ตอนที่ 402 เทพเซียนไปไหนแล้ว (2)
……………………………………………………………………..
ตอนนี้เนื้อหนังของเขาราวกับโปร่งแสง ตาเฒ่าหลี่ถึงกระทั่งเห็นกระดูกแขนของเขาเป็นสีทอง!
“แขนซ้ายหลอมเป็นทองสำเร็จแล้ว!”
ตาเฒ่าหลี่พึมพำ ก่อนแขนขวาของฟางผิงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน
‘อ๊าก!’
ในเวลานี้ฟางผิงเผยสีหน้าบิดเบี้ยว คำรามออกมา ชกสองหมัดไปที่พื้นอย่างแรง
เปรี้ยง!
เกิดเสียงดังสนั่น พื้นที่ในรัศมีสิบกว่าเมตรพังถล่มลงไปในชั่วพริบตา ฟางผิงร่วงลงไปในหลุมลึกเช่นกัน
เขตทางใต้มีเสียงของยอดฝีมือทะยานอากาศเข้ามาแล้ว
ตาเฒ่าหลี่เห็นแบบนั้นจึงตะโกนว่า “ฉันกำลังฝึกวิชาอยู่ ไม่ต้องเข้ามา!”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ยอดฝีมือที่ลอยบนฟ้าก็ล่าถอยออกไป ไม่เข้ามาอีก
ด้านฟางผิง หลังจากแขนสองข้างถอดเอ็นเปลี่ยนกระดูกแล้ว ขาสองข้างและกระดูกอื่นๆ ต่างเริ่มทำการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ฟางผิงไม่หยุดกระบวนการหลอมแค่นั้น ยังคงกัดฟันหลอมกระดูกใบหน้าอีกสิบห้าชิ้นต่อไป
เวลานี้คล้อยจากที่เขาเริ่มหลอม ฟันของฟางผิงก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน กลายเป็นทองอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าปรากฏแสงสีทองขึ้นมา
ตอนที่หลอมถึงกระดูกแอ่งถุงน้ำตา ฟางผิงก็รู้สึกปวดที่เบ้าตา น้ำตาไหลออกมาทันที
“ตาทิพย์?”
ในหัวของฟางผิงปรากฏความคิดแบบนี้ออกมา กระดูกที่หลอมแม้จะไม่ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับตา แต่เวลานี้รอบดวงตาต่างประกายแสงสีทอง คล้ายกับตาทิพย์อย่างไงอย่างงั้น!
“พระพุทธเจ้าที่ตามองเห็นพันลี้ หูได้ยินตามลม ดวงตาทิพย์ ศีรษะเปล่งแสงสีทอง…นี่ยังเป็นตำนานอย่างนั้นเหรอ?”
เมื่อไม่นานมานี้ฟางผิงยังสงสัยว่าตำนวนพวกนั้นเป็นตำนานจริงๆ หรือเปล่า!
เจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเอง เกรงว่าจะเป็นยอดฝีมือที่หลอมกะโหลกเสร็จสิ้นซะมากกว่า!
ร่างทองขั้นแปด!
“ตกลงคนพวกนี้มีการคงอยู่หรือเปล่า? มีชีวิตอยู่หรือตายแล้ว? หรือว่า…เข้าไปในถ้ำใต้ดินนานแล้ว? เวลานั้นคนรุ่นก่อนของวัดกว่งเซิ่งค้นพบถ้ำใต้ดิน คิดว่าเป็นโลกเซียน คนของวัดกว่งเซิ่งค้นพบถ้ำใต้ดิน แล้วคนพวกนั้นล่ะ?”
“ยอดฝีมือพวกนั้นก็ค้นพบถ้ำใต้ดินเหมือนกัน คิดว่าเป็นโลกเซียนจากนั้นก็เลยไปแสวงหาทางเป็นเซียน?”
“ในประวัติศาสตร์ประเทศจีน เทพเซียนคนสุดท้ายที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วกันคือปรมาจารย์เฉินถวน นั่นเป็นยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง…เป็นเรื่องเมื่อปีคริสต์ศักราชเก้าร้อยแล้ว!”
“ถ้าเหตุการณ์แต่ละปีที่บันทึกในหนังสือถ้ำใต้ดินก่อนหน้านี้เป็นเหมือนที่ฉันคาดเดา เวลาหนึ่งปีก็จะเท่ากับ…ถ้าอย่างนั้น…เทพเซียนหายไปก็มีคำอธิบายแล้วใช่หรือเปล่า?”
เวลานี้ฟางผิงนึกเชื่อมโยงไปถึงหลายเรื่อง
ถ้าเส้นเวลาสอดคล้องกัน ปีคริสต์ศักราชเก้าร้อย ถ้ำใต้ดินเกิดสงครามใหญ่ แดนเทพสูญหาย!
แดนเทพสูญหาย…ตำนานเทพเซียนของประเทศจีน หลังจากราชวงศ์ซ่งไปแทบจะไม่มีบันทึกอีกแล้ว
“หรือว่า…หรือว่าสงครามใหญ่ในเวลานั้นจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสูญหายของเทพเซียนสมัยโบราณของจีน?”
“ไม่ ไม่สิ ถึงจะเป็นเทพเซียนก็ต้องเป็นขั้นปรมาจารย์ จะทำสงครามกับถ้ำใต้ดินได้ยังไง…”
ฟางผิงรู้สึกว่าสมองแทบจะระเบิดแล้ว!
ไม่ใช่เพราะคิดมากเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ แต่ใกล้จะระเบิดแล้วจริงๆ
การหลอมกะโหลกเปลี่ยนแปลงกระดูกทองทำให้เขารับไม่ไหวอยู่บ้าง
สะพานฟ้าดินตอนนี้ออกมาปรากฏนอกร่างกายแล้ว
ข้างบนหัวมีประตูที่ไร้รูปร่างปรากฏอยู่เช่นกัน
ประตูที่ไร้รูปร่างเปิดออก ไม่รู้ว่าเชื่อมต่อกับอะไร บางทีอาจเชื่อมไปยังภายในร่างกายของฟางผิง พลังงานสายหนึ่งแพร่กระจายออกมาจากในประตูที่เปิดออก ฟางผิงที่ไม่สามารถปิดผนึกพลังตัวเองรับรู้ถึงการสูญเสียของพลังปราณ
ไกลๆ นั้นตาเฒ่าหลี่ตะโกนว่า “หยุดเดี๋ยวนี้ ร่างกายของเธอไม่เพียงพอให้เธอกลายสภาพเป็นร่างทองอย่างสมบูรณ์!”
หากเป็นแบบนี้ต่อไป เนื้อหนังของฟางผิงจะปริแตก ถึงเวลานั้นจะหลงเหลือแค่กระดูกทองเท่านั้น!
“เจ้า…เจ้าหลี่หัวเหล็กก็หลอมกะโหลกไม่ใช่หรือไง?”
ระหว่างที่ฟางผิงพูด ช่องปากก็เริ่มปริแตก เลือดที่ราวกับหินเลือดไหลออกมาไม่ขาดสาย
“เขาไม่เหมือนกับเธอ เขาไม่ได้กลายสภาพร่างทอง แค่หลอมเท่านั้น ไม่ได้เปลี่ยนกระดูก!”
ตาเฒ่าหลี่รีบอธิบาย หลี่หานซงไม่เหมือนกับฟางผิง
อันที่จริงกระดูกของหลี่หานซงเป็นกระดูกทองเหมือนกัน แต่หลี่หานซงไม่ได้เปิดใช้แก่นกลาง กระดูกทองของเขาตอนนี้ยังอยู่ในสภาวะสงบนิ่ง
แต่ฟางผิงกำลังเปิดใช้แก่นกลางนี้อยู่ สองอย่างนี้มันคนละเรื่องกัน
“ขาดแค่นิดเดียวเท่านั้น…”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน