ตอนที่ 1639 เพื่อนพาซวย
อารมณ์ของสือซวนและจางหยู เหมือนจะสลับกัน เมื่อรับรู้ได้ถึง
ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมานั้น จางหยูก็เริ่มรู้สึกได้ถึงความสำเร็จ
เขารู้สึกว่าเขาเข้าใกล้ขั้น 8 มากขึ้นเรื่อย ๆ บางทีเขาอาจจะไปถึงขั้น
นั้นได้ !
สือซวนเริ่มกลัวขึ้นมา การเผชิญหน้ากับจางหยูทำให้เขากังวลจน
เหงื่อตก !
นี่คือช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับ จางหยู สือซวนนั้นแข็งแกร่ง
เพียงพอ เขาไม่จำเป็นต้องยั้งมือ ที่สำคัญกว่านั้นคือสือซวนไม่ได้
แกร่งกว่าเขาเลย ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นว่าจะเป็นฝ่ายที่ต้องเจ็บตัว
สุดท้ายจางหยูก็ไม่อาจจะหยุดตัวเองได้และสู้กับสือซวนอยู่หลายวัน
เขายังรับมือกับสือซวนได้อย่างเยือกเย็น จนตอนนี้ใบหน้าของ สือ
ซวนเต็มไปด้วยบาดแผล
“หยุด หยุดได้แล้ว” เมื่อเห็นว่าการโจมตีของจางหยูดุดันขึ้นมาเรื่อย ๆ
สือซวนก็ต้องตะโกนขึ้นมา แม้ว่ามันยากจะรับได้แต่สือซวน ก็ต้อง
ยอมรับว่าจางหยูนั้นแกร่งกว่าเขา แม้แต่หลินหลางก็ยังไม่ทำให้เขา
รู้สึกกดดันรึอ่อนแอได้แบบนี้
สือซวนรีบเว้นระยะห่างและพูดขึ้น “น้องชาย ข้าน่ะยินดีประมือกับ
เจ้าเพื่อการเรียนรู้ แต่เจ้าคงไม่คิดจะปลิดชีวิตข้าหรอกนะ ?”
ไม่รู้ว่าคำเรียกสหายน้อยเปลี่ยนมาเป็นน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่ มันดู
สนิทกันขึ้นมา
นี่เพราะความแข็งแกร่งที่จางหยู ได้แสดงออกมา !
จางหยูยังไม่หนำใจแต่เมื่อได้ยิน สือซวนพูดแบบนั้นเขาก็ได้แต่หยุด
มือ “ท่านเองก็แข็งแกร่ง หากไม่สู้จนจบก็คงตัดสินไม่ได้ว่าใครจะ
ชนะรึแพ้”
“เจ้าดูบาดแผลข้ากับดูตัวเจ้าเองสิ เจ้าว่ายังไม่รู้ผลอีกรึ ?” สือซวน
กรอกตาใส่โดยไม่สนใจภาพลักษณ์ของตัวเอง “ข้าไม่รู้ว่าทำไมเจ้า
ถึงปิดบังความแข็งแกร่งของเจ้าเอาไว้แต่ข้ายืนยันความแข็งแกร่งของ
เจ้าได้แล้วว่าสูงกว่าข้า เจ้าแกร่งกว่า หลินหลางและจาฮานด้วยซ้ำ”
เขาเคยประมือกับทั้งสองคนมาก่อน แต่หลินหลางและจาฮานนั้น
ได้เปรียบเขาเล็กน้อยไม่อาจทำให้เขากดดันได้แบบจางหยู
“ท่านสือชมเกินไปแล้ว” จางหยูถ่อมตัว
“อย่าเรียกข้าว่าท่านเลย เจ้าเรียกข้าว่าผู้เฒ่าก็พอแล้ว”
“มัน…จะไม่ดูเป็นการไม่เคารพรึ ?”
“เจ้าดูถูกข้ารึไง ?” สือซวนเบิกตากว้าง
“ไม่ใช่เช่นนั้น” จางหยูมองไปที่สือซวน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายแสดงท่าที
จริงจังออกมาเขาก็ตะโกนขึ้น “ได้ ผู้เฒ่าสือ”
สือซวนยิ้มออกมาอย่างพอใจและพูดขึ้น “น้องชาย เราได้เรียนรู้กัน
แล้ว ข้าไม่รู้ว่าเจ้ามีแผนการอะไรต่อ ?”
จางหยูเหมือนจะยังไม่หนำใจและอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา “เจ้าพัก
ก่อน เมื่อเจ้าฟื้นฟูแล้วเรามาประมือกันอีกดีรึไม่ ?”
นี่คือการฝึกที่ดี มันคงน่าเสียดายที่จะพลาดโอกาสนี้ไป
“ไม่ !” สือซวนรีบพูดขึ้นมา “ข้าเดาว่าข้าคงหายไม่ทัน เจ้าควรจะไป
ประมือกับคนอื่นจะดีกว่า”
“เจ้าบาดเจ็บหนักขนาดนั้นเลยรึ ?” จางหยูแสดงสีหน้าสงสัยออกมา
เขายังไม่ใช้พลังทั้งหมดและไม่คิดว่าสือซวนจะบาดเจ็บหนัก
สือซวนเงียบไปชั่วครู่และพูดขึ้น “ข้าน่ะแก่แล้ว ข้าไม่อาจจะสู้นาน ๆ
ได้ ข้าเดาว่าคงต้องพักฟื้นอีกนาน….”
นี่คือคำโกหกที่ไม่ว่าจะเป็นใครก็มองออก !
ผู้ควบคุมขั้น 7 นั้นสามารถสร้างร่างใหม่ขึ้นมาตอนไหนก็ได้ ถ้า
ร่างกายนั้นแก่เกินไปแล้วทำไมไม่สร้างร่างใหม่ขึ้นมา ?
จางหยูเข้าใจว่าสือซวนแก้ตัว เขาเองก็เสียดายและพูดขึ้น “น่าเสียดาย
จริง ๆ ข้าคงได้แต่หาคนอื่นมาประมือด้วย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะดีเท่ากับ
สือซวนรึไม่ หากอีกฝ่ายไม่ตกลงแล้วปฏิเสธข้า ข้าจะทำยังไง ?”
สือซวนถามขึ้นมา “เจ้าอยากเรียนรู้จากยอดฝีมือรึ ?”
“ใช่ ยิ่งเป็นผู้ควบคุมขั้น 7 ที่แข็งแกร่งเท่าไหร่ก็ยิ่งดี”
“ข้ารู้จักสองคนที่เหมาะที่จะประมือกับเจ้า”
“ใครกัน ?”
“หลินหลางกับจาฮาน” สือซวนแสดงสีหน้าจริงจังออกมา “พวกเขา
คืออันดับหนึ่งและสองของผู้ควบคุมขั้น 7 ของโลกนี้ พวกเขาแกร่ง
กว่าข้า แม้แต่กับเจ้าแล้ว มันก็ไม่ได้ด้อยกว่ามาก ข้าคิดว่าพวกเขา
เป็นตัวเลือกที่ดี”
“แต่ข้าไม่รู้จักพวกเขา พวกเขาจะตกลงรึ ?”
“ง่าย ๆ” สือซวนเหมือนจะตื่นเต้นขึ้นมา “ข้ารู้จักทั้งสองคน แม้ว่าจะ
ไม่ได้สนิทกันนักแต่ตราบใดที่ข้าเอ่ยปาก พวกนั้นก็น่าจะไว้หน้าข้า
บ้าง ข้าจะคุยกับพวกนั้นแทนเจ้าเอง พวกนั้นคงไม่ปฏิเสธ”
จางหยูตาเป็นประกายขึ้นมา “จริงรึ ?”
สือซวนพยักหน้าและแทบสาบานออกมา “เชื่อข้าเถอะ ไม่มีปัญหา
อย่างแน่นอน”
“เราไปกันเลย” จางหยู ไม่อาจจะรอได้อีก
สือซวนอันดับสามยังแข็งแกร่งได้ขนาดนี้ หลินหลางและจาฮานที่
เป็นอันดับหนึ่งและสองจะแข็งแกร่งขนาดไหน?
เขาต้องการคู่มือแบบนั้น !
เขารู้สึกว่าห่างจากขั้น 8 แค่ก้าวเดียว บางทีหากได้สู้กับอีกคนรึสอง
คนเขาอาจจะขึ้นไปถึงขั้น 8 ได้จริง ๆ !
เมื่อเห็นท่าทีตื่นเต้นของจางหยู สือซวนก็เริ่มรู้สึกสงสารหลินหลาง
และจาฮานขึ้นมาแต่การที่ทั้งสองต้องเจ็บตัวก็ดีกว่าการที่เขาต้องมา
เจ็บตัวเอง
เขาต้องให้คนอื่นมาแบ่งปันแรงกดดันนี้แน่นอนว่าสองคนนั้นคือ
ตัวเลือกที่ดีที่สุด !
“ได้ ข้าจะพาเจ้าไปพบกับจาฮาน แล้วค่อยไปหาหลินหลาง” สือซวน
พูดขึ้นพร้อมกับคิดภาพที่ทั้งสองโดนรังแก มันรู้สึกราวกับว่าได้แก้
แค้น
ตอนที่เขาโดนสองคนนั่นอัดมาก็เจ็บไม่ใช่น้อย ตอนนี้ได้เวลาที่จะ
เอาคืน ทั้งสองจะได้รู้สึกสักทีว่าเขารู้สึกยังไง
เมื่อคิดได้แบบนั้นสือซวนก็ยิ่งอดใจรอไม่ไหว
หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจ สือซวนก็ได้สร้างเส้นทางขึ้นมาพาดตัดท้องฟ้า
ไปก่อนจะเดินทางออกไปโดยมีจางหยู, ซางอี๋ว์และอู๋ยงตามมาติด ๆ
พวกคนที่อยู่รอบภูเขาลั่วเสียพากันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“จบสักที”
“แต่ชายคนนั้นแข็งแกร่งจนรับมือกับท่านสือซวนได้นานแบบนี้”
“ความแข็งแกร่งนั้นเพียงพอจะอยู่ 10 อันดับแรกได้เลยไม่ใช่รึ ?”
“ไม่รู้ว่าชายคนนั้นเป็นใครกัน…”
ไม่มีใครรู้ความจริงระหว่างจางหยูและสือซวน แม้แต่ซางอี๋ว์และอู๋
ยงเองก็ไม่รู้ แต่ทั้งสองรู้สึกได้ว่าท่าทีของสือซวนที่มีต่อจางหยูนั้น
เหมือนจะดูเป็นกันเองมากขึ้น
สือซวนที่แต่เดิมแล้วเหมือนเหินห่างกลับดูเป็นกันเองมากขึ้น ราว
กับเปลี่ยนเป็นคนละคน
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?”
“ใครกันที่ชนะ ?”
“ทำไมท่าทีของท่านสือซวนถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนี้ ?”
ซางอี๋ว์และอู๋ยงพากันสับสนและสงสัย
พวกเขาได้แต่เดาจากท่าทีที่เปลี่ยนไปของสือซวนว่าจางหยูแม้ว่าจะ
รับมือกับสือซวนไม่ได้แต่ก็คงไม่ได้ด้อยกว่ามาก
ทางเหนือของโลกสวรรค์ร้างที่ทุ่งหญ้าโม่เป่ย มันเป็นทุ่งหญ้าขนาด
ใหญ่ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด ในทุ่งหญ้าแห่งนี้มันง่ายที่ทุกคนจะรับรู้ได้
ถึงความยิ่งใหญ่และกว้างขวาง ทุ่งหญ้าแห่งนี้ถูกเรียกว่าทุ่งหญ้าเหนือ
ในทุ่งหญ้าแห่งนี้มีคนอยู่มากมายอาศัยอยู่ร่วมกัน คนเหล่านี้ล้วนแต่
เป็นคนตรงไปตรงมาและชอบการต่อสู้ พวกเขามักจะแก้ปัญหาด้วย
การต่อสู้
ที่แม่น้ำมอร์แกน มีชายวัยกลางคนนั่งอยู่ที่นั่น รอบตัวเขารายล้อมไป
ด้วยพลังแห่งการสร้างก่อตัวเป็นหญ้านับไม่ถ้วนราวกับดาบอันคม
กริบ มันราวกับว่าความคมนั้นสามารถตัดโลกนี้ออกเป็นเสี่ยง ๆ ได้
ตอนนั้นเองชายวัยกลางคนก็ได้เงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้าก่อนจะ
พบกับแสงที่พุ่งมาหาเขา
“สือซวนรึ ?” ชายวัยกลางคนแปลกใจ “เจ้าแก่นั่นมาทำอะไรที่ทุ่ง
หญ้าโม่เป่ยกัน ?”
เขาเคยสู้กับสือซวนมาก่อน จนทำให้เขาโด่งดังขึ้นมาแต่ว่าตั้งแต่ที่สู้
กันครั้งนั้นแล้ว สือซวน ก็ไม่เคยมาที่นี่อีกราวกับว่าที่นี่กลายเป็น
สถานที่ต้องห้ามในใจ ของสือซวนไปแล้ว
“ข้าเพิ่งก้าวหน้าขึ้นมา ข้าจะได้พูดคุยกับเขาและทดสอบความก้าวหน้า
ของข้า” แม้ว่า สือซวนจะแพ้ให้กับเขาแต่เขาก็ไม่คิดสงสัยในความ
แข็งแกร่งของสือซวน นี่คือคู่ต่อสู้ที่คู่ควรสำหรับเขา เขามองขึ้นไป
บนแสงในท้องฟ้าแล้วพูดขึ้น “ข้าขาดคู่มือพอดี เจ้าเฒ่านี่กลับมาหา
ข้าถึงที่ ! ดีจริง ๆ !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก