เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน นิยาย บท 42

ตอนที่ 42 โรงยิม

วันพุธ

พอคาบเช้าจบลง ฟางผิงก็ตรงดิ่งไปที่กวนหูหยวนทันที

ฝ่ายบริการขาย

ฟางผิงจ่ายเงินที่เหลือ รับเอกสารและกุญแจมา ไปตรวจดูห้อง ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้น

ตอนนี้ฟางผิงเหลือเงินฝากและเงินสด เพียงสี่แสนนิดๆ เท่านั้น

คนของฝ่ายบริการขายออกไปแล้ว

ไม่มีคนขัดหูขัดตา ฟางผิงรู้สึกผ่อนคลายไม่น้อย

เขาเดินวนอยู่รอบห้องโล่งกว้างเพียงคนเดียว

นี่เพิ่งจะไม่กี่วัน เขากลับซื้อห้องชุดใหญ่ได้แล้ว

พอลองนึกถึงปฏิกิริยาของฟางหยวนตอนที่รู้ว่าเขาซื้อบ้าน ฟางผิงก็คิดว่าคงจะน่าสนุกไม่น้อย

แต่ฟางผิงยังไม่คิดจะบอกครอบครัว ถึงจะพูดก็คงเป็นตอนที่สอบเกาเข่าเสร็จแล้ว

พอสอบเข้ามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้ ก็คงจะสามารถใช้ข้ออ้างจากหวังจินหยาง ไม่ก็บอกว่า บริษัทใหญ่มอบทุนให้ล่วงหน้าได้

ตอนนี้ถ้าคนในบ้านรู้ ก็รังแต่จะทำให้พ่อแม่เป็นห่วงเท่านั้น

“ซื้อเครื่องออกกำลังกายสักหน่อย พวกของตกแต่งยังไม่ต้องซื้อก็ได้ ซื้อพวกโต๊ะเก้าอี้ของที่จำเป็นพอ ไม่งั้นคงจะไม่มีที่นั่ง จริงสิ ต้องซื้อเตียงสักหลัง บางครั้งอาจต้องค้างที่นี่…”

พอวางแผนแล้วว่าจะซื้ออะไรบ้าง ฟางผิงก็ไม่รอช้า ออกจากห้องไปทันที

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

ฟางผิงก็เดินออกมาจากร้านขายเฟอร์นิเจอร์ที่ใหญ่ที่สุดในเมือง

เขาจองของที่ต้องซื้อพร้อมมัดจำไว้เรียบร้อย สองวันให้หลังจะส่งมาถึงห้อง

เขาซื้อพวกโซฟาโต๊ะเก้าอี้ที่คุณภาพไม่ได้ดีมาก แค่ใช้ได้ก็พอแล้ว

แต่พวกเครื่องออกกำลังกาย ฟางผิงเลือกคุณภาพกลางๆ หน่อย

ถึงเขาจะใช้เสร็จแล้ว ก็ยังทิ้งให้ฟางหยวนใช้ได้ ไม่นับว่าสิ้นเปลือง

พวกโต๊ะโซฟาใช้เงินไปไม่มาก แต่เครื่องออกกำลังกลับเสียไปพอสมควร

เมื่อคำนวณทั้งหมดทั้งสิ้นแล้ว ในมือเขาก็เหลือเงินประมาณสามแสนเก้า

กลับมาโรงเรียน เฉินฝานเลยแปลกใจอยู่บ้าง “ฟางผิง ทำไมช่วงนี้รู้สึกว่าไม่ค่อยได้เห็นหน้าเห็นตานายเลย?”

เมื่อก่อนถ้าตอนกลางวันฟางผิงไม่กลับบ้าน เขาก็จะไม่กลับเหมือนกัน

ทั้งสองคนไปกินข้าวที่โรงอาหารและร้านข้างนอกด้วยกันบ่อยครั้ง แต่ช่วงนี้เขากลับไม่ค่อยเจอฟางผิง

“ช่วงนี้มีเรื่องนิดหน่อย ค่อนข้างยุ่ง”

“ถึงนายจะสมัครสอบศิลปะการต่อสู้ แต่ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับวิชาวัฒนธรรมด้วย…”

เฉินฝานยังเตือนเขาอย่างใจเย็น ฟางผิงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

นี่เป็นเพราะเป็นเพื่อนกันถึงพูด ถ้าเป็นคนไม่สนิทกัน ต่อให้คุณไม่อ่านหนังสือ ก็ถือว่าคู่แข่งลดไปหนึ่งคน

ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน หยางเจี้ยนที่นั่งด้านหน้าก็เอ่ยว่า “ฟางผิง ตอนเย็นไปออกกำลังกายด้วยกันไหม?”

ไม่กี่วันมานี้ ฟางผิงเอาแต่ผลาญปราณไปกับการฝึกวิชา

เลยไม่มีเวลา ทั้งไม่คิดว่าจำเป็นต้องไปออกกำลังกายกับพวกเขาเหมือนกัน

แต่ตอนนี้เขาพอจะเรียนรู้เคล็ดวิชาขึ้นมาแล้ว หลายวันนี้ไม่ว่าจะจวงกงหรือเคล็ดวิชาต่างก็พัฒนาไม่น้อย

ตอนนี้บ้านใหม่ยังไม่จำเป็นต้องทำอะไร เขาก็ไม่อยากเข้าไปเหมือนกัน ใช้โอกาสนี้ไปดูว่าคนอื่นออกกำลังกันยังไง ก็ดีเหมือนกัน

ฟางผิงพยักหน้าว่า “ได้ ตอนเย็นไปด้วย”

ความจริงหยางเจี้ยนก็เอ่ยปากชวนอย่างไม่คิดอะไร เขาเคยชวนฟางผิงหลายที แต่ก็ถูกปฏิเสธเรื่อยมาคาดไม่ถึงว่าครั้งนี้ฟางผิงกลับตอบรับ ชั่วขณะนั้นหยางเจี้ยนเลยตั้งรับไม่ทันอยู่บ้าง

แต่ไม่นานก็ยิ้มเผล่ “ดี เลิกเรียนแล้วพวกเราไปด้วยกัน ฟางผิง พวกหัวกะทิของโรงเรียนก็ไปออกกำลัยกายที่นั่นไม่น้อย บางทีดูวิธีออกกำลังกายของพวกเขาแล้ว นายอาจจะได้อะไรกลับไปเหมือนกัน”

“ได้…”

“…”

ทั้งสองคนนัดแนะแล้ว ก็ไม่พูดมากอีก เตรียมตัวรออาจารย์เข้าสอน

ไม่นานคาบบ่ายก็สิ้นสุดลง

นักเรียนสายสังคมบางคนยังเรียนด้วยตัวเองภาคค่ำ พวกฟางผิงก็ไม่คิดสนใจพวกเขา

พวกอู๋จื้อหาวต่างก็รู้เรื่องที่วันนี้ฟางผิงจะไปออกกำลังกายด้วยหมดแล้ว

พวกเขาเดินออกไปข้างนอก อู๋จื้อหาวก็เอ่ยด้วยรอยยิ้มไปพลาง “ฟางผิง นายคงยังไม่เคยไปออกกำลังกายที่โรงยิมสินะ? รับรองว่า เปิดหูเปิดตาแน่นอน!”

โรงยิมที่เขาพูดถึง ก็คือโรงยิมกลางของโรงเรียนพวกเขา เตรียมไว้ให้พวกนักเรียนสายศิลปะการต่อสู้ฝึกฝนร่างกายโดยเฉพาะ

ไม่ใช่ว่านักเรียนทุกคนจะมีห้องออกกำลังกายเป็นของตัวเองเสียหน่อย

แม้ว่าจะมี ก็ให้บรรยากาศที่ต่างกัน

อู๋จื้อหาวเองก็มีห้องออกกำลังกายที่บ้านเหมือนกัน แต่เขาชอบไปออกกำลังกายกับทุกคนที่โรงยิมมากกว่า

ถึงคนมาก จะวุ่นวายไปบ้าง แต่ทุกคนได้ออกกำลังกายแข่งขันกัน จึงมีแรงมุ่งมั่นมากกว่าเดิม

ออกกำลังคนเดียวนั้นน่าเบื่อไร้รสชาติ คนส่วนใหญ่จึงไม่ชอบความเงียบเหงาแบบนี้

ฟางผิงได้ฟังก็เผยยิ้ม “เปิดหูเปิดตา? หรือการออกกำลังกาย ยังมีอะไรสนุกๆ อีก?”

อู๋จื้อหาวยังไม่ทันพูด จางเฮ่าก็หัวเราะขึ้นมาก่อน “ฟางผิง นายคงไม่เข้าใจละสิ! นักเรียนสายศิลปะการต่อสู้ไม่ได้มีแต่ผู้ชายนะ ยังไงเดี๋ยวนายไปดูก็จะรู้เอง…”

เขาพูดไม่ทันจบ จางหนานหนึ่งในนักเรียนหญิงสายศิลปะการต่อสู้ของห้องสี่ก็เอ่ยอย่างหงุดหงิดขึ้นมา “หยุดทำเรื่องโรคจิตสักที นายคิดว่าฟางผิงเหมือนนายรึไง! เอาแต่มองนักเรียนหญิง ขายหน้าห้องเราจริงๆ!”

จางเฮ่าไม่สนใจ เอ่ยกับฟางผิงด้วยรอยยิ้ม “นายเข้าใจคำพูดเธอแล้วสินะ? พวกเราไม่ต้องมองนักเรียนห้องอื่น มองแต่เธอก็พอแล้ว”

ตอนที่ 42 โรงยิม 1

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน