ตอนที่ 94 ฉินเฟิ่งชิงรนหาที่ตาย (2)
แม้จะเป็นแบบนี้ ถังซงถิงกลับไม่รู้สึกว่าเขาเอาชนะฟู่ชางติ่งได้เลย
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คิดจะปล่อยให้อีกฝ่ายดูแคลน เห็นฟู่ชางติ่งเดินผ่านไปโดยที่ไม่เหลือบมองเขาสักนิด ถังซ่งถิงแค่นเสียงว่า “งั้นมาคอยดูเถอะ!”
“จะรอดู!”
ฟู่ชางติ่งไม่ได้ใส่ใจอีกฝ่ายอยู่แล้ว ตอนสอบเกาเข่า เขาเพิ่งจะทะลวงเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ยังไม่ได้หลอมกระดูก ช่วงเวลาปิดเทอม เขาหลอมกระดูกขาขวาเสร็จสิ้น ขาซ้ายคงอีกไม่นานเช่นกัน
ส่วนถังซงถิง เวลานั้นเพราะอยากกลายเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ยังไม่ทันหลอมกระดูกครั้งที่สองก็รีบทะลวงด่านก่อนแล้ว แม้จะหลอมร่างกายซีกหนึ่งไปแล้ว แต่ฟู่ชางติ่งกลับไม่คิดว่านั่นเป็นเรื่องใหญ่อะไร
ความจริงครั้งนี้มหาวิทยาลัยมีผู้ฝึกยุทธ์ห้าสิบสองคน ผู้ฝึกยุทธ์ที่หลอมกระดูกครั้งที่สองแล้วมีไม่ถึงสิบคนเท่านั้น ถึงกระทั่งอาจจะน้อยกว่า!
ทั้งหลังจากหลอมกระดูกครั้งที่สองแล้ว จะหลอมกระดูกอีกซีกหนึ่ง คนแบบนี้นับว่ามีน้อยมาก ฟู่ชางติ่งไม่กลัวอยู่แล้ว
คำพูดกระทบกระทั่งของทั้งสองฝ่าย คนอื่นๆ ต่างได้ยินทั่วกัน
แต่พวกเขาแค่ไม่แสดงท่าทีอะไร รอดูแค่เรื่องสนุกเท่านั้น ทั้งยังถือโอกาสให้ความสนใจฟู่ชางติ่งและถังซงถิงไว้เป็นพิเศษ
สองคนนี้ คนหนึ่งพักอยู่ห้องแปด อีกคนพักอยู่ห้องสิบห้า เป็นผู้ฝึกยุทธ์ทั้งคู่
ห้องห้าสิบอันดับแรก อันที่จริงระดับไม่ต่างกันมาก ทุกคนต่างเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ไม่ได้ทดสอบการต่อสู้
เกณฑ์แบ่งห้องที่แท้จริง ดูจากคะแนนวิชาวัฒนธรรมและด้านอื่นๆ ซึ่งไม่ได้มีความหมายอะไร
เป็นผู้ฝึกยุทธ์เหมือนกัน แต่คะแนนวัฒนธรรมสูงกว่า ต้องถูกจัดให้อยู่อันดับแรกๆ อยู่แล้ว
นักศึกษาที่อยู่ห้องหนึ่ง ตอนที่ต่อสู้กันจริงๆ อาจจะไม่ได้แข็งแกร่งกว่านักศึกษาที่อยู่ห้องห้าสิบเสมอไป
ส่วนหลังจากห้องห้าสิบ มีผู้ฝึกยุทธ์และคนที่หลอมกระดูกครั้งที่สองแล้วเช่นกัน แต่นักศึกษาพวกนี้ล้วนเป็นคนที่เพิ่งทะลวงเป็นผู้ฝึกยุทธ์ไม่นาน ไม่ก็เป็นคนที่หลอมกระดูกครั้งที่สองแล้ว แต่ยังไม่ได้ทะลวงด่าน
แม้ตำแหน่งจะไม่ต่างกับผู้ฝึกยุทธ์มากมาย แต่เมื่อปะมือกันจริงๆ พวกเขายังคงด้อยกว่าผู้ฝึกยุทธ์อยู่บ้าง
ท่ามกลางอัจฉริยะในมหาวิทยาลัย ทุกคนต้องให้ความสนใจกับคนที่เหนือกว่าอัจฉริยะอยู่แล้ว ฟางผิงพักอยู่ห้องแปดสิบหก รั้งท้ายไปหน่อย คนจึงไม่สนใจเขานัก
ฟางผิงชอบแบบนี้เช่นกัน ตอนนี้อวดตัวไปไม่มีประโยชน์อะไร รังแต่จะเปลืองน้ำลายเท่านั้น
พวกเขาควรจะแสดงความสามารถต่อหน้าอาจารย์มากกว่า นี่ถึงจะทำให้พวกเขาได้รับการจัดสรรทรัพยากรจากมหาวิทยาลัย ดึงผลประโยชน์มาจากอาจารย์เหล่านั้นได้!
เห็นได้ชัดว่า นักศึกษาของที่นี่แทบไม่มีคนโง่เลย ถังซงถิงเป็นหนึ่งในนั้น
ก่อนหน้านี้ที่ท้าทายอีกฝ่าย เพราะความคุ้นชินเท่านั้น เขาและฟู่ชางติ่งเป็นศัตรูกันมาหลายปี พอเห็นอีกฝ่ายเลยพลั้งเผลอไปหน่อย
พอฟู่ชางติ่งจากไปแล้ว ถังซงถิงก็ไม่สาวความอะไรอีก เดินลงตึกไปอย่างเงียบเชียบ
คนอื่นๆ เห็นว่าไม่มีเรื่องสนุกแล้ว ต่างพากันทยอยไปรวมตัวที่สนามฝึกหมายเลขหนึ่ง
—
สนามฝึกหมายเลยหนึ่ง
สนามฝึกของมหาวิทยาลัยกว้างอย่างมาก มีที่นั่งสำหรับผู้ชมด้วยเช่นกัน
พวกนักศึกษาใหม่อย่างฟางผิงไม่ทันมาถึง ผู้เข้าชมกลับมานั่งกันไม่น้อยแล้ว มีทั้งอาจารย์และนักศึกษาปะปนกันไป
คล้อยหลังนักศึกษาใหม่สองสามคนที่เพิ่งมาถึง บนที่นั่งของผู้ชมก็มีเสียงคนหัวเราะพูดคุยกันขึ้นมาทันที
“ปีก่อนพวกเราเป็นตัวตลกให้คนอื่นดู ปีนี้ถือว่ามาสัมผัสประสบการณ์นั้นบ้าง รู้สึกดีจริงๆ เลย”
“หุบปากไปเลย อีกเดี๋ยวตั้งใจดูเมล็ดพันธ์ชั้นยอดให้ดี มีคนที่พอจะดึงเข้าชมรมได้บ้างหรือเปล่า”
คนที่พูดก่อนหน้านั้นบุ้ยไปยังกลุ่มคนที่อยู่ไม่ไกล
“คนของสมาคมผู้ฝึกยุทธ์ก็มาเหมือนกัน เมล็ดพันธุ์พวกนั้นตกไม่ถึงมือเราหรอก คงจะได้ของเหลือหลังจากที่พวกเขาเลือกเสร็จแล้วมากกว่า”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน