ตอนที่ 532 เกิดความผิดปกติ (2)
………………..
“นี่ประธานไม่พอใจที่ตัวเองถูกจัดในอันดับที่สิบแปดของขั้นหกหรือเปล่า หลังจากประธานพวกเราเข้าสู่ขั้นสาม มีครั้งไหนบ้างที่ไม่ใช่ที่หนึ่ง ฉันว่าประธานวางแผนจะพุ่งสู่ที่หนึ่งให้เร็วที่สุด เป็นอันดับหนึ่งสี่ครั้งติดต่อกัน!”
เริ่มตั้งแต่ขั้นสาม ฟางผิงก็เป็นที่หนึ่งของการจัดอันดับ ทุกครั้งจะพยายามแตะถึงจุดนั้นโดยเร็วที่สุด
ตอนนี้สิบอันดับแรกของขั้นหกยังไม่สามารถขึ้นไปได้ นักศึกษามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ยังรู้สึกไม่พอใจแทนฟางผิงเลย
แม้ผู้ฝึกยุทธ์ที่ถูกจัดอันดับอยู่ข้างหน้าเขาเหล่านั้นจะเป็นตาแก่ยายแก่กันแล้ว พวกนักศึกษาก็ยังคิดว่าฟางผิงควรได้อันดับหนึ่งอยู่ดี
มีคนเอ่ยด้วยรอยยิ้มขึ้นว่า “ประธานทะลวงแล้ว พวกเราอย่าลืมอวยพรก็พอ กอบโกยได้ครั้งใหญ่อีกแล้ว”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา จากหนึ่งเป็นสิบ จากสิบเป็นร้อย บอกต่อกันไปอย่างรวดเร็ว นักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยต่างกระจ่างแจ้งขึ้นมา
โอกาสกินฟรีมาอีกแล้ว!
พวกนักศึกษาแทบจะปรารถนาให้ฟางผิงทะลวงวันละขั้นด้วยซ้ำ ประธานมีเงินจะตายไป!
ทุกครั้งที่ทะลวงด่านหรือมีเรื่องยินดีอะไร นั่นก็จะทุ่มทุนอย่างหนัก ตอนนี้พวกนักศึกษาคุ้นชินกับธรรมเนียมแบบนี้นานแล้ว
—
คนอื่นๆ กำลังกระซิบกระซาบกัน
ฟางผิงกลับกินสมุนไพรต่อ
ครั้งนี้เขาแลกหญ้าจันทร์หม่นมาสิบต้น
หญ้าจันทร์หม่นเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเจ็ดใช้ ให้ประสิทธิภาพดีเยี่ยม
ตอนแรกพลังจิตใจฟางผิงพุ่งสูงถึงเก้าร้อยสี่สิบเก้าเฮิรตซ์ ใช้หญ้าจันทร์หม่นไปหนึ่งต้นก็แตะถึงเก้าร้อยแปดสิบเฮิรตซ์
ใช้ต้นที่สองกลับเพิ่มแค่เก้าร้อยเก้าสิบสองเฮิรตซ์!
ประสิทธิภาพของต้นที่สองลดน้อยลงไปช่วงใหญ่ในเสี้ยวพริบตา นี่ทำให้ฟางผิงอดขมวดคิ้วไม่ได้ ดูท่าใกล้ถึงขีดจำกัดอีกครั้งแล้ว
แต่กังวลว่าอีกเดี๋ยวพลังตอบสนองจะไม่เพียงพอ ฟางผิงกัดฟัน กินหญ้าจันทร์หม่นเข้าไปเป็นต้นที่สาม
หญ้าจันทร์หม่นห้าพันล้าน เขากินรวดเดียวไปสามต้น!
ดีที่หลังจากใช้หญ้าจันทร์หม่นติดต่อกันสามต้น แม้ยิ่งใช้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งเพิ่มพลังจิตใจน้อยลงเรื่อยๆ กลับทำให้พลังจิตใจของฟางผิงแตะถึงเก้าร้อยเก้าสิบเก้าเฮิรตซ์
ถึงเวลานี้แล้ว ฟางผิงรู้ว่าต่อให้กินเข้าไปขนาดไหนก็คงไม่สามารถเพิ่มได้อีกแล้ว
ปราการมีเพียงต้องอาศัยตัวเองทะลวงไปเท่านั้น
ระบบไม่ปรากฏเครื่องหมายบวกอีกเช่นกัน ไม่งั้นระบบคงสามารถฝืนทะลวงปราการนี้ไปได้แล้ว
“ปราณเจ็ดพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าแคล พลังจิตใจเก้าร้อยเก้าสิบเก้าเฮิรตซ์ต่างแตะถึงขีดจำกัดแล้ว!”
“ปิดผนึกประตูแห่งปราณสามารถทำให้พลังจิตใจปรากฏได้งั้นเหรอ?”
ฟางผิงร้อนรุ่มในใจอยู่บ้าง
ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหก ปรากฏพลังจิตใจ ปัจจุบันเหมือนไม่เคยได้ยินมาก่อน
ก่อนหน้านี้เพราะหลู่เฟิ่งโหรวไม่สามารถหลอมสารจิงกับเลือดได้จึงพยายามฝืนปรากฏ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ปรากฏขึ้นมา แต่ทำได้หลังจากหลอมรวมเป็นหนึ่งแล้ว
ขั้นหกคนอื่นๆ แม้จะไม่สามารถหลอมรวม ปกติพลังจิตใจก็ไม่แตะถึงขั้นที่ปรากฏได้
แม้ในใจจะร้อนรุ่ม แต่ฟางผิงไม่ได้กังวลมากจนเกินไป ถึงครั้งนี้จะปรากฏไม่สำเร็จก็คงอีกไม่นานนี้เหมือนกัน
เขาเพิ่งขั้นหกตอนต้น ถึงตอนกลางจะไม่สำเร็จ งั้นขั้นหกตอนปลายล่ะ?
“ไม่จำเป็นต้องกังวลเกินไป แม้จะปรากฏไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
ฟางผิงปลอบตัวเองในใจ ทั้งอดคิดฟุ้งซ่านขึ้นมาไม่ได้ การปรากฏพลังจิตใจของฉันจะเป็นอะไรกันแน่?
ตาเฒ่าหลี่บอกเขาว่านี่เป็นการแสดงความยึดติดอย่างหนึ่ง
เขามีความยึดติดด้วยงั้นเหรอ?
ฟางผิงไม่รู้!
เขาไม่รู้จริงๆ ตกลงตัวเองมีความยึดติดอะไร ความยึดติดของมนุษย์ บางทีหากไม่ถึงช่วงเวลาสำคัญ ตัวเองก็คงไม่ชัดเจนเหมือนกัน
“จะสนใจเพื่ออะไร!”
ข้างล่างหอประวัติศาสตร์ พวกปรมาจารย์กรูกันเข้ามาแล้ว
“จะทะลวงแล้ว!”
“เจ้าเด็กนี้…อยากจะลองชำแหละเขาดูจริงๆ!”
หวงจิ่งพึมพำออกมา ความเร็วของการฝึกวิชาไม่มีใครเทียบได้แล้ว
ตาเฒ่าหลี่ถลึงตามองเขาแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร หวงจิ่งกลับรับรู้ถึงความนัย อดก่นด่าไม่ได้ “หลี่ฉางเซิง ฉันเป็นรุ่นพี่ของนาย สายตาที่ราวกับจะเชือดเฉือนฉันของนายมันหมายความว่ายังไง?”
ประตูปราณที่ตอนแรกราวกับภาพลวงตา เวลานี้แจ่มชัดอย่างยิ่ง ราวกับมีการคงอยู่ในอากาศอย่างแท้จริง ตั้งมั่นอยู่เหนือหัวของฟางผิง
“เปรี้ยง!”
เกิดเสียงระเบิดในอากาศอีกครั้ง ก่อนพลังที่ไร้รูปร่างจะแพร่กระจายจากประตูมาสู่ร่างของฟางผิง
พลังงานกลุ่มนี้ ครั้งก่อนฟางผิงก็รับรู้ได้แล้ว ตอนที่ประตูซานเจียวถูกปรากฏในความว่างเปล่าก็เคยตอบสนองฟางผิงมาก่อน
ครั้งนี้ประตูปราณปิดผนึก พลังงานที่ส่งเข้ามาทวีความแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม!
อันดับแรกที่เพิ่มขึ้นก็คือพลังปราณ
ทะลวงถึงแปดพันแคลในชั่วพริบตา!
แปดพันหนึ่งร้อยแคล…แปดพันสองร้อยแคล…
เมื่อก่อนพลังปราณจะเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ เวลานี้แทบจะพุ่งขึ้นไปทีละร้อยแคลอย่างรวดเร็ว
กระดูกทองของฟางผิงเปล่งประกายยิ่งกว่าเดิม กึ่งร่างทองเริ่มสว่างไสวขึ้นมาเช่นกัน
อวัยวะภายในปรากฏเป็นแสงสีทองอ่อนๆ
ตอนแรกอวัยวะภายในอยู่ในสภาวะโปร่งแสง ชั่วพริบตานี้กลับเริ่มมีแนวโน้มเปลี่ยนเป็นสีทอง
ยอดฝีมือขั้นแปด ทั่วร่างแปรสภาพเป็นทองเช่นกัน
แปรสภาพเป็นทองทั้งหมด นั่นถึงจะเป็นร่างทองอย่างสมบูรณ์
เวลานี้ร่างของฟางผิงแปรสภาพเป็นทองยิ่งกว่าเดิม เลือดก็เริ่มเป็นสีทองอ่อนๆ แล้วเช่นกัน
พลังปราณเพิ่มอย่างพรวดพราด จวบจนถึงแปดพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าแคลจึงหยุดลง
ทุกรอบที่ลงท้ายด้วยเลขเก้าจะเป็นช่วงคอขวด นี่เป็นเรื่องปกติของการฝึกวิชา ฟางผิงไม่ได้สนใจมากมายเช่นกัน
“อีกนิด…ยังขาดอีกนิด…นี่ยังไม่พอเลย!”
ฟางผิงตะโกนอย่างบ้าคลั่งในใจ!
——————–
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน