ตอนที่ 367 ย่านตลาดของถ้ำใต้ดิน (1)
ฟางผิงเดินตามไปยังทิศทางที่พลังงานหนาแน่นสูง เขาไม่รู้ว่าเมืองที่อยู่ใกล้กับปากทางเข้าถ้ำมากที่สุดคือเมืองไหน ต้องไปทิศทางใด?
สรุปแล้วเดินตรงไปเรื่อยๆ เป็นตัวเลือกที่ถูกแล้ว
ตอนที่เมืองขนาดใหญ่แห่งหนึ่งปรากฏอยู่เบื้องหน้าฟางผิง ฟางผิงยังคงตกตะลึงอยู่บ้าง
งดงามตระการตาจริงๆ!
ช่วงเวลาสั้นๆ ฟางผิงแทบไม่รู้ว่าควรจะบรรยายยังไงดี เขาไปเมืองความหวังหลายครั้งแล้ว แต่เมืองความหวังคับแคบอยู่บ้าง ทั้งยังเป็นหมู่บ้านทหารที่เตรียมพร้อมสำหรับทำสงครามโดยเฉพาะ
เมืองของถ้ำใต้ดินกลับไม่เหมือนกัน เมืองแห่งหนึ่งในนี้แทบจะเป็นอาณาจักรๆ หนึ่งได้
รอบนอกสุดนั้นเป็นกำแพงสูงใหญ่ที่เชื่อมต่อกันอย่างไร้ที่สิ้นสุด
ฟางผิงถึงกระทั่งมองไม่เห็นปลายสุดของกำแพงว่าอยู่ตรงไหน!
ภายในเมืองนั้นสามารถเห็นสิ่งก่อสร้างบางส่วนอย่างเลือนราง สูงใหญ่เกือบเสียดฟ้า ไม่ได้เป็นห้องหับเตี้ยๆ เหมือนในจินตนาการของเขา
ในถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้ อันที่จริงฟางผิงไม่เคยเข้าใกล้เมืองถ้ำใต้ดินมาก่อน
เข้าใกล้มากที่สุดน่าจะเป็นในป่าราชันเจี่ยว แต่เพราะป่าราชันเจี่ยวต้นไม้ค่อนข้างหนาแน่น เขาจึงแทบไม่เห็นอะไร
แต่ครั้งนี้เขามองเห็นแล้ว!
นอกจากจะเห็นเมือง ยังมองเห็นหมู่บ้านและย่านค้าขาย
รอบนอกเมืองขนาดใหญ่ตั้งหมู่บ้านเล็กๆ ขึ้นบางส่วน เวลานี้สายตาฟางผิงมองเห็นเกือบทั้งหมด ด้านหน้าไม่ถึงหนึ่งพันเมตรก็มีหมู่บ้านเล็กๆ อยู่ บางทีอาจนับว่าเป็นย่านตลาด
ในย่านตลาดมีคนสัญจรไปมา นับว่าคึกคักไม่น้อย
ทั้งสถานการณ์แบบนี้คงไม่อาจเห็นได้ในถ้ำใต้ดินเซี่ยงไฮ้หรือถ้ำใต้ดินอื่นๆ
สงครามนอกจากจะสร้างความสูญเสียให้มนุษย์แล้ว พวกถ้ำก็ไม่ต่างกัน
เพราะสงคราม ในถ้ำใต้ดินอื่นๆ หมู่บ้านที่ใกล้เมืองพวกนี้จึงสูญหายไปกับการเผชิญสงครามและการไล่ล่าตั้งนานแล้ว
ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำจู่โจมฐานทัพมนุษย์ มนุษย์ก็ลอบโจมตีพวกเขาเช่นกัน
การป้องกันของเมืองแข็งแกร่งเกินไป หมู่บ้านที่อยู่รอบนอกพวกนี้จึงกลายเป็นสถานที่สำคัญในการไล่ล่าแทน
สงครามมักจะทำร้ายคนธรรมดาอยู่ร่ำไป
ไม่ว่าจะถูกหรือผิด!
มนุษย์ล่ามนุษย์ถ้ำ เผาหมู่บ้านปล้นเมืองไม่ใช่แค่ครั้งสองครั้ง ปรมาจารย์บางคนก็ถูกพวกถ้ำเรียกว่าเพชฌฆาตด้วยเช่นกัน
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนผิด
สงครามของเผ่าพันธุ์ก็โหดร้ายแบบนี้แหละ
เห็นกันเป็นศัตรู มองตัวเองเป็นวีรบุรุษ!
ฟางผิงไม่มีคุณสมบัติจะยืนอยู่บนศีลธรรมอันสูงสุด ไปบอกว่าผู้ฝึกยุทธ์มนุษย์เป็นคนผิด ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำบุกขึ้นไปบนพื้นโลกก็คงจะล้างบางมนุษย์เช่นกัน
ดังนั้นยอดฝีมือมนุษย์จึงไม่สนใจความเป็นความตาย ทั้งไม่อาจวางสนามรบไว้บนพื้นโลกด้วยเช่นกัน
ขอแค่มนุษย์ไม่เป็นฝ่ายเข้าสู่ถ้ำใต้ดินก่อน ครั้งนี้คงไม่ต้องเสียยอดฝีมือไปมากขนาดนี้ อันที่จริงการเสียสละของยอดฝีมือพวกนี้ล้วนสามารถหลีกเลี่ยงได้
รอทางเดินถ้ำใต้ดินเปิดออกอย่างสมบูรณ์ ผู้ฝึกยุทธ์ถ้ำบุกออกมา บางทีมนุษยชาติอาจจะจ่ายค่าแลกเปลี่ยนในการทำลายล้างพวกเขาน้อยกว่านี้ก็ได้
แต่บางครั้งสาเหตุที่มนุษย์เป็นมนุษย์ก็เพราะว่าบางสิ่งที่พวกเขาคิด ไม่ได้มาจากผลประโยชน์ทั้งหมด
หากยอดฝีมือถ้ำใต้ดินบุกออกมา แม้จะถูกกวาดล้างราบคาบ แต่การปะทะกันของยอดฝีมือ หากไม่ระวังอาจจะพังพินาศไปทั้งเมือง
ใครก็ไม่อาจยอมรับค่าแลกเปลี่ยนเช่นนี้ได้!
คนธรรมดาในถ้ำใต้ดิน บางทีอาจดูไม่สลักสำคัญ แต่คนพวกนี้ถึงจะเป็นรากฐานสำคัญของอารยะธรรมอย่างแท้จริง
พวกยอดฝีมืออย่างจางติ้งหนานบุกรุดอย่างไม่มีความลังเล รู้ทั้งรู้ว่าอันตรายรออยู่ตรงหน้า รู้ทั้งรู้ว่ายอดฝีมือถ้ำใต้ดินอาจไม่บุกออกมาทำลายหนานเจียงเสมอไป แต่พวกเขายังคงไม่สนใจความเป็นความตาย เลือกเข้ามาในถ้ำใต้ดินตอนที่ทางเดินเพิ่งจะเสถียร
แม้จะมีความเป็นไปได้แค่น้อยนิด จางติ้งหนานก็ไม่อยากให้บ้านเกิดอย่างหนานเจียงกลายเป็นสนามรบได้
เขามีความรักใคร่ต่อบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองอย่างลึกซึ้ง
หากเป็นฟางผิงอาจไม่ทำแบบนี้เสมอไป
บางทีเขาอาจจะเลือกวิธีที่คุ้มค่ากว่านี้ แม้จะต้องให้ประชาชนใกล้ๆ เมืองรุ่ยอันอพยพไป ก็ดีกว่าสูญเสียปรมาจารย์ไปหนึ่งคน ฟางผิงคิดว่าแบบนี้จะคุ้มค่ากว่า
ไม่ได้มีแค่ฟางผิงที่คิดแบบนี้คนเดียว
แต่สุดท้ายการวางสนามรบไว้ในถ้ำใต้ดินกลับกลายเป็นนโยบายของประเทศจีน จะจอมปลอมก็ดี มองในระยะสั้นก็ช่าง การเสียสละของยอดฝีมือแลกมากับความไร้กังวลของผู้อ่อนแอได้กลายเป็นเป้าหมายที่ผู้ฝึกยุทธ์ทุกรุ่นเฝ้าไขว่คว้าแล้ว
จุดจบของโลก สภาพแวดล้อมที่โหดร้าย อาจไม่สามารถแลกยอดฝีมือที่มากขึ้นได้เสมอไป

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน