ตอนที่ 390 ประโยชน์ของฟางผิง (2)
ฟางผิงส่ายหัวว่า “ตัดไม่ขาด ระดับ A ตัดระดับ B ยังพอว่า”
“ก็ตามนั้นแหละ!” ตาเฒ่าหลี่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ดังนั้นเอาอาวุธระดับ B ให้เธอสี่ชิ้น ยังไม่สู้ให้ระดับ A หนึ่งชิ้น…”
ฟางผิงโต้แย้งอีกครั้ง “ผมยอมเอาระดับ B มากกว่า ค่อยเอาไปขายแลกระดับ A มา”
“ไอ้เวร!”
ตาเฒ่าหลี่ด่าออกไป ฉันเปรียบเทียบให้ดู แม่งคิดเรื่องอะไรกัน
ฟางผิงล้อเล่นไปเท่านั้น ยังคงเข้าใจความหมายของตาเฒ่าหลี่ เอ่ยอย่างครุ่นคิด “หมายความว่าหลังจากผ่านการเปลี่ยนแปลง แม้จะดูเหมือนเสียเปรียบ แต่ในความเป็นจริงมีความแข็งแกร่งมากขึ้น อย่างเช่นก่อนหน้านี้ พลังปราณของผมอาจไม่สามารถทะลวงการป้องกันของยอดฝีมือขั้นหกสูงสุดได้เสมอไป แต่หลังจากผ่านการเปลี่ยนแปลงก็สามารถทำได้แล้ว เป็นความหมายนี้หรือเปล่า?”
“ใช่ ทั้งประโยชน์ของพลังฟ้าดินยังไม่ได้มีแค่นี้”
ตาเฒ่าหลี่เอ่ยด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง “ประโยชน์ของพลังฟ้าดินนั้นมีมากมาย ไอ้หนู เคยลองคิดอยากจะเป็นเครื่องยนต์พลังงานให้พวกเราบ้างหรือเปล่า?”
“หา?”
ตาเฒ่าหลี่ยิ้มตาหยี “เครื่องยนต์! เครื่องยนต์กำลังมนุษย์! รู้หรือเปล่าว่าทำไมที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ถึงมีผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกไปห้องแหล่งพลังงานหรือสระปราณน้อย? เพราะพลังงานเข้มข้นต่ำเกินไป! พลังฟ้าดินก็เป็นพลังงานอย่างหนึ่ง ทั้งยังเป็นพลังงานที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนี้ด้วย! แต่ให้ปรมาจารย์เป็นเครื่องยนต์ให้พวกเรา เป็นอุปกรณ์จัดสรรพลังงาน ใครก็ไม่กล้าเอ่ยปากขอ เธอว่าถูกหรือเปล่าล่ะ? ยังไงเธอก็เพิ่งขั้นห้า ทั้งยังฟื้นฟูได้เร็ว ไอ้หนู ลองคิดดูสักหน่อย เธอไปห้องแหล่งพลังงาน เป็นเครื่องจัดสรรพลังงานให้ช่วงนี้ก็มอบสภาพแวดล้อมที่ดีกับการฝึกวิชาให้พวกเราแล้ว…”
ฟางผิงหน้าดำคล้ำจนดูไม่ได้!
ล้อเล่นอะไรกัน!
ตาเฒ่าหลี่เสียสติไปแล้ว!
ผลปรากฏว่ายังไม่ทันเอ่ยปาก อู๋ชวนที่อยู่ด้านข้างก็ลูบคางว่า “ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้าสามารถรวบรวมพลังฟ้าดินได้ มีประโยชน์ไม่น้อยจริงๆ ฟางผิง ตอนนี้องค์กรของรัฐบาลมักจะทำการวิจัยเกี่ยวกับพลังฟ้าดิน แต่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูงทั่วไปต่างมีภารกิจ งานล้นมือ ปลีกตัวออกมาไม่ได้ หลายครั้งที่ทำให้โครงการวิจัยล่าช้า หรือจะเอาแบบนี้ อาจต้องลำบากเธอหน่อย วิ่งเต้นไปองค์กรบางส่วน จัดสรรพลังฟ้าดินในแต่ละแห่งเพื่อใช้ในการวิจัย…”
“ผมก็ไม่มีเวลาเหมือนกัน!”
ฟางผิงเห็นพวกเขากำลังวางแผนกับตัวเองก็ปฏิเสธทันที เอ่ยอย่างระแวดระวังอย่างยิ่ง “อีกอย่างผมทำได้แค่รวบรวมเล็กน้อยเท่านั้น มากกว่านี้ร่างกายคงระเบิดแล้ว”
“องค์กรของรัฐบาลก็ไม่ต้องการเยอะ แต่ละครั้งเธอจัดสรรให้บางส่วนก็เพียงพอแล้ว…”
อู๋ชวนใจคล้อยตามอยู่บ้างจริงๆ ปรมาจารย์ต่างยุ่งทั้งนั้น
ทั้งทุกคนมีภารกิจติดตัว ภาระงานแตกต่างกันไป จะเอาเวลาที่ไหนไปจัดสรรพลังงานให้องค์กรวิจัยของพวกเขากัน
พลังฟ้าดินออกจากร่างของผู้ฝึกยุทธ์ก็ยากจะเก็บรักษา ไม่นานจะสูญสลายไป
ฟางผิงเป็นเครื่องยนต์จัดสรรพลังงานให้ ประโยชน์ไม่ใช่น้อยๆ เลย
ยังไงก็เพิ่งขั้นห้า ถ้ำใต้ดินมีขั้นห้าเพิ่มมาหนึ่งคนหรือขาดไปหนึ่งคนแทบไม่แตกต่างอะไร
แน่นอนว่าขั้นห้าอย่างฟางผิง พิเศษออกไปอยู่บ้าง
แต่พวกหนุ่มสาว คนเก่งย่อมต้องทำงานหนักกว่าคนอื่น อู๋ชวนคิดว่าหลังจากฟางผิงกลับไปบนโลก ถ้าหากมีเวลาว่าง สามารถช่วยวิ่งเต้นแทนได้
ตาเฒ่าหลี่ที่อยู่ด้านข้างเอ่ยปฏิเสธว่า “นั่นไม่ได้ ฟางผิง ฉันว่าเธออยู่ในมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ดีกว่า วางใจเถอะ ไม่ให้เธอเสียเปรียบหรอก อัดยามากขึ้นหน่อย เติมปราณเข้าไป จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นพลังฟ้าดินให้พวกเราฝึกวิชา สภาพแวดล้อมฝึกวิชาแบบนี้ มีส่วนช่วยในการพัฒนาความสามารถของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้…”
ฉินเฟิ่งชิงที่อยู่ด้านข้างเอ่ยทันที “ฝึกวิชาด้วยพลังฟ้าดิน มีประโยชน์มากหรือเปล่าครับ?”
ตาเฒ่าหลี่เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เธอไม่ได้ ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกพอจะลองดูได้ ประโยชน์มากที่สุดยังคงเป็นขั้นหกสูงสุด อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้สามารถใช้พลังฟ้าดินล่วงหน้า มีส่วนช่วยในการหลอมรวมพลังจิตใจและปราณ…”
“งั้นก่อนหน้านี้ทำไมมหาวิทยาลัยพวกเราไม่เห็นใช้เลย?”
ตาเฒ่าหลี่เอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “ไร้สาระ พวกปรมาจารย์ต้องฝึกวิชาเหมือนกัน ยิ่งกว่านั้นยังเป็นปรมาจารย์ เธอกล้าขอให้เขาจัดสรรพลังงานให้หรือไง?”
ฉินเฟิ่งชิงเข้ากับตาเฒ่าหลี่เป็นปี่เป็นขลุ่ย ฟางผิงหน้าดำจนดูไม่ได้
ไอ้พวกเวร!
ฉันไม่เป็นเครื่องยนต์พลังงานหรอก!
ปรมาจารย์ทำได้ ทำไมพวกนายไม่ไปหาปรมาจารย์มาเป็นเครื่องยนต์จัดสรรพลังงานล่ะ!



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน