ตอนที่ 374 พนันกันสักตั้ง (2)
ฟางผิงไม่กล้าใช้น้ำแร่พลังงานรักษาตอนนี้เช่นกัน ฟื้นฟูขึ้นมาเล็กน้อยแล้ว ฟางผิงก็ปวดหัวขึ้นมาอีกครั้ง จะทำยังไงกับตาเฒ่าหลี่ดี?
ตอนนี้อันที่จริงหากเขาอยากจะหนีไปจริงๆ มุ่งหน้าตามทางเดินไปตลอดน่าจะออกจากเขตของเมืองราชาได้แล้ว
แต่เขาออกไป ตาเฒ่าหลี่คงจะตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ตอนนี้เมืองราชาปิดเมืองแล้ว ยังกำลังตามจับกุมเขาอยู่ น่าจะไม่มีใครสนใจคนอื่น แต่ถ้าหาตัวเขาไม่เจอ คงจะตามหาตาเฒ่าหลี่เจอในเร็วๆ นี้
“รู้แบบนี้เอาไว้นอกเมืองยังจะดีกว่า ถูกสัตว์ประหลาดกินก็ดีกว่าอยู่ในเมืองเป็นไหนๆ”
“ยังต้องวนกลับไปอีกครั้ง!”
ฟางผิงหันไปมองข้างบน โรงเตี๊ยมอยู่ไหนกันล่ะเนี่ย?
หากสามารถทะลวงไปถึงโรงเตี๊ยมได้เลย นั่นยังพูดง่าย หนีลงท่อระบายน้ำใต้ดินได้ทันท่วงที บางทีอาจจะหนีพ้น
แต่ตอนนี้วิ่งจนหลงทิศไปแล้ว ใครยังจะจำได้ว่าโรงเตี๊ยมอยู่ตรงไหน
“โรงเตี๊ยมอยู่ทางใต้ พลังงานทางใต้จะเข้มข้นน้อยอยู่บ้าง…ช่างเถอะ ตอนนี้อยู่ใต้ดินคาดเดายาก ทั้งระยะห่างยังไม่ไกลกันมาก”
“โรงเตี๊ยมอยู่นอกเมือง…นอกเมืองมีคนธรรมดาเยอะกว่า น้ำสกปรกก็ต้องผลิตออกมาเยอะกว่า บางทีอาจจะพิจารณาจากจุดนี้ได้”
ฟางผิงเดินตามท่อระบายน้ำไป เริ่มตรวจสอบอย่างระมัดระวัง
ดีที่เมืองชั้นในและชั้นนอกของเมืองราชาไม่ได้อยู่ใจกลางเมือง เมืองชั้นในไม่ใช่จุดศูนย์กลางเมือง ไม่งั้นคงหายากแล้ว
เมืองชั้นในของเมืองราชาเป็นเมืองทางเหนือ ทิศทางอื่นๆ ถึงจะเป็นเมืองชั้นนอก
ท่อระบายน้ำใต้ดิน ไม่มีเหตุผลที่จะระบายน้ำเข้าไปยังเมืองชั้นใน ต้องระบายออกไปข้างนอก ตามทิศทางการระบายน้ำ น่าจะสามารถแบ่งเป็นเมืองชั้นนอกชั้นในได้
—
สิบนาทีต่อจากนั้น
ฟางผิงก็ค่อยๆ โผล่หัวออกมาจากพื้นดินอย่างระมัดระวัง มีท่อระบายน้ำใต้ดินก็ย่อมมีปากท่อระบายน้ำ ประหยัดแรงในการทะลวงของเขาแล้ว
ตอนนี้เมืองชั้นในไม่ได้ห้ามประชาชนออกไปข้างนอกอีก
เมืองที่มีคนนับล้าน ไม่อนุญาตให้คนออกไปไหนเลย จะทำให้รบกวนถึงการขับเคลื่อนทั้งเมืองได้
หลังจากฟางผิงเข้าไปในทางเดินใต้ดิน แม่ทัพพวกนั้นคิดว่ามีโอกาสน้อยที่จะจับคนได้ ตอนนี้แม้บนท้องฟ้าจะยังมีระดับสูงลาดตระเวนอยู่ แต่ก็ไม่ได้เข้มงวดเท่าก่อนหน้านี้แล้ว
ภายในเมืองมีผู้ฝึกยุทธ์จำนวนมากกำลังค้นหาอยู่ มีโอกาสสูงที่จะเป็นแค่การตบตาเท่านั้น
ตอนนี้ทุกคนในเมืองราชายังไม่ได้ตระหนักไปถึงว่าฟางผิงจะพาคนเข้ามาด้วยกัน ทำเรื่องใหญ่แบบนี้โดยทั่วไปต้องมีพวกพ้อง ทั้งควรจะออกมาก่อความวุ่นวายตอนที่จะจับกุมฟางผิงเมื่อสักครู่
แต่ตอนที่จะจับคน กลับไม่มีการสร้างความวุ่นวาย เป็นไปได้น้อยที่จะมีเพื่อนมาด้วย
ฟางผิงขยับหัวเบาๆ ตอนนี้เมืองชั้นในมีคนเยอะ เสียงฝีเท้าชุลมุนวุ่นวาย เสียงแค่นี้ไม่ดึงดูดความสนใจคนอยู่แล้ว
หันไปมองรอบๆ เหมือนตอนที่เข้าเมืองจะเคยมาทางนี้ แต่ไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่
แต่ไม่นานฟางผิงก็คุ้นแล้ว!
ร้านค้าที่แลกเปลี่ยนหินพลังงานแห่งหนึ่ง!
ก่อนเข้าเมือง ฟางผิงมีภาพจำกับร้านค้าพวกนี้มากที่สุด!
“ที่นี่…โรงเตี๊ยมน่าจะอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณหนึ่งพันห้าร้อยเมตร…”
ฟางผิงนึกภาพขึ้นในใจ มีสิ่งก่อสร้างเป็นสัญลักษณ์ หาสถานที่ก็จะง่ายขึ้นแล้ว
มีภาพในใจคร่าวๆ ฟางผิงจึงมุดตัวลงไปอีกครั้ง ไม่นานก็กลับมาที่ทางเดิน เดินตามท่อระบายน้ำไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ในตอนที่ฟางผิงจากไปไม่นาน รากไม้โปร่งแสงวับวาวนับไม่ถ้วนก็เลื้อยขึ้นไปยังทางเดินที่เขาขึ้นไปเมื่อครู่
เมืองชั้นในนั้น ยอดของต้นหลิวยักษ์มีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย
ตอนนี้น้ำพุแห่งชีวิตถูกปิดผนึกแล้ว
ยอดต้นไม้สั่นไหว ชั่วพริบตาพวกแม่ทัพก็ราวกับได้รับข้อมูล รวมถึงยอดฝีมือขั้นแปดคนนั้นด้วย ไม่นานก็ไปปรากฏตัวในจุดที่ฟางผิงเพิ่งโผล่หัวขึ้นเมื่อสักครู่
“เขามุดขึ้นมา!”
อารยะเฟิงตรวจสอบเล็กน้อย ปากท่อระบายน้ำใต้ดินมีร่องรอยการถูกคนใช้งาน สีหน้าของอารยะเฟิงประกายความดุดัน ไม่นานก็เอ่ยว่า “ทำไมเขาไม่หนีไป?”
ในส่วนลึกของใต้ดิน แม่ทัพพวกนั้นละทิ้งการจับกุมไปแล้ว ทำไมอีกฝ่ายยังไม่หนีล่ะ?
ตามท่อระบายน้ำไปก็ออกไปนอกเมืองได้แล้ว แผ่นดินนั้นกว้างใหญ่ คนที่เก็บงำลมหายใจไว้คนหนึ่งแทบไม่อาจถูกค้นพบตัวได้
ระหว่างที่พูด อารยะเฟิงก็ไม่สนใจว่าท่อระบายน้ำจะสกปรกหรือเปล่า ทะลวงเข้าไปในทางเดินอย่างรวดเร็ว คนอื่นๆ ทยอยตามเข้าไปเช่นกัน
เข้าไปใต้ดินแล้ว อารยะเฟิงก็หันไปมองรอบๆ ขมวดคิ้วว่า “เขาไม่ได้ออกไป หมายความว่าในเมืองยังมีของที่เขาต้องการอยู่…ให้ทหารองครักษ์เทพหลิวเคลื่อนไหวเดี๋ยวนี้ ตรวจสอบอย่างเข้มงวด! ท่านเทพผู้พิทักษ์คืนชีพแล้ว แต่เมืองชั้นนอก พลังงานของเทพผู้พิทักษ์กระจายไปไม่ถึงทางนั้น อาจจะไม่สามารถฆ่าเขาได้เสมอไป จับสังเกตความเคลื่อนไหวให้ดี หากค้นพบการเคลื่อนไหว ฆ่าโดยไม่มีข้อยกเว้น!”
แม้ต้นไม้ปีศาจจะแข็งแกร่ง แต่ลำต้นอยู่ห่างจากที่นี่ อย่างน้อยก็กว่าสิบลี้
ต่อให้รากของมันจะขยายมาถึงที่นี่ แต่ระยะห่างอยู่ไกลจากลำต้นเกินไป บางทีรากอาจจะมีพลังงานอยู่ สังหารผู้อ่อนแอบางคนทำได้อยู่แล้ว แต่ยอดฝีมืออาจไม่ได้เสมอไป
ถึงหัวขโมยจะไม่ได้มีฝีมือระดับแม่ทัพ แต่เห็นความเร็วในการทะลวงถ้ำของเขาแล้วก็ไม่ได้อ่อนแอจนเกินไป อารยะเฟิงคิดว่ามีโอกาสต่ำที่จะถูกสังหาร
พวกแม่ทัพทยอยรับคำสั่ง พากันแยกย้ายออกไป ตั้งใจจับสังเกตความเคลื่อนไหว
—
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน