประโยชน์ตลอดไปได้ ก่อนหน้านี้เพิ่มทรัพยากรตามมาตราส่วนของนักศึกษาใหม่ที่เข้าเรียน ตอนนี้นักศึกษาจำนวนมากทะลวงด่าน ขาดแคลนทรัพยากร งั้นก็ลดหลั่นการจัดสรรของปีสี่ที่อยู่ขั้นหนึ่งไป…”
หลิวเมิ่งเหยาที่อยู่ด้านข้างอดพูดขึ้นมาไม่ได้ “รุ่นน้องฟาง นี่จะล่วงเกินคนจำนวนมาก…”
“ผมเป็นประธานสมาคม ไม่สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ล่วงเกินแล้วมันยังไง?”
ฟางผิงยิ้มอย่างเยือกเย็น “มีความสามารถก็พัฒนาให้เห็นสิ หลายปีหลังจากนี้ค่อยมาด่าต่อหน้า ตอนนั้นนายตาต่ำดูถูกคนอื่น ตอนนี้ฉันใช้ชีวิตได้ดีกว่านายด้วยซ้ำ! ไม่มีความสามารถนั้น ฉันจะกลัวล่วงเกินพวกเขาไปทำไม? ตามที่ฉันพูดนั่นแหละ ลดการจัดสรรทรัพยากรของปีสี่เพิ่มให้กับนักศึกษาใหม่ นักศึกษาใหม่รุ่นนี้ทำได้ไม่เลวเลย การแข่งขันขั้นหนึ่งในยี่สิบอันดับแรกมีนักศึกษาใหม่สามคน ปีสูงหนึ่งคน ขายหน้าหรือเปล่าล่ะ? พวกเขามีหน้าอะไรมาร้องขอให้ฉันมอบทรัพยากรให้? ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหนึ่งขั้นสองคุ้นชินแต่การรับ ไม่เคยตระหนักถึงการจ่ายออกไป คิดว่ามหาวิทยาลัยจัดสรรให้เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว เอาความมั่นใจมาจากไหนกัน!”
“ตอนแรกที่พวกเราอยู่ขั้นหนึ่งขั้นสอง แม้ว่าพวกเราจะคว้าอะไรมาได้เยอะ แต่ก็จ่ายค่าตอบแทนออกไปไม่น้อยเหมือนกัน เริ่มทำภารกิจตั้งแต่ขั้นหนึ่ง เริ่มลงถ้ำใต้ดินตั้งแต่ขั้นสอง ได้รับบาดเจ็บจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ฉันเข้าร่วมสงครามไม่เยอะ แต่บาดเจ็บไม่ใช่ครั้งสองครั้งเช่นกัน ใครไม่มีบาดแผลติดตัวบ้าง? ตอนนี้กลับแล้วใหญ่ นักศึกษาปีสี่จำนวนมากยังด้อยประสบการณ์เหมือนพวกไก่อ่อน มองตัวเองเป็นข้าราชการกินเงินเดือนไปวันๆ หรือไง?”
ฉินเฟิ่งชิงเผลอมองตัวเองโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะถอนหายใจ ฉันไม่ไร้ประสบการณ์ทั้งไม่อ่อนด้วย นอกจากหล่อหน่อยแล้วก็แทบไม่มีอะไรเหมือนที่ฟางผิงพูดเลย
หลิวเมิ่งเหยาจนใจ ทำได้แค่พูดว่า “งั้นกลับไปประชุมที่สมาคม ปรึกษากันสักหน่อย…”
“ไม่จำเป็น!”
หลิวเมิ่งเหยาอยากพูดอะไรสักอย่างแต่ก็หยุดไป สาเหตุที่ประชุมเพราะอยากจะแบ่งเบาความกดดันจากฟางผิง ให้คนภายนอกรู้ว่าเป็นความเห็นร่วมกันของทุกคน ไม่ใช่แค่ของฟางผิงเพียงคนเดียว
แต่ตอนนี้ฟางผิงปฏิเสธ เห็นได้ชัดว่าไม่ใส่ใจเรื่องนี้
มีฟางผิงแบกรับอยู่ด้านหน้า คนอื่นๆ ของสมาคมกลับไม่จำเป็นต้องรับแรงกดดันเกินไป
ฉินเฟิ่งชิงไม่สนใจเรื่องนี้ เพียงแค่เอ่ยเตือนว่า “ตอนนี้นายแข็งแกร่ง ถึงทุกคนจะโมโหก็ไม่กล้าพูดอะไร แต่ถ้านายแพ้ในการแข่งขันแลกเปลี่ยน นายน่าจะรู้ว่าปัญหาของนายคงไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อีกแล้ว”
แข็งแกร่ง นั่นก็ต้องแข็งแกร่งให้ถึงที่สุด
แข็งแกร่งข้างใน อ่อนแอข้างนอก แพ้ในการแข่งขันแลกเปลี่ยน ฟางผิงที่เป็นประธานสมาคม เกรงว่าต้องเจอกับคำครหาและแรงกดดันไม่น้อย
“ก็แค่ชนะ ชนะจนพวกเขาไม่สามารถพูดอะไรได้!”
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน