เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน นิยาย บท 522

ตอนที่ 522 หัวเหล็กที่ไร้ทางเยียวยา (1)

………………..

จบเรื่องนอกประเด็นพวกนี้แล้ว คนของเมืองเจิ้นซิงก็เผยสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา

เริ่มถามเรื่องที่หยางเต้าหงเข้าไปในพื้นที่เขตแดน

ฟางผิงตอบไปตามตรงเช่นกัน

ในความเป็นจิรง เรื่องช่วงแรกแทบไม่มีอะไรปิดบังได้

ในความคิดของฟางผิง สิ่งเดียวที่ต้องปิดบัง อันที่จริงมีแค่เรื่องที่หลี่หานซงและฉินเฟิ่งชิงเข้าไปในพื้นที่เขตแดนเท่านั้น

แต่ตอนนี้เจ้าฉินเฟิ่งชิงเปิดเผยออกไปแล้ว ฟางผิงคิดว่าให้ฉินเฟิ่งชิงต้านเอาไว้ก่อน หลังจากนั้นค่อยว่ากัน

แต่ก่อนหน้านี้พวกเขาหารือกันมาแล้ว

รอจนซูเฮ่าหรานถามถึงเรื่องที่ฉินเฟิ่งชิงเข้าสู่พื้นที่เขตแดน ฉินเฟิ่งชิงก็เอ่ยด้วยใบหน้าจริงใจว่า “เวลานั้นจู่ๆ ภายในพื้นที่เขตแดนก็มีพลังแข็งแกร่งกระจายออกมา ผมอยู่ใกล้เขตปราการพอดี…อันที่จริงผมไม่ได้เข้าไป แค่คว้าดินมากำหนึ่ง ผลปรากฏว่ากลับคว้าดินออกมาได้…”

“พลังแข็งแกร่ง?”

“ใช่ แข็งแกร่งมาก!” ฉินเฟิ่งชิงพูดด้วยใบหน้าใสซื่อ “เวลานั้นสัตว์ปีศาจพืชปีศาจที่ฝึกวิชาอยู่พวกนั้นตกใจจนแทบวิ่งหนีกันหมด ผมแข้งขาอ่อน หนีไม่ทัน แทบจะสะดุดล้มแล้ว จากนั้นก็ลองคว้าดู…ตอนหลังผมลองดูเหมือนกัน ปรากฏว่าเข้าไปไม่ได้ ทั้งเขตปราการยังเริ่มโจมตีผม!”

คำพูดนี้เป็นความจริง เขาเข้าไปไม่ได้

ไม่มีหัวเหล็กนำทาง หากฝ่าเข้าไปในเขตปราการก็จะถูกโจมตีทันที

ซูเฮ่าหรานเอ่ยอย่างครุ่นคิดว่า “งั้น…พวกเธอเห็นร่างของผู้อาวุโสหยางหรือเปล่า?”

ฉินเฟิ่งชิงเอ่ยทันที “เหมือน…เหมือนจะมีเงาร่างหนึ่งอยู่ แต่ในตำหนักสวรรค์ชั้นฟ้า อยู่ห่างไกลเกินไป เห็นไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ ภายหลังเขตปราการฟื้นฟูเป็นปกติ ไม่โปร่งใสอีก พวกเราจึงมองไม่เห็นอีกแล้ว”

ขั้นเก้าสองคนจมดิ่มในความเงียบ ผ่านไปสักพัก เหวยหย่งถามขึ้นว่า “คนของเขตหวงห้ามตายหมดแล้ว?”

“ตายหมดแล้ว”

ในเวลานี้ เด็กหนุ่มที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้า จู่ๆ ก็มองไปทางฟางผิง “ทำไมพวกปู่ของฉันตายกันหมด แต่นายไม่เป็นไร? นายเข้าไปในพื้นที่ระหว่างเขตแดนยังไง? ในสงครามใหญ่แบบนี้ พวกนายไม่เป็นอะไรสักคน มีแค่คนของเมืองเจิ้นซิงฉันที่ตาย…”

ฟางผิงขมวดคิ้วเล็กน้อย เอ่ยขึ้นว่า “อย่างแรก ฉันเก็บงำกลิ่นอายได้ จุดนี้รัฐบาลก็รู้เหมือนกัน เวลานั้นฉันเก็บงำกลิ่นอาย ไม่มีใครตระหนักถึงฉันได้ อย่างที่สอง พวกหวังจินหยางตามเข้ามาทีหลัง พื้นที่ระหว่างเขตแดนไม่มีระดับสูงรอดชีวิตแล้ว อย่างที่สาม ฉันเพิ่งจะขั้นหก หรือนายจะให้ฉันเข้าร่วมสงครามในสถานการณ์ที่ขั้นเก้าห้ำหั่นกัน? ฉันสามารถพาปรมาจารย์ขั้นแปดกลับมาได้สองคน พาร่างของปรมาจารย์หยางกลับมาก็ถือว่าสุดความสามารถของฉันแล้ว”

“พูดระคายหูหน่อย ถึงฉันไม่เอากลับมาแล้วจะยังไงได้? ในสถานการณ์แบบนั้น อย่าพูดถึงฉันเลย ถึงจะเป็นปรมาจารย์ขั้นเจ็ดขั้นแปดก็ต้องตรึกตรองเหมือนกันว่าจะสามารถข้ามผ่านกว่าครึ่งถ้ำใต้ดินได้อย่างปลอดภัยหรือเปล่า…เห็นแก่ที่ปรมาจารย์หยางเพิ่งสิ้นชีพ นายตั้งคำถามพวกนี้กับฉัน ฉันจะไม่คิดเล็กคิดน้อยแล้วกัน แต่อย่างน้อยคำขอบคุณ…ฉันคิดว่ายังจำเป็นต้องมี”

“นาย!”

“หยางชิง!”

ซูเฮ่าหรานตะคอกเบาๆ ตัดบทหยางชิง มองไปทางฟางผิงว่า “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอจริงๆ เธอสามารถพาเหล่าหยางและพวกหลี่โม่กลับมาก็เกิดความคาดหมายของพวกเราแล้ว แต่ว่า…”

ซูเฮ่าหรานเว้นช่วงไปเล็กน้อย ขมวดคิ้วว่า “ฟางผิง พวกเธอไม่ได้เข้าไปข้างในจริงๆ เหรอ?”

ฟางผิงตอบอย่างสุขุม “ไม่ได้เข้าไป”

“ไม่ได้เจอร่างของผู้อาวุโสหยาง?”

“ไม่”

“ข้างใน…พวกเธอบอกว่ามีการระเบิดพลังอย่างแข็งแกร่ง มีคนปรากฏตัวหรือเปล่า?”

“ไม่มี”

“เวลานั้นฉินเฟิ่งชิงข้ามเขตปราการ คว้ามาได้แค่ดินกำเดียว?”

“ใช่”

ซูเฮ่าหรานเอ่ยอย่างเรียบนิ่ง “เธอกำลังโกหก!”

ฟางผิงไม่สะทกสะท้าน วิธีการพวกนี้อย่ามาใช้กับฉัน ฉันไม่ได้ไร้ประสบการณ์เหมือนลูกหลานรุ่นที่สองของเมืองเจิ้นซิงสักหน่อย

“ปรมาจารย์ใหญ่ โกหกหรือเปล่า มีปรมาจารย์หลายคนอยู่ที่นี่ น่าจะกระจ่างใจดีกว่าผมไม่มีความจำเป็นต้องปิดบังอะไร ถ้าผมเจอร่างของผู้อาวุโสขั้นสุดยอดจริงๆ ผมเพิ่งจะขั้นหก ผมจะทำอะไรได้? ผมเป็นมนุษย์คนหนึ่ง เป็นประชาชนคนหนึ่งของประเทศจีน ผมมีหวังจะกลายเป็นขั้นสุดยอดคนหนึ่งของมนุษยชาติ ปกป้องมนุษยชาติเหมือนกัน แต่ผมไม่ได้เห็นร่างของปรมาจารย์หยางจริงๆ หากเห็น ผมต้องเอากลับมาแน่ ไม่ว่าจะส่งให้เมืองเจิ้นซิงหรือรัฐบาล ผมก็ไม่อาจเก็บไว้ส่วนตัวได้”

“ผมยอมรับว่าผมไม่ใช่คนที่เห็นแก่ส่วนรวมเต็มร้อย อีกอย่างผมไม่ได้ขาดแคลนทรัพยากร มั่นใจในเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ของตัวเองเหมือนกัน ผมไม่คิดว่าผมต้องเดินในเส้นทางของคนอื่น หรือจะพูดไม่น่าฟังหน่อย! ในเมื่อผู้อาวุโสหยางตายไปแล้ว เส้นทางของเขา…อาจไม่ใช่เส้นทางที่แข็งแกร่งที่สุด! ผู้ฝึกยุทธ์อย่างพวกเรา โดยเฉพาะผม หากจะเดินก็ต้องเดินในเส้นทางที่แข็งแกร่งที่สุด ผมไม่รู้ว่าปรมาจารย์ใหญ่กำลังตั้งคำถามอะไร แต่ผมถูกกำหนดให้เดินในเส้นทางของตัวเองเท่านั้น!”

พวกซูเฮ่าหรานขมวดคิ้ว จู่ๆ หนานอวิ๋นเยวี่ยก็เอ่ยว่า “ตอนนี้ทางที่ดีอย่าให้ระดับสูงเข้าไปในถ้ำใต้ดินเทียนหนาน จะกระตุ้นให้ราชาซงโต้กลับได้”

พวกซูเฮ่าหรานครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ถอนหายใจเบาๆ “งั้นก็ช่างเถอะ แต่ครั้งหน้าถ้ามีโอกาส ฉันยังอยากให้พวกเธอสามารถไปเป็นเพื่อนพวกเราสักครั้ง ยังไงเรื่องก็เกี่ยวข้องกับการตายของขั้นสุดยอด บางเรื่องพวกเราจำเป็นต้องเข้าใจสถานการณ์ให้มากขึ้น”

ซูเฮ่าหรานพูดจบ หยางชิงที่ก่อนหน้านี้ถูกตำหนิมองไปยังพวกเขาว่า “ฟางผิง จากคำพูดของนาย เจ้าเมืองเฉียงเวยและเถี่ยมู่คนพวกนี้ล้วนเจ็บหนักตายลงหลังจากประมือกับปู่ของฉัน…”

เขายังไม่ทันพูดจบ ฟางผิงก็ตัดบททันที “เจ้าเมืองเฉียงเวยและเถี่ยมู่ไม่ได้ถูกปรมาจารย์หยางฆ่าตาย! อีกอย่าง…”

ฟางผิงเผยสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา เอ่ยเนิบช้าว่า “เมืองเจิ้นซิงเป็นเทพผู้พิทักษ์ของประเทศจีน จุดนี้ฉันไม่ปฏิเสธ ฉันได้รับการปกป้องจากผู้อาวุโสเหล่านี้เหมือนกัน แต่สินสงคราม ในสงครามถ้ำใต้ดิน นั่นแบ่งแยกอย่างชัดเจนแล้ว! ตอนนี้มาพูดกับฉันเรื่องพวกนี้ ไม่คิดว่าเกินไปบ้างอยู่หรือไง? พูดแบบนี้ ฉันเสี่ยงชีวิตพาขั้นแปดสองคน พาร่างของปรมาจารย์หยางกลับมาเหมือนจะเป็นความผิดพลาดมากกว่า? ถ้าเมืองเจิ้นซิงมีความคิดนี้ ฝีมือฉันสู้คนอื่นไม่ได้ งั้นฉันคงต้องยอมให้พวกคุณเอาของทั้งหมดไป ถ้ามีโอกาส ฉันก็อยากจะถามต่อหน้าพวกผู้อาวุโสสักหน่อย เมืองเจิ้นซิงปฏิบัติกับผู้ฝึกยุทธ์ข้างนอกแบบนี้? ปฏิบัติกับผู้อ่อนแอที่เสี่ยงชีวิตช่วยขั้นแปดสองคนกลับมาแบบนี้อย่างนั้นเหรอ?”

หยางชิงยังอยากจะพูดอะไรต่อ ซูเฮ่าหรานกลับขมวดคิ้วแน่น กดเสียงว่า “หยางเชิง เหล่าหยางตาย เธอกำลังอารมณ์ไม่ดี พูดให้มันน้อยๆ หน่อย!”

เขารู้จุดประสงค์ของหยางชิง!

ศพเจ้าเมืองเฉียงเวยอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เอากลับไปบางทีอาจให้คนผู้นั้นของตระกูลหยางลองเข้าสู่ขั้นเก้าได้

ยิ่งไปกว่านั้นได้ยินว่ายังมีอาวุธวิเศษขั้นเก้าอีกหนึ่งชิ้น

อาวุธวิเศษขั้นเก้า แม้จะเป็นเมืองเจิ้นซิง อันที่จริงก็ไม่ได้พบเห็นได้ง่ายๆ

มีอาวุธวิเศษของหยางเต้าหงอยู่ มีอาวุธวิเศษขั้นเก้าเพิ่มขึ้นมาอีกชิ้น ปรมาจารย์สองคนของตระกูลหยางต่างมีอาวุธวิเศษขั้นเก้าสองชิ้นในมือก็จะเพิ่มพลังต่อสู้ขึ้นไปอีก

แบบนี้แล้ว บางทีอาจสามารถชดเชยช่องว่างกลับมาได้

แต่ฟางผิงพายอดฝีมือขั้นแปดสองคนกลับมา ครั้งนี้สร้างผลงานในถ้ำใต้ดินเทียนหนานไม่น้อย หากหยางชิงทำแบบนั้นจริงๆ นั่นก็เลวร้ายกับทุกคนเกินไปแล้ว รวมถึงรัฐบาลกลางด้วย

เพื่อของเล็กน้อยนี้ สร้างช่องว่างกับรัฐบาลกลาง ถึงกระทั่งทำให้ขั้นสุดยอดสองคนเคืองโกรธขึ้นมา นี่ไม่ใช่เรื่องดีแล้ว

หยางชิงจึงเงียบลงอีกครั้ง

——————

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน