ตอนที่ 546 ฟางผิงผู้แข็งแกร่ง (1)
………………..
พื้นที่ใจกลาง
ฟางผิงเดินไปอย่างช้าๆ มือขวาถือดาบ เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “ต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของมนุษยชาติ ฉันไม่อยากฆ่านาย ทั้งหวังว่าทุกฝ่ายจะสามารถหลบเลี่ยงการบาดเจ็บล้มตายได้”
โรซิธหัวเราะขึ้นมาก่อนจะเผยสีหน้าเยือกเย็น ชี้นิ้วไปยังศพด้านข้างที่กำลังถูกเก็บ!
“แม่ทัพฟาง อาจารย์ของนายไม่เคยสอนหรือไง ผู้ฝึกยุทธ์ประมืออยู่บนระหว่างความเป็นและความตาย?”
“เข้าใจแล้ว”
ฟางผิงไม่พูดมากอีก สูดลมหายใจเขาลึก เอ่ยเสียงดังว่า “ฟางผิง นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปะการต่อสู้เซี่ยงไฮ้ประเทศจีน!”
โรซิธขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ยังคงแนะนำตัวเองออกไป “ตัวแทนการแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์หนุ่มสาวทวีปยุโรป โรซิธ แคมป์เบลล์”
สิ้นเสียงฟางผิงก็ชักดาบฟันทันที!
ดาบนี้ฟันจนเกิดระเบิดในอากาศ ประกายไฟลุกโชนไปทั่ว!
โรซิธเป็นที่ยอมรับของทั่วโลกว่าเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของขั้นหก เคยฆ่าผู้ที่หลอมสารจิงกับเลือดด้วยสามกระบี่ เห็นได้ชัดว่าฝีมือน่ากลัวถึงขนาดไหน!
ในชั่วพริบตาที่ฟางผิงชักดาบ โรซิธก็คำรามขึ้นมาแล้ว รอบร่างกายก่อตัวเป็นประกายปราณขึ้นมา
กระบี่ขนาดใหญ่เท่าบานประตูมาอยู่ในมือเขาปานสายฟ้าแลบ
ในตอนที่ฟางผิงฟันดาบ โรซิธก็หมุนกระบี่ฟันลงมาเช่นกัน!
เปรี้ยง!
เสียงปะทะกันของโลหะดังกึกก้อง เสียงอากาศระเบิดปริลั่นไปทั่วสนาม
ตึกๆๆ…
ฝีเท้าเหยียบลงพื้นอย่างหนักหน่วง ฟางผิงถอยหลังไปหลายสิบก้าวติดต่อกัน สองมือสั่นระริกไม่หยุด เลือดสีทองหยดไหลบนพื้น
ฝั่งตรงข้าม โรซิธเผยรอยยิ้มเรียบนิ่งบนใบหน้า
แต่ภายใต้การโจมตีนี้ โรซิธไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย ฟางผิงกลับถอยไปหลายก้าว เนื้อหนังปริแตก หยั่งเชิงง่ายๆ หนึ่งครั้ง ฟางผิงก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบแล้ว
—
“ยังไงฟางผิงก็เพิ่งขั้นหกตอนกลาง…”
ในกลุ่มคนนั้น รัฐมนตรีหวังถอนหายใจ
ฟางผิงฝีมือแข็งแกร่งมากงั้นเหรอ?
แข็งแกร่งมาก!
ขั้นหกตอนกลางคนหนึ่งเทียบกับผู้ที่หลอมสารจิงกับเลือดแล้ว ความแตกต่างแบบนี้ห่างไกลกันเกินไป
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงฝั่งตรงข้ามของฟางผิงเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อไร้คู่ต่อสู้ในขั้นหกทั้งทวีปยุโรปและอเมริกา
ภายใต้การโจมตีหนึ่งครั้ง ฟางผิงไม่ได้ถูกฟันตาย แค่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ นี่ถือเป็นมาตรฐานของขั้นหกแนวหน้าแล้ว
ฟางผิงที่กระดูกทองและหลอมกึ่งร่างทองสำเร็จ ฝีมือไม่ด้อยไปกว่าขั้นหกสูงสุด แต่ความได้เปรียบของฟางผิงไม่ได้อยู่ตรงนี้
สิ้นเสียงของรัฐมนตรีหวัง หลายคนก็พยักหน้า
ฟางผิงแข็งแกร่งจริงๆ แข็งแกร่งจนเหนือความคาดหมายอยู่บ้าง แต่เขาไม่ได้ใช้พลังจิตใจตัวเอง
อาศัยแค่ปราณและร่างกายต่อต้านยอดฝีมือที่ไร้คู่ต่อสู้ในขั้นหกคนนี้ ความแตกต่างช่วงเล็กๆ นี้ก็แข็งแกร่งกว่าที่ทุกคนคาดไว้แล้ว
แต่โรซิธไม่ใช่ขั้นหกทั่วไป หากฟางผิงหวังจะอาศัยร่างกายและปราณเพื่อเอาชนะอีกฝ่าย นั่นเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ในฝูงชน หยางเฮ่อจ้องมองฟางผิง
แข็งแกร่งมากจริงๆ!
น่าเสียดาย เปิดเผยความสามารถออกมาจนหมด!
หากไม่เย่อหยิ่งอวดดีตั้งแต่แรก ถูกคนประจบแบบนั้นจนลืมตัวก็คงไม่ถึงกับถูกยอดฝีมือจากแดนเทพปรกรณัมหมายหัวตั้งแต่รอบแรกหรอก
ตอนที่พลังจิตใจปรากฏถ่อมตัวหน่อย ไม่ทำให้เรื่องราวใหญ่โต ยอดฝีมืออย่างโรซิธคงไม่สนใจเขา ฆ่าเขายังกลัวจะสิ้นเปลืองโอกาสท้าประลองด้วยซ้ำ
ตระกูลหยางรู้ว่าฟางผิงมีพรสวรรค์ล้ำหน้าคนอื่น หยางเฮ่อไม่อยากสร้างความลำบากใจกับฟางผิงเช่นกัน หรือจะพูดว่าฟางผิงไม่ถึงระดับสูง ยังไม่เข้าตาเขาจริงๆ
แต่ฟางผิงช่วงชิงสินสงครามของพี่ใหญ่ไป หากผู้อาวุโสยังอยู่ตรงนี้ ตระกูลหยางอาจไม่จำเป็นต้องสนใจเรื่องพวกนี้เสมอไป ขั้นสุดยอดอยู่ นั่นก็คือรากฐาน มีขั้นเก้าหนึ่งคนหรือน้อยไปหนึ่งคนจะยังไงได้อีก?
หยางเฮ่อมองดูอย่างเงียบๆ หางตาชำเลืองมองซูเฮ่าหรานแวบหนึ่ง คนของเมืองเจิ้นซิงนับวันก็โง่ลงเรื่อยๆ
เขาใช้ข้ออ้างเรื่องอาวุธวิเศษขั้นเก้าสร้างความลำบากใจให้ฟางผิง หรือคิดว่าจะเพื่ออาวุธวิเศษขั้นเก้าชิ้นเดียวจริงๆ?
ร่างของผู้อาวุโสและแหวนเก็บของอยู่ในมือฟางผิง นั่นถึงจะเป็นสิ่งที่เขาต้องการ เป็นสิ่งที่จะทำให้ตระกูลหยางเชิดหน้าชูตาได้อีกครั้ง
น่าเสียดาย เรื่องนี้ไม่อาจบอกให้คนอื่นได้ กระทั่งหยางชิงด้วยเช่นกัน
เรื่องเกี่ยวพันกับขั้นสุดยอด ถ้าถูกคนนอกล่วงรู้ หยางเต้าหงมีชีวิตอยู่ยังดี ตระกูลหยางมียอดฝีมือขั้นเก้า แม้ขั้นสุดยอดคนอื่นจะใจสั่นคลอนก็ต้องคำนึงถึงบางเรื่อง ทำได้แค่ให้คนตระกูลหยางสืบทอดต่อ
แต่ตอนนี้เขาเพิ่งอยู่ขั้นแปด ตระกูลหยางไม่สามารถฝึกวิชาดูดซับทุกสิ่งได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ให้กำเนิดขั้นสุดยอดใหม่อีกครั้ง
หยางเฮ่อไม่จำเป็นต้องคิดก็รู้ว่าหากเรื่องเผยแพร่ออกไป คงไม่มีใครจะสนับสนุนตระกูลหยางให้สืบทอดของพวกนี้ต่อ มีแต่จะเลือกขั้นเก้าสักคนไปสืบทอดเส้นทางขั้นสุดยอดของผู้อาวุโสเท่านั้น
เมืองเจิ้นซิงมีขั้นเก้าไม่น้อย รัฐบาลก็มีอีกกองใหญ่ จะมาถึงมือเขาได้ยังไง อย่างมากให้ผลประโยชน์เขานิดหน่อยก็นับว่าปลอบโยนแล้ว
“น่าเสียดาย ฉันและชิงเอ๋อร์เตะตาเกินไป ไม่สามารถตามเข้าไปฆ่าเขาในถ้ำใต้ดินได้ ไม่นานจะถูกคนรับรู้ อยากจะช่วงชิงร่างของผู้อาวุโสและแหวนเก็บของ…มีแค่ต้องหาโอกาส หาข้ออ้างเท่านั้น”
“เขาแข็งแกร่งแล้ว หยางมู่และหยางเฟิงอาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเสมอไป น่าชัง!”
“ไม่งั้น ฆ่าเขา…ฉันค้นจากศพของเขาอาจจะเจอแหวนเก็บของก็ได้”
หยางเฮ่อคิดวุ่นวายในใจ ตระกูลหยางสองคนนั้นมองฟางผิงด้วยแววตาเป็นปฏิปักษ์อยู่ตลอด แม้พวกหลี่เต๋อหย่งจะเตือนหลายครั้ง หยางเฮ่อก็ไม่มีทีท่าจะห้ามปรามอะไร
เหตุผลง่ายๆ เขาอยากยั่วโมโหฟางผิง
ถ้าหาก…ถ้าหากฟางผิงถูกยั่วโมโหจนพลั้งปากออกมา ถึงกระทั่งลงมือกับเขา งั้นเขาก็สามารถฆ่าฟางผิงได้อย่างโจ่งแจ้งแล้ว
ส่วนให้ฟางผิงเป็นฝ่ายส่งออกมาเอง กระทั่งอาวุธวิเศษขั้นเก้าเจ้าหมอนั่นยังไม่ยินดีจะส่งออกมา จะยินยอมมอบร่างและสมบัติของผู้อาวุโสออกมาได้ยังไง?
เดิมทีเขาคิดทุกอย่างไว้หมดแล้ว แต่ตอนนี้…หยางเฮ่อชำเลืองตามองหลี่ฉางเซิงที่อยู่ด้านข้างราวกับรูปปั้น
น่าชัง!
การแข่งขันผู้ฝึกยุทธ์หนุ่มสาว นึกไม่ถึงว่ามหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้จะส่งคนมาด้วย ทั้งไม่ใช่ขั้นเจ็ดคนอื่น แต่เป็นหลี่ฉางเซิงที่หลอมหมื่นวิถีเป็นหนึ่ง แม้เจ้าหมอนี้จะเป็นสินค้าสิ้นเปลืองครั้งเดียว แต่พลังต่อสู้ก็ไม่อ่อนด้อยเหมือนกัน
——————
………………..

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน