ตอนที่ 408 ผมเป็นขั้นหกจริงๆ (2)
……………………………………………………………………..
หวงจิ่งขมวดคิ้วขึ้นทันที
ฟางผิงอดเอ่ยไม่ได้ “ไม่มั้งครับ? หรือจะวางแผนบุกเข้าโลกจากนอกอวกาศจริงๆ? นั่นยังไม่สู้เปิดทางเดินเพิ่มบนพื้นโลก ถ้ำใต้ดินไม่ได้มีเทคโนโลยีล้ำสมัยอะไร หากเปิดทางเดินนอกอวกาศจริงๆ นอกจากระดับสูงแล้ว ระดับกลางและระดับล่างแทบไม่อาจมีชีวิตรอดได้…”
ตาเฒ่าหลี่เอ่ยอย่างลุ่มลึก “บางทีอาจจะวางแผนในจุดที่พวกเราไม่ให้ความสนใจก็ได้ อย่าลืมว่าประสานทั้งนอกและในจะฝ่าการป้องกันของมนุษย์ได้ง่ายกว่า”
ทางเดินถ้ำใต้ดินมียอดฝีมือของมนุษย์จับตามองอยู่ตลอด
แต่หากมียอดฝีมือมาจู่โจมจากนอกอวกาศหรือปะปนเข้ามาอยู่ในโลกมนุษย์โดยตรง อาจจะไม่มีใครค้นพบเสมอไป
ฟางผิงขมวดคิ้วขึ้น เรื่องนี้ไม่อาจป้องกันได้แล้ว
อย่าพูดถึงดาวเทียมในแต่ละประเทศเลย แต่คนๆ หนึ่งในอวกาศ นั่นราวกับเศษฝุ่นเล็กๆ ยากที่จะค้นพบอย่างแท้จริง
โดยเฉพาะยอดฝีมือ เดิมทีก็มีความคล่องตัวสูงอยู่แล้ว ถ้าพอจะเข้าใจเทคโนโลยีของมนุษย์ หลบหลีกก็เป็นเรื่องง่าย
ยอดฝีมือขั้นเจ็ดอาจไม่ได้เคลื่อนไหวสบายๆ ในอวกาศเสมอไป
แต่หากเป็นขั้นเก้า ฟางผิงเชื่อว่ามีการเอาตัวรอดสูงอยู่แล้ว หรือขั้นแปดก็สามารถเคลื่อนไหวตามใจได้เช่นกัน ร่างทองไม่แตกดับ นั่นไม่ใช่เรื่องโกหก
“พวกเราตระหนักได้ พวกยอดฝีมือก็น่าจะตระหนักได้เหมือนกัน” ฟางผิงเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “ยิ่งไปกว่านั้น ผมว่าการปรากฏของทางเดินคงไม่ใช่ที่ไหนก็ได้ หากเป็นแบบนั้นจริงๆ ทางเดินหนึ่งร้อยสี่แห่งปรากฏขึ้นที่ประเทศจีนทั้งหมด หรือเกิดในประเทศเล็กๆ ทั้งหมดคงจะต้านไม่อยู่ไปนานแล้ว ผมว่าการอุบัติของทางเดินอาจจะเกี่ยวข้องกับ…พลังชีวิต”
ฟางผิงคาดเดาอย่างส่งๆ สิ่งที่เรียกว่าพลังชีวิต ฟางผิงหมายถึงพลังงานชีวิตของมนุษย์
มองจากการกระจัดกระจายของถ้ำใต้ดินในปัจจุบันนี้ สถานที่ที่มีคนเยอะจะปรากฏทางเดินขึ้นได้ง่ายกว่า
ตำแหน่งของทางเดินที่เชื่อมต่อทั้งสองโลก บางทีอาจจะใช้การอ้างอิงนี้
การคาดเดานี้มนุษย์มีมานานแล้ว มีความเป็นไปได้สูงเหมือนกัน
หวงจิ่งและตาเฒ่าหลี่ต่างพยักหน้า อาจจะล่ะนะ ตอนนี้กังวลว่าจะปรากฏทางเดินจากนอกอวกาศ ถือเป็นการกังวลเกินกว่าเหตุเหมือนกัน เรื่องนี้คนที่ควรเป็นกังวลคือเบื้องบนและยอดฝีมือระดับขั้นสุดยอดของแต่ละประเทศต่างหาก
ระหว่างที่กำลังพูดคุยกัน ผู้ดูแลสำนักงานอธิการก็เคาะประตูเข้ามา
เห็นทั้งสามคนอยู่พร้อมหน้า ผู้ดูแลก็ทักทายยกใหญ่ ก่อนจะเอ่ยว่า “อธิการ คณบดี ทางกระทรวงการศึกษาส่งเอกสารมา”
“เอกสารอะไร?”
“ขอให้แต่ละมหาวิทยาลัยส่งข้อมูลคร่าวๆ ของผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหก ความก้าวหน้าการฝึกวิชา ผลการรบในถ้ำใต้ดิน สถิติการฆ่าศัตรู…”
ผู้ดูแลพูดอยู่พักหนึ่ง ค่อยเอ่ยต่อว่า “ผมสืบข่าวจากคนของกระทรวงการศึกษามาเล็กน้อย น่าจะเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการจัดอันดับของขั้นหก…แต่ว่ากระทรวงการศึกษาเปิดเผยอย่างลับๆ…อาจจะคิดให้สิทธิพิเศษบ่มเพาะปรมาจารย์ระดับยอดฝีมือออกมากลุ่มหนึ่ง”
พวกฟางผิงเผยสีหน้าตกตะลึง ฟางผิงละล่ำละลักว่า “ให้สิทธิพิเศษบ่มเพาะปรมาจารย์กลุ่มหนึ่ง? นี่หมายความว่ารัฐบาลวางแผนจะลงทุนสนับสนุนยอดฝีมือขั้นหกพวกนี้? ผมว่าแล้วรัฐบาลต้องมีของดีไม่น้อย หินพลังงาน น้ำแร่แห่งชีวิตหรือแม้แต่ผลบางอย่างของพืชปีศาจ รัฐบาลต้องกักเก็บไว้แน่ หากเป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่ได้หมายความว่า…จะสามารถหาผลประโยชน์ได้?”
พูดมาถึงตรงนี้ฟางผิงก็เอ่ยทันที “ส่งรายงานข้อมูลยอดฝีมือขั้นหกทั้งหมดของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ไป ทั้งบอกจุดเด่นไปด้วย หากรัฐบาลจะให้สิทธพิเศษเพื่อบ่มเพาะคนกลุ่มหนึ่ง นั่นคงเป็นจำนวนมหาศาล!”
พูดถึงเรื่องของดี คลังเก็บของของมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เทียบกับของรัฐบาลไม่ได้อยู่แล้ว
ยอดฝีมือพวกนั้นสังหารพืชปีศาจและสัตว์ปีศาจไปเท่าไหร่ ตอนนี้ยังพูดยาก
แต่พูดไม่ได้จริงๆ สงครามถ้ำใต้ดินปักกิ่งในเวลานั้น ทำลายล้างสองเมือง ต้องมีของดีไม่น้อยอยู่แล้ว
อย่างเช่นว่าเมล็ดทานตะวันของพืชปีศาจเมืองเยาขุย รัฐบาลอาจจะไม่ได้มีมากมาย แต่ฟางผิงเดาว่าต้องมีอยู่แล้ว
นี่เป็นสิ่งที่สามารถเพิ่มพลังจิตใจได้!
สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ระดับสูง ยาบำรุงที่เพิ่มปราณ หินพลังงานที่เพิ่มพลังงาน ต่อให้แพงแค่ไหน มากแค่ไหน นั่นยังเทียบไม่ได้กับของที่เพิ่มพลังจิตใจ
นี่ถึงจะเป็นทรัพยากรหายากอย่างแท้จริง ถึงกระทั่งหายากกว่าอาวุธวิเศษด้วยซ้ำ


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน