ตอนที่ 399 ขั้นเก้าสุดยอด (1)
……………………………………………………………………..
วันที่ 27 ธันวาคม หลู่เฟิ่งโหรวหลอมรวมพลังจิตใจและปราณสำเร็จ
ข่าวไม่ได้แพร่งพรายต่อภายนอก
ไม่ถึงขั้นปรมาจารย์ ฟางผิงคิดว่าไม่มีความจำเป็นต้องพูดออกไป รอหลู่เฟิ่งโหรวถึงขั้นเจ็ดแล้วค่อยว่ากันอีกที
แต่หลู่เฟิ่งโหรวที่พลังจิตใจแตะถึงเก้าร้อยเฮิรตซ์และพลังปราณเต็มเปี่ยม เกรงว่าภายในสี่ห้าเดือนก็จะสามารถกลายเป็นยอดฝีมือขั้นเจ็ดอย่างเป็นทางการได้แล้ว
—
วันที่ 28 ธันวาคม
จ้าวเสวี่ยเหมยส่งสัญญามอบหุ้นมาให้หนึ่งฉบับ
“หนึ่งร้อยหุ้น?”
ฟางผิงตกตะลึงเล็กน้อย หมายความว่ายังไง?
น้อยขนาดนี้เลย?
อันที่จริงฟางผิงไม่ได้แปลกใจเรื่องที่หลู่เฟิ่งโหรวให้จ้าวเสวี่ยเหมยส่งสัญญามอบหุ้นมาให้ หลู่เฟิ่งโหรวเป็นคนนิสัยแบบนี้อยู่แล้ว
สิ่งที่ฟางผิงแปลกใจคือเขาคิดมาโดยตลอดว่าหลู่เฟิ่งโหรวน่าจะมีหุ้นส่วนในบริษัทยาไม่น้อย
บริษัทยาบำรุงไม่ได้จดทะเบียนสู่ตลาด อุตสาหกรรมผูกขาดประเภทนี้ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนเช่นกัน
แต่หนึ่งร้อยหุ้น นี่จะน้อยเกินไปแล้ว ไม่สมกับฐานะของพ่อหลู่เฟิ่งโหรวที่เป็นปรมาจารย์เลย
จ้าวเสวี่ยเหมยเผยแววตาซับซ้อน “นายไม่รู้สถานการณ์ของบริษัทยาบำรุงสินะ? ตั้งแต่ที่บริษัทยาบำรุงก่อตั้งในเวลานั้นจนถึงตอนนี้ หลังจากขยายการลงทุนหลายครั้ง ตอนนี้หุ้นรวมทั้งหมดมีแค่สองแสนหุ้นเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงบริษัทยาบำรุง น่าจะมูลค่าเกินสิบล้านล้านไปแล้ว!”
ใช่ สิบล้านล้าน!
เยอะจนน่ากลัวขนาดนี้เลย!
บริษัทยาบำรุงจะหาเงินได้เยอะเกินไปแล้ว ทั้งยังเป็นธุรกิจผูกขาด ทุกปียอดขายแทบจะเป็นตัวเลขที่ประเมินค่าไม่ได้
มูลค่าของแต่ละหุ้น เกรงว่าจะไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้าน!
บริษัทยาบำรุงไม่ได้แบ่งหุ้นออกไปเยอะเท่าไหร่ มูลค่าหุ้นเดี่ยวสูงขนาดนี้ อันที่จริงคนที่ถือหุ้นพวกนั้นก็ไม่มีใครคิดขายเช่นกัน
อันที่จริงยังเป็นเพราะขายยากด้วย ฝีมือแข็งแกร่งแล้ว ไม่ต้องการอะไรขนาดนั้น
ฝีมืออ่อนด้อย ซื้อขายอาจจะไม่ได้รับความยินยอมจากบริษัทยาเสมอไป
หากมอบให้คนอื่นกลับสามารถหลบหลีกปัญหาพวกนี้ได้บ้าง
หนึ่งร้อยหุ้น เกรงว่ามูลค่าจะไม่ต่ำกว่าห้าพันล้าน
ทุกปีตั้งแต่ที่หลู่เฟิ่งโหรวได้เงินปันผลจากบริษัทยาบำรุงแทบไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยล้าน!
นี่เป็นสถานการณ์ที่ต่ำที่สุด หากปีไหนได้เยอะ บางครั้งยังได้เงินปันผลหลายร้อยล้าน
กำไรเยอะอย่างมาก!
ฟางผิงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ “มีมูลค่าขนาดนี้เลย?”
หนึ่งร้อยหุ้น มูลค่าห้าพันล้าน นี่เหล่าหลู่เอาจริง?
ก่อนหน้านี้ที่เขาพูดว่าเทเข้าไปห้าร้อยกรัม ในความเป็นจริงเยอะถึงขนาดนั้นที่ไหน อย่างมากก็สองร้อยกรัมเท่านั้น
นึกมาถึงตรงนี้ จู่ๆ ฟางผิงก็เอ่ยว่า “ใช่สิ รู้ไหมว่ามหาวิทยาลัยของพวกเรามีหุ้นส่วนของบริษัทยาบำรุงเท่าไหร่?”
จ้าวเสวี่ยเหมยส่ายหน้า เธอจะไปรู้เรื่องนี้ได้ยังไงล่ะ
ฟางผิงไม่พูดอีก หยิบมือถือขึ้นมาต่อสายออกไป เอ่ยว่า “อาจารย์จาง มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ของพวกเรามีหุ้นส่วนในบริษัทยาบำรุงเท่าไหร่เหรอครับ?”
“แปดร้อยหุ้น”
“น้อยขนาดนี้เลย?”
ระหว่างที่ฟางผิงพูดก็นึกอะไรได้ คำนวณเล็กน้อย เอ่ยทันที “มูลค่ากว่าสี่หมื่นล้าน ไม่นับว่าน้อยเหมือนกัน”
คิดได้แบบนี้ เวลานั้นพ่อของหลู่เฟิ่งโหรวได้มาถึงหนึ่งร้อยหุ้น ถือว่าไม่น้อยเลยจริงๆ!
มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้อาจจะไม่มีปรมาจารย์ถึงแปดคนเสมอไป แต่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้มีอาจารย์และนักศึกษาเยอะขนาดนี้ ในปีที่ผ่านมาผลผลิตในถ้ำใต้ดินแต่ละปีแทบจะจัดสรรให้บริษัทใหญ่พวกนี้ทั้งหมด นี่ถึงแลกแปดร้อยหุ้นมาได้
กล่าวขอบคุณแล้ว ฟางผิงก็วางสาย
เอ่ยอย่างครุ่นคิดว่า “แต่ละปีที่ผ่านมาบริษัทยาบำรุงจัดสรรยาให้พวกเราจำนวนหนึ่ง ฟังดูเหมือนมีมูลค่าเยอะ ในความเป็นจริงต้นทุนน่าจะไม่ถึงหนึ่งพันล้าน ตอนนี้พวกเราขยายฐานการผลิต มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จัดสรรวัตถุดิบให้อีกฝ่ายน้อยลงเรื่อยๆ หลังจากนี้บริษัทยาบำรุงอาจไม่จัดสรรยาบำรุงให้พวกเราฟรีๆ เสมอไปแล้ว…”
ฟางผิงเดินไปเดินมาอยู่กับที่พักใหญ่ ครุ่นคิดเล็กน้อย “เธอว่าตอนนี้ขายหุ้นส่วนพวกนี้ทั้งหมดจะเป็นยังไง?”
“ขาย?”
จ้าวเสวี่ยเหมยเอ่ยอย่างตกใจ “งั้นหลังจากนี้จะทำยังไง? มหาวิทยาลัยจะเห็นด้วยงั้นเหรอ?”
ขายที่ดินโดยไม่มีความเสียดาย ฟางผิงพูดว่าจะขายก็ขายเลย อย่าลืมว่านี่เป็นรากฐานที่นักศึกษาและอาจารย์จำนวนนับไม่ถ้วนของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ปูเอาไว้
“ขายสักสี่ห้าหมื่นล้านเทียบได้กับปริมาณที่บริษัทยาจัดสรรให้ในอนาคตหลายสิบปี ฉันกังวลว่าถ้าไม่ขายตอนนี้ ในอนาคตอาจจะกำเงินไม่ได้เสมอไป”
พูดจบ ฟางผิงก็ขมวดคิ้วว่า “ไม่แค่บริษัทยาบำรุง บริษัทอาวุธก็ต้องขายเหมือนกัน!”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน