ตอนที่ 96 วิธีทำตัวเด่นที่ถูกต้อง (2)
หวงจิ่งเห็นว่าพอสมควรแล้ว เวลานี้จึงเอ่ยขึ้นว่า “วันนี้คาดว่าทุกคนจะทำความรู้จักกันแล้ว…”
หลายคนเผยสีหน้าขุ่นเคืองออกมา รู้จักใครที่ไหนกัน มีแค่เจ้าหน้าไม่อายสองคนนี้น่ะสิ ชื่อคณบดียังแทบจะลืมไปแล้ว
หวงจิ่งไม่สนใจพวกเขาอีก เอ่ยต่อ “ในเมื่อเป็นแบบนี้ พิธีเข้าเรียนใหม่คงต้องสิ้นสุดตรงนี้ พรุ่งนี้จะแบ่งสาขาและอาจารย์! นักศึกษาทุกคนจำบทเรียนของวันนี้ไว้ให้ดี คนที่มาสายหรือไม่มาหักสามสิบคะแนน!”
วันนี้หักยี่สิบคะแนน พรุ่งนี้หักสามสิบคะแนน รวมกันสองครั้ง คะแนนคงหมดเกลี้ยงแล้ว ใครจะไปกล้าทำผิดกัน
ก่อนทะลวงด่านมีทรัพยากรให้มากมาย แต่คุณต้องแย่งชิงเอาเอง ไม่งั้นทรัพยากรฟรีๆ คงไม่มีเหลือให้
หวงจิ่งพูดจบ ก็ไม่รั้งตัวอยู่นาน หมุนกายเดินจากไปทันที
อาจารย์คนอื่นๆ จำนักศึกษาที่ตัวเองต้องให้ความสนใจในวันพรุ่งนี้แล้ว ไม่คิดชักช้าอีก ต่างทยอยแยกย้ายกันไป
อาจารย์ที่อยู่บนเวที ต่างแข็งแกร่งกันทั้งนั้น ในนี้อย่างต่ำที่สุดคือขั้นห้า สูงที่สุดคือขั้นหกตอนปลาย
ส่วนที่นั่งผู้ชมล่างเวที มีปะปนกันไป อาจารย์ส่วนหนึ่งอยู่ขั้นสี่แทบทั้งหมด
คนบนเวทีไปแล้ว พวกอาจารย์ที่อยู่ล่างเวทีกลับไม่รอดูการต่อสู้ของพรุ่งนี้ หลายคนเลือกที่จะเดินเข้าไปในสนามต่อ
—
“นักศึกษาฟางผิง ฉันหลี่เย่าหวา อาจารย์สอนเด็กใหม่สาขายุทโธปกรณ์ อยู่ขั้นสี่ตอนปลาย ใกล้จะทะลวงขั้นห้าแล้ว..”
พอการแสดงความสามารถสิ้นสุดลง ฟางผิงก็ได้รับคำเชิญชวนจากอาจารย์ทันที
ฟางผิงที่หลอมกระดูกครั้งที่สามแล้ว ไม่ว่าความสามารถด้านต่อสู้จะเป็นยังไง ล้วนคุ้มค่าให้พวกเขาลงทุนอยู่ดี
“พรุ่งนี้ตอนแบ่งอาจารย์ นายเลือกฉันได้ แน่นอนว่าพลังของฉันอาจด้อยกว่าอาจารย์บนเวทีคนอื่นอยู่เล็กน้อย แต่พวกเขาไม่ใช่อาจารย์ที่ดูแลเด็กใหม่อย่างเดียว ส่วนมากมีลูกศิษย์แล้วทั้งนั้น อย่างน้อยมีเกือบแปดเก้าคน มากสุดประมาณสิบกว่าคน ฉันไม่เหมือนกัน ปีก่อนฉันเพิ่งมาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ช่วงต้นปีออกไปทำภารกิจตลอด เพิ่งกลับมามหาวิทยาลัย…”
อาจารย์ที่ชื่อหลี่เย่าหวาคนนี้พูดด้วยความจริงใจอย่างมาก เขาไม่เคยรับลูกศิษย์คนไหนมาก่อน ปีนี้ถือเป็นครั้งแรก
ใกล้จะทะลวงขั้นห้า ความสามารถไม่ด้อยเลยทีเดียว
ฟางผิงขึ้นชื่อว่าเป็นลูกศิษย์กลุ่มแรกของเขา หากตัดสินใจไปอยู่กับเขา เท่ากับว่าเป็นศิษย์สายตรง สิทธิพิเศษประโยชน์ต่างๆ แทบไม่ต้องคิด
ผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลางคนหนึ่งพูดอย่างจริงใจว่าอยากรับเขาเป็นลูกศิษย์ อันที่จริงฟางผิงซาบซึ้งใจอยู่บ้าง
แต่ความซาบซึ้งใจมันกินไม่ได้ ขั้นสี่ก็คือขั้นสี่ ขั้นหกก็คือขั้นหก
ทั้งก่อนหน้านี้อีกฝ่ายยังไม่เคยสอนใครมาก่อน ฟางผิงไม่กล้ารับปากจริงๆ
เขาปฏิเสธคำเชิญชวนของอาจารย์คนนี้อย่างสุภาพ แม้หลี่เย่าหวาจะเสียดายอยู่บ้าง กลับไม่คิดดึงดัน เขาไปเจรจากับผู้ฝึกยุทธ์ที่หลอมกระดูกครั้งที่สองคนหนึ่งต่อ
เรื่องรับลูกศิษย์ ทุกคนต้องพอใจทั้งสองฝ่าย เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน
ฝืนรับคนเข้ามาเป็นลูกศิษย์ ไม่ใช่แค่เรื่องการลงทุน แต่ยังอาจสร้างปัญหาให้ตัวเองด้วย พวกอาจารย์ไม่คิดจะทำเรื่องลำบากแบบนี้เช่นกัน
เห็นมีอาจารย์เข้ามาอีกคน ฟางผิงและฟู่ชางติ่งต่างสบตากัน ก่อนจะรีบเดินออกไปข้างนอก เมื่อครู่ก็มีอาจารย์มาเสนอเงื่อนไขกับฟู่ชางติ่งเหมือนกัน
—
ออกมาจากสนามฝึกแล้ว ฟู่ชางติ่งค่อยถอนหายใจ เอ่ยว่า “พวกเราต้องเข้าสาขายุทโธปกรณ์! สถานการณ์ปีนี้ฉันสืบมาละเอียดแล้ว อาจารย์ในรุ่นนี้ คนที่แข็งแกร่งที่สุดคืออาจารย์ถังเฟิง เขาเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นหกตอนปลาย คนขนานนามเขาว่า ‘ราชสีห์คลั่ง’ พอเข้าสู่การต่อสู้จะโหดเหี้ยมอย่างถึงที่สุด ชำนาญเคล็ดวิชาต่อสู้ด้วยมือและขา อ่อนด้านอาวุธเล็กน้อย นอกจากนี้อาจารย์ที่ระดับเดียวกับเขายังมีอาจารย์หลัวอี้ชวน เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน อาจารย์หลัวชำนาญการใช้หอก ไม่ใช่อาวุธร้อน แต่เป็นอาวุธเย็น ‘หอกตระกูลหลัว’ นั้นมีชื่อเสียงในโลกผู้ฝึกยุทธ์เช่นกัน”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน