เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน นิยาย บท 530

ตอนที่ 530 การจัดอันดับขั้นหก (1)

………………..

วันที่ 5 พฤษภาคม ฟางผิงได้รับตำแหน่งแม่ทัพ

แต่ข่าวยังคงเผยแพร่ออกไปช้าอยู่บ้าง ผ่านไปสองสามวัน โลกข้างนอกค่อยรู้ว่าฟางผิงจากมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้กลายเป็นแม่ทัพ!

เมื่อข่าวนี้ออกไปก็จุดประเด็นขึ้นมาไม่น้อย

แม่ทัพหน่วยทหาร ทุกคนต่างรู้ว่าเป็นเรื่องยากอย่างยิ่ง!

ทั้งในเวลานี้ สมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์ก็ช่วยเติมลายดอกลงบนผ้าแพรอีกครั้ง!

วันที่ 9 พฤษภาคม

การจัดอันดับของปรมาจารย์ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่การจัดอันดับของขั้นห้าขั้นหกกลับเปลี่ยนแปลงไม่น้อย

เป็นครั้งแรกที่ฟางผิงเข้าสู่การจัดอันดับขั้นหก

ชื่อ : ฟางผิง

อายุ : 20 ปี

ขั้นผู้ฝึกยุทธ์ : ขั้นหกตอนต้น

ฐานะ : แม่ทัพ เลขาธิการกรรมการมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ ประธานสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ ผู้บัญชาการเมืองหยางเฉิงกิตติมศักดิ์ นักศึกษาชั้นปีสองมหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้

ผลการรบ : ร่วมมือกับหวังจินหยางและหลี่หานซงสังหารยอดฝีมือหลอมสารจิงกับเลือดซึ่งๆ หน้า สังหารขั้นหกสูงสุดตามลำพัง

การจัดอันดับ : อันดับที่สิบแปด

ฉายา : แม่ทัพดาบคลั่ง

คล้อยหลังจากการจัดอันดับถูกปล่อยออกไป ไม่ใช่แค่ประเทศจีน ยอดฝีมือทั่วโลกต่างให้ความสนใจ

เด็กหนุ่มที่อยู่ขั้นหกตอนต้นคนหนึ่ง เข้าสู่การจัดอันดับของประเทศจีนท่ามกลางขั้นหกสุดสูงจำนวนมาก เป็นรองแค่ยอดฝีมือที่หลอมสารจิงกับเลือดแล้วบางส่วน รวมถึงขั้นหกสูงสุดไม่กี่คนอื่นๆ

การจัดอันดับแบบนี้ ทำให้คนตกตะลึง!

สิ่งที่น่าตกตะลึงกว่าคืออีกฝ่ายเพิ่งจะอายุยี่สิบปี!

นี่เป็นสิ่งที่เด็กหนุ่มอายุยี่สิบปีคนหนึ่งก็สามารถทำได้งั้นเหรอ?

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง อีกฝ่ายยังสังหารยอดฝีมือที่หลอมสารจิงกับเลือดมาก่อน

อันที่จริงสมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์หรือจะพูดว่ารัฐบาลปิดบังข้อมูลไว้หลายอย่าง ฟางผิงบอกว่าตัวเองเคยลอบฆ่ายอดฝีมือขั้นเจ็ดสำเร็จ

เรื่องนี้ทุกคนไม่เห็น แต่พวกหนานอวิ๋นเยวี่ยเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง

หากคำนวณผลการรบนี้จริงๆ ฟางผิงก็เข้าสู่อันดับหนึ่งได้เลยด้วยซ้ำ

แต่ตัวฟางผิงไม่ได้มีฝีมือของปรมาจารย์ จัดในอันดับสูงเกินไป ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป

ทั้งในนั้นยังพัวพันถึงเรื่องมากมาย ยอดฝีมือระดับกลาง ยังไม่นับว่าดึงดูดความสนใจคนเท่าไหร่

เอาชนะยอดฝีมือขั้นเจ็ดได้ อย่าลืมว่ายอดฝีมือระดับสูงในโลกไม่ได้มีกลาดเกลื่อน จะเกิดปัญหาได้ง่าย

ตอนนี้การจัดอันดับของยอดฝีมือระดับสูงยังไม่มีผลการรบให้เห็นชัดเจนเช่นกัน

คนทั้งหมดต่างสั่นสะท้าน ตกใจที่ฟางผิงพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

ตกใจที่ฟางผิงอายุยังน้อยกลับสร้างประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ติดต่อกัน

หลายคนไม่ทันตระหนักว่าในการจัดอันดับของขั้นห้า หลี่หานซงและหวังจินหยางอยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่ก็หายไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

แน่นอนว่าทุกคนเห็นผลการรบของฟางผิง สามคนร่วมมือกันฆ่ายอดฝีมือที่หลอมสารจิงกับเลือด

แต่สองคนนั้น ครั้งนี้ไม่ได้เข้าสู่การจัดอันดับของขั้นหก ดังนั้นคนที่ให้ความสนใจจึงมีไม่เยอะ

ส่วนฉายา ‘แม่ทัพดาบคลั่ง’ คนที่ใส่ใจเรื่องนี้ก็มีไม่มากเช่นกัน

คนอื่นไม่ใส่ใจ ฟางผิงกลับหลุดปากด่าออกมาแล้ว

“สมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์คอยดูเถอะ ไม่ช้าก็เร็วจะจัดการพวกนายแน่!”

ฟางผิงไม่พอใจกับฉายานี้อย่างมาก ไม่น่าเกรงขามเลยสักนิด!

เขาโทรศัพท์ไปร้องทุกข์แล้ว ถึงกระทั่งเป็นฝ่ายเสนอฉายาตั้งมากมาย ปรากฏว่าสมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์กลับตัดสายของเขา หลังจากโทรไปหาอีก…สายไม่ว่างซะงั้น!

ฟางผิงแทบมีใจอยากบุกไปเมืองหลวงด้วยซ้ำ!

ด้านข้าง ฉินเฟิ่งชิงที่เพิ่งออกจากด่านเผยสีหน้าหนักแน่น จู่ๆ ก็เอ่ยอย่างเยียบเย็นว่า “ทำไมฉันถึงไม่อยู่ในการจัดอันดับขั้นห้า!”

จะรังแกกันเกินไปแล้ว!

ฉินเฟิ่งชิงฆ่าคนในถ้ำใต้ดินไปนับไม่ถ้วน แม้จะบอกว่าไม่ได้ฆ่าขั้นหก แต่เวลานั้นก็สังหารผู้ฝึกยุทธ์ขั้นห้ามากมาย

นึกไม่ถึงว่าจะไม่ให้เขาเข้าสู่การจัดอันดับ!

รังแกคนเกินไป!

ฉินเฟิ่งชิงโมโหแทบระเบิดแล้วจริงๆ!

นี่เลือกปฏิบัติชัดๆ ไม่มีใครเทียบได้แล้ว สมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์สินะ…บัญชีแค้นนี้ฉันจะจำเอาไว้

ฟางผิงคร้านจะสนใจเขา ครั้งนี้เจ้าหมอนี้ออกด่านมาเพื่อดอกหลอมเส้นเดินปราณ

ฟางผิงส่ายหัว เจ้าหมอนี้จะโง่เกินไปแล้ว

ตอนนี้คะแนนเริ่มมีการปรับเปลี่ยนแล้ว มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ใช้มาตราฐานที่ฟางผิงตั้งไว้ก่อนหน้านี้ หนึ่งคะแนนเท่ากับหนึ่งหมื่นหยวน สามหมื่นคะแนนก็เท่ากับสามร้อยล้าน

ราคานี้ไม่ได้ต่ำเลย

พวกนักศึกษาแทบจะแลกไม่ไหว ทั้งไม่มีความต้องการด้วย

พวกอาจารย์ ตอนนี้ต่างพยายามหาคะแนนเช่นกัน อาจารย์ที่อยู่ขั้นห้าตอนกลางบางส่วนต่างจับจ้องอยู่ตลอด

ฟางผิงส่งดอกหลอมเส้นเดินปราณและผลบ่มจิตใจไปให้ฝ่ายบริการ อนุญาตให้ทุกคนแลกเปลี่ยน แน่นอนว่าต้องใช้คะแนนของตัวเอง

ตอนนี้มีคนเริ่มแลกเปลี่ยนแล้ว

นึกไม่ถึงว่าฉินเฟิ่งชิงยังจะวิ่งมาหาเขา ทั้งยังร้องไห้ยกใหญ่ทำขายหน้าต่อหน้าคนอื่นอีก…ฟางผิงนั้นหมดคำจะพูดจริงๆ

เจ้าคนปัญญาอ่อนแบบนี้ สมน้ำหน้าแล้ว

เฉินอวิ๋นซีกลับไม่ได้สนใจเรื่องของฉินเฟิ่งชิงมากมาย อันที่จริงเฉินอวิ๋นซียังคงนับถือฉินเฟิ่งชิงไม่น้อย รุ่นพี่ฉินเก่งจริงๆ เพื่อการก้าวหน้าของเส้นทางผู้ฝึกยุทธ์ ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ยินดีทำทั้งนั้น

อย่างน้อยถ้าเป็นเธอ…เฉินอวิ๋นซีคิดว่าตัวเองคงทำไม่ได้แน่

เธอเป็นผู้หญิงคนหนึ่งจะให้ร้องไห้ยังอายเลย นึกไม่ถึงว่ารุ่นพี่ฉินกลับมานั่งร้องไห้ในห้องทำงานของฟางผิง…จะน่าเกลียดไปแล้ว

ไม่พูดเรื่องนี้อีก เฉินอวิ๋นซียิ้มอย่างเบิกบานว่า “ฟางผิง นายมีฉายาแล้ว ร้อยอันดับแรกของขั้นหกยังมีฉายาไม่ถึงครึ่งหนึ่งเลย นายจะเก่งเกินไปแล้ว!”

“อย่าพูดถึงเลย”

ฟางผิงหงุดหงิดอยู่บ้าง ฉายานี้เขาแทบไม่อยากฟังด้วยซ้ำ

ยังไงฟางผิงก็ตัดสินใจแล้วว่าตอนที่ฝีมือตัวเองแข็งแกร่งกว่านี้ ถ้าสมาพันธ์ผู้ฝึกยุทธ์กล้าใช้ฉายานี้อีก เขาจะไปอัดคนซะ

เฉินอวิ๋นซีเห็นเขาไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้จึงไม่พูดต่ออีก แต่ยังคงเอ่ยด้วยใบหน้านับถือว่า “นายเพิ่งขั้นหกตอนต้น ยังเข้าสู่การจัดอันดับขั้นหกแล้ว ฟางผิง ตอนที่ฉันโทรไปเล่าให้พี่ชายฟังตอนกลางวัน เขายังตกใจจนพูดไม่ออกอยู่นานเลย…”

ฟางผิงหมดคำจะพูดอีกครั้ง พี่ชายเธอไม่ได้ตกใจ กำลังโมโหต่างหาก

เรื่องนี้เขาจะไม่รู้ได้หรือไง?

เธอกลับต้องโทรไปแทงใจดำเขาให้ได้ เฉินเฮ่าหรานน่าจะคิดอยากตายด้วยซ้ำ เธอยังยั่วโมโหเขา เขาไม่มาคิดบัญชีกับเธอก็นับเป็นเรื่องดีแล้ว

ไม่พูดเรื่องนี้อีก ฟางผิงถามว่า “หวังจินหยางและหลี่หานซงมาถึงหรือยัง?”

“ออกเดินทางแล้ว ตอนบ่ายน่าจะมาถึง”

“อืม ทางนี้ฉันไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เธอไปฝึกวิชาเถอะ รอพวกเขามา ฉันจะเข้าด่านฝึกวิชาเหมือนกัน ช่วงนี้ทุกคนต่างพยายามทะลวงขั้น ตอนนี้ถ้ำใต้ดินแต่ละแห่งอยู่ในสภาวะเงียบสงบ สงครามเทียนหนานสิ้นสุดลง สถานการณ์ของประเทศจีนก็ดีไม่น้อย แต่สถานการณ์แบบนี้คงไม่ได้ลากยาวจนเกินไป…”

ฟางผิงพูดออกมายกใหญ่ เฉินอวิ๋นซีพยักหน้าติดต่อกัน

—————-

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน