ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 1727
หลังจากที่ได้ยินที่ฟู่เฉิงบอกถึงเนื้อหาในคัมภีร์ ซุนวูและผู้หญิงคนนั้นก็ต้องคิ้วขมวด
“ สวรรค์พังทลาย…” ซุนวูพึมพำออกมา “ นี่คือเหตุผลที่แท้จริงที่ราชาตะวันออกไม่คิดจะเปิดเผยเนื้อหาในคัมภีร์นี้รึ ?”
ตลอดมาทางวิหารสงสัยเนื้อหาในคัมภีร์อย่างมาก พวกเขาสงสัยว่ามีอะไรบันทึกไว้อยู่ด้านในกันแน่จนแม้แต่ราชาตะวันออกก็ยังไม่ยอมบอกมันกับใคร
เมื่อพวกเขารู้เนื้อหาในคัมภีร์ พวกเขาก็ไม่ได้ดีใจแบบที่คิดไว้ในตอนแรก
อย่างที่ฟู่เฉิงบอกมา เนื้อหานี้ส่งผลเสียต่อวิหารอย่างมากรึอาจจะต่อทั้งโกลาหล มันไม่ใช่ข่าวดีเลยแม้แต่น้อย
“ สวรรค์..” ซุนวูแสดงสีหน้าซับซ้อนออกมา เขามองไปที่ฟู่เฉิงและผู้หญิงอีกคน “ เจ้าบอกว่าโกลาหลนี้มีจ้าวโกลาหลจริงๆรึ?” ตั้งแต่กำเนิดโกลาหลมาผู้คนก็ไม่เคยหยุดสงสัยในเรื่องจ้าวโกลาหล
โกลาหลนั้นมีเจ้าของรึ ?
ถ้าเป็นแบบนั้นเจ้าของอยู่ที่ไหน ? เขาแข็งแกร่งเพียงใด ?
โชคร้ายที่คำตอบของคำถามเหล่านี้ยังไม่ได้เปิดเผย ไม่มีทางที่วิหารจะรู้ได้
“ ข้าไม่รู้” ฟู่เฉิงลังเลและพูดขึ้นมา “ บางที…อาจจะมีอยู่ก็ได้ ?”
ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้น “ มันไม่ใช่เป็นไปได้แต่มีอยู่แน่ๆ”
ฟู่เฉิงตะลึงและมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
ซุนวูเองก็แสดงสีหน้าตะลึงออกมาเช่นกัน “ ทำไมเจ้าถึงมั่นใจเช่นนี้?”
นางมองไปที่ซุนวูและพูดขึ้น “ แม้ว่าข้าจะไม่เคยเห็นจ้าวโกลาหลมาก่อนแต่ข้าเคยเห็นคนที่คล้ายกับจ้าวโกลาหล…”
“ ใครกัน ?” ซุนวูมองไปที่นางพร้อมลมหายใจที่ถี่ขึ้น
ฟู่เฉิงถึงกับกลั้นหายใจ
“ จางหยู” นางพูดออกมาช้าๆ
“ เป็นไปไม่ได้ !” ซุนวูปฏิเสธ “ เจ้าเข้าข้างจางหยูน่ะข้าเข้าใจได้ แต่เจ้าถึงกับเชิดชูเขาขนาดนี้มันไม่มากเกินไปหน่อยรึ ” เขาพูดขึ้นมาอย่างใจเย็น “ คลื่นพลังของจางหยูนั้นข้ารับรู้ได้ เขาคล้ายกับคนที่เพิ่งขึ้นมาขั้นที่ 9…”
นางยังคงแสดงสีหน้าเฉยเมยและพูดขึ้นมา “ นั่นเป็นเพราะเจ้ายังไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา”
ซุนวูส่ายหน้า “ พลังนั่นคือความแข็งแกร่ง แล้วจะมีความแข็งแกร่งที่แท้จริงที่ไหนอีก ? เขาเพิ่งจะทะลวงผ่านขึ้นมา เจ้าเปลี่ยนความจริงที่เขาอยู่ในระดับ 10 เท่าไม่ได้” เขามองไปที่อีกฝ่าย “ ข้ารู้ว่าเจ้าน่ะชื่นชมเขา ข้าเองก็เห็นด้วยกับเจ้าแต่มันมีเรื่องที่เจ้าไม่อาจจะพูดเล่นได้” หากซุนวูเพียงคนเดียวก็อาจจะมองว่ามันอาจผิดพลาดได้ แต่ฟู่เฉิงเองก็ตรวจสอบได้ผลลัพธ์เดียวกัน จางหยูน่ะอยู่แค่ระดับ 10 เท่า
“ สิ่งที่เจ้าเห็นคือสิ่งที่เขาอยากแสดงให้เจ้าดู” นางยังพูดด้วยท่าทีเฉยเมย
“ ข้าคิดว่าเจ้าอาจจะเพ้อไปหน่อย…” ซุนวูส่ายหน้า “ ถึงพูดไปเจ้าก็ไม่สนใจ”
…
ในโกลาหลอันกว้างใหญ่ จางหยูได้ควบคุมพาหนะมิติมุ่งหน้าไปยังเขตหวงห้าม เขาพุ่งผ่านแต่ละเขตอย่างรวดเร็ว
เขาหยุดอยู่ที่ด้านนอกเขตหวงห้ามและมองเข้าไปด้านใน ก่อนที่จะรู้สึกตะลึงในใจ “ ที่นี่คือเขตหวงห้ามรึ ?”
ตั้งแต่ที่เข้ามาในโกลาหล จางหยูก็เพิ่งมาที่เขตหวงห้ามเป็นครั้งแรก เขาเพิ่งเคยเห็นที่นี่เป็นครั้งแรกเช่นกัน
สิ่งที่เรียกว่าเขตหวงห้ามนั้นคือโลกสีเทามันไม่อาจจะรับรู้ถึงพลังชีวิตจากที่นี่ได้ มันน่ากลัวกว่าพื้นที่อื่นๆ มันมีพลังกัดกร่อนที่ทรงพลัง นี่ไม่ต้องพูดถึงผู้ควบคุมทั่วไป แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 ก็ไม่อาจจะทนการกัดกร่อนที่นี่ได้
แม้แต่ส่วนนอกของเขตหวงห้าม จางหยูก็รู้สึกได้ว่าโล่พลังของเขานั้นโดนกัดกร่อนมากกว่าที่อื่นๆ หากเขาอยู่ที่นี่ต่อไป โล่พลังของเขาก็จะพังลงในไม่ช้า
ตามหลักแล้ว เมื่อขึ้นมาถึงขอบเขตกุยหยวน ก็สามารถหลุดออกจากโลกขั้นที่ 9 ได้และต้านทานการกัดกร่อนของโกลาหลได้ จากนั้นก็สามารถเดินทางได้อย่างอิสระ
แต่เขตหวงห้ามนี้คือข้อยกเว้น
มันเหมือนกับโกลาหลที่พัฒนาแล้ว พลังทำลายล้างมันน่ากลัวกว่า
“ อย่าเข้าใกล้ที่นั่น” จ้าวแห่งโลกพันเขตเตือนขึ้นมา “ เขตหวงห้ามอันตรายอย่างมาก มันคือที่ที่ไร้ชีวิต แม้แต่ข้าก็ไม่อาจจะทนพลังของมันได้ พลังกัดกร่อนของส่วนนอกของเขตหวงห้ามนั้นเจ้าคงรู้สึกได้แล้ว แต่ด้านในมีพลังที่น่ากลัวกว่านี้อยู่ แค่พริบตามันจะเพิ่มพลังขึ้นมาเป็นพันเท่ารึหมื่นเท่า…”
จางหยูใจสั่น “ ยังไม่เคยมีใครเข้าไปในเขตหวงห้ามรึ ?”
“ มี” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้น “ และยังมีมากอีกด้วย มันถึงกับมีคนอย่างราชาตะวันออกเข้าไป แต่ทุกคนล้วนตายกันหมด”
จางหยูตกใจ
“ ราชาตะวันออกเคยมาที่นี่มาก่อน” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้นมา “ เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังกัดกร่อนที่ส่วนนอก ราชาตะวันออกก็สลัดความคิดในการสำรวจด้านในต่อ เขาเคยบอกว่าพลังกัดกร่อนด้านในเขตหวงห้ามนี้น่ากลัวเกินไป หากเขาเข้าไปที่นั่น เขาจะตายในทันที”
เขตหวงห้ามคือที่ที่ห้ามย่างกรายเข้าไป !
นี่คือกฎของทั้งโกลาหล !
“ มาสู้กันที่นี่แหละ” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้น
ที่นี่ไม่มีใครอยู่ ไม่ว่าพวกเขาจะสร้างความวุ่นวายแค่ไหนแต่ก็ไม่มีใครรู้
จ้าวแห่งโลกพันเขตทำแบบนี้เพื่อจางหยู ถึงได้เลือกที่แบบนี้ เขากังวลว่าคนนอกจะมาเห็นและทำลายภาพลักษณ์ของ จางหยู
จางหยูพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปหาจ้าวแห่งโลกพันเขต “ มาสิ แสดงให้ข้าดูทีว่าความแข็งแกร่งระดับพันเท่านั้นเป็นยังไง…”
ไม่นานคำตอบก็ถูกเปิดเผยออกมา มันคือความแตกต่างด้านพลังระหว่าง 10 เท่ากับพันเท่า
จ้าวแห่งโลกพันเขตไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกมาเพราะพลังระดับพันเท่านั้นไม่ใช่สิ่งที่คนระดับสิบเท่าจะรับไหว
“ ข้าขอเตือนก่อนว่าข้าจะโจมตีแล้ว ” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้นก่อนจะแผ่แรงกดดันอันน่ากลัวออกมา พลังของผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ในระดับพันเท่า น่ากลัวกว่าผู้ควบคุมขั้น9 ทุกคนที่จางหยูเคยเจอมา เขาถึงกับรู้สึกว่าหายใจได้ลำบากราวกับร่างกายโดนภูเขากดทับ
ด้วยคลื่นพลังที่กระจายออกมา จิตผู้สร้างก็กระจายไปโดยรอบเช่นกัน รอบข้างเริ่มก่อตัวเป็นโลกขึ้นมา
นี่คือพลังระดับพันเท่า แค่เพียงคิดก็สร้างโลกจำลองขึ้นมาได้แล้ว!
สีหน้าของจางหยูแสดงความหนักใจออกมา เขาใช้จิตผู้สร้างทั้งหมดออกมาก่อนที่จิตจะกระจายตัวไปทั่วทุกทิศทาง แต่พลังของเขากับจ้าวแห่งโลกพันเขตนั้นต่างกันอย่างมาก พลังของเขาไม่อาจจะส่งผลต่อโลกจำลองนี้ได้เลย เป็นตัวเขาเองที่ต้องใช้พลังมากกว่าเดิมเป็นหมื่นรึล้านเท่า
ตอนที่จางหยูใจสั่นอยู่นั้น จ้าวแห่งโลกพันเขตก็ได้ยกมือขึ้น ต่อมาโลกจำลองก็ได้แบ่งเป็นสองส่วนโดยมีจางหยูอยู่ตรงกลาง หลังจากนั้นมือทั้งสองข้างของจ้าวแห่งโลกพันเขตก็ประกบเข้าด้วยกันก่อนที่โลกทั้งสองส่วนจะค่อยๆบีบอัดเข้าหากันอย่างช้าๆ และทับจางหยูเอาไว้จนเขารู้สึกได้ถึงแรงกดทับอันน่ากลัว !
“ หากเจ้าไม่อาจจะทนไหวก็บอกมา” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้นด้วยท่าทีสบายใจ
การโจมตีระดับนี้สำหรับเขาแล้วมันก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น มันยังห่างไกลจากขีดจำกัด แต่ใช้จัดการจางหยูแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
จางหยูไม่ได้พูดอะไรออกมา ภายใต้แรงบีบอัดอันน่ากลัวนี้เขารู้สึกว่าการใช้พลังสร้างของเขาพัฒนาขึ้นด้วยความเร็วที่น่าตกใจ ราวกับหลอมรวมกับความเข้าใจ คลื่นพลังของเขาเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องแต่เพราะคลื่นพลังของจ้าวแห่งโลกพันเขตปกปิดมันเอาไว้ จึงไม่มีใครสังเกตุเห็นได้
ร่างของจางหยูเปล่งแสงออกมาราวกับตัวเขากำลังติดไฟ
การรับรู้, คลื่นพลังและจิตวิญญาณของเขาต่างก็ยกระดับขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ตอนที่โลกทั้งสองส่วนบีบอัดเข้าด้วยกัน จางหยูก็ได้ตะโกนออกมาก่อนจะมีมือพลังสร้างก่อตัวขึ้น มือทั้งสองข้างนี้มีขนาดใหญ่อย่างมาก มือนั้นพยายามแหวกโลกทั้งสองออกจากกัน
ตูม ตูม ตูม…
ตอนที่มือนั้นปะทะกับโลก มันก็เกิดการระเบิดและพายุขึ้น
พื้นที่โดยรอบถล่มพร้อมกับพายุพลังงานที่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง
“ หือ” จ้าวแห่งโลกพันเขตแปลกใจ เขาไม่คิดเลยว่าจางหยูจะกันการโจมตีของเขาไว้ได้ นี่ไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่คนที่เพิ่งทะลวงผ่านขั้นที่ 9 ควรจะมี “ ข้าดูถูกเขาไป ”
ตอนที่พูดจบ จางหยูก็ได้เพิ่มจิตผู้สร้างขึ้นไปอีก ตอนนั้นเองพลังสร้างของโลกก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก พลังสร้างโดยรอบน่ากลัวขึ้นตามไป
จางหยูรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าพลังสร้างโดยรอบเพิ่มขึ้นมาหลายเท่า เขาควบคุมมือของตัวเองเข้ารับมือโลกที่บีบอัดเข้ามา มือของเขาสั่นไหวเล็กน้อยภายใต้แรงกดดันนี้ พร้อมกับการระเบิดพลังอันรุนแรงที่ก่อตัวขึ้น การระเบิดแต่ละครั้งนั้นราวกับโลกขั้นที่ 9 สองใบปะทะกันจนเกิดพายุพลังงานขึ้น
เมื่อกดดันจนถึงขีดสุด คลื่นพลัง, การรับรู้และจิตวิญญาณก็พัฒนาขึ้นไปอีก มือผู้สร้างของเขาก็ทรงพลังขึ้นไปด้วย ตอนแรกมือนั้นไม่อาจจะต้านทานได้แต่ผ่านไปสักพักด้วยพลังสร้างที่เพิ่มขึ้นมาก็ทำให้มือพลังของเขารับมือได้
“ กันได้รึ ?” สีหน้าของจ้าวแห่งโลกพันเขตเปลี่ยนไป
ต้องรู้ก่อนว่าการโจมตีครั้งแรกคือขีดจำกัดของระดับ 10 เท่า
การโจมตีครั้งที่สองนั้นคือขีดจำกัดของระดับ 100 เท่า
มันเพิ่มขึ้นมากว่า 10 เท่า ! เขาคิดว่าเขาจะจัดการจางหยูได้แต่ไม่คิดเลยว่าจางหยูกลับรับมือไว้ได้ !
“ สวรรค์พังทลาย…” ซุนวูพึมพำออกมา “ นี่คือเหตุผลที่แท้จริงที่ราชาตะวันออกไม่คิดจะเปิดเผยเนื้อหาในคัมภีร์นี้รึ ?”
ตลอดมาทางวิหารสงสัยเนื้อหาในคัมภีร์อย่างมาก พวกเขาสงสัยว่ามีอะไรบันทึกไว้อยู่ด้านในกันแน่จนแม้แต่ราชาตะวันออกก็ยังไม่ยอมบอกมันกับใคร
เมื่อพวกเขารู้เนื้อหาในคัมภีร์ พวกเขาก็ไม่ได้ดีใจแบบที่คิดไว้ในตอนแรก
อย่างที่ฟู่เฉิงบอกมา เนื้อหานี้ส่งผลเสียต่อวิหารอย่างมากรึอาจจะต่อทั้งโกลาหล มันไม่ใช่ข่าวดีเลยแม้แต่น้อย
“ สวรรค์..” ซุนวูแสดงสีหน้าซับซ้อนออกมา เขามองไปที่ฟู่เฉิงและผู้หญิงอีกคน “ เจ้าบอกว่าโกลาหลนี้มีจ้าวโกลาหลจริงๆรึ?” ตั้งแต่กำเนิดโกลาหลมาผู้คนก็ไม่เคยหยุดสงสัยในเรื่องจ้าวโกลาหล
โกลาหลนั้นมีเจ้าของรึ ?
ถ้าเป็นแบบนั้นเจ้าของอยู่ที่ไหน ? เขาแข็งแกร่งเพียงใด ?
โชคร้ายที่คำตอบของคำถามเหล่านี้ยังไม่ได้เปิดเผย ไม่มีทางที่วิหารจะรู้ได้
“ ข้าไม่รู้” ฟู่เฉิงลังเลและพูดขึ้นมา “ บางที…อาจจะมีอยู่ก็ได้ ?”
ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้น “ มันไม่ใช่เป็นไปได้แต่มีอยู่แน่ๆ”
ฟู่เฉิงตะลึงและมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
ซุนวูเองก็แสดงสีหน้าตะลึงออกมาเช่นกัน “ ทำไมเจ้าถึงมั่นใจเช่นนี้?”
นางมองไปที่ซุนวูและพูดขึ้น “ แม้ว่าข้าจะไม่เคยเห็นจ้าวโกลาหลมาก่อนแต่ข้าเคยเห็นคนที่คล้ายกับจ้าวโกลาหล…”
“ ใครกัน ?” ซุนวูมองไปที่นางพร้อมลมหายใจที่ถี่ขึ้น
ฟู่เฉิงถึงกับกลั้นหายใจ
“ จางหยู” นางพูดออกมาช้าๆ
“ เป็นไปไม่ได้ !” ซุนวูปฏิเสธ “ เจ้าเข้าข้างจางหยูน่ะข้าเข้าใจได้ แต่เจ้าถึงกับเชิดชูเขาขนาดนี้มันไม่มากเกินไปหน่อยรึ ” เขาพูดขึ้นมาอย่างใจเย็น “ คลื่นพลังของจางหยูนั้นข้ารับรู้ได้ เขาคล้ายกับคนที่เพิ่งขึ้นมาขั้นที่ 9…”
นางยังคงแสดงสีหน้าเฉยเมยและพูดขึ้นมา “ นั่นเป็นเพราะเจ้ายังไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขา”
ซุนวูส่ายหน้า “ พลังนั่นคือความแข็งแกร่ง แล้วจะมีความแข็งแกร่งที่แท้จริงที่ไหนอีก ? เขาเพิ่งจะทะลวงผ่านขึ้นมา เจ้าเปลี่ยนความจริงที่เขาอยู่ในระดับ 10 เท่าไม่ได้” เขามองไปที่อีกฝ่าย “ ข้ารู้ว่าเจ้าน่ะชื่นชมเขา ข้าเองก็เห็นด้วยกับเจ้าแต่มันมีเรื่องที่เจ้าไม่อาจจะพูดเล่นได้” หากซุนวูเพียงคนเดียวก็อาจจะมองว่ามันอาจผิดพลาดได้ แต่ฟู่เฉิงเองก็ตรวจสอบได้ผลลัพธ์เดียวกัน จางหยูน่ะอยู่แค่ระดับ 10 เท่า
“ สิ่งที่เจ้าเห็นคือสิ่งที่เขาอยากแสดงให้เจ้าดู” นางยังพูดด้วยท่าทีเฉยเมย
“ ข้าคิดว่าเจ้าอาจจะเพ้อไปหน่อย…” ซุนวูส่ายหน้า “ ถึงพูดไปเจ้าก็ไม่สนใจ”
…
ในโกลาหลอันกว้างใหญ่ จางหยูได้ควบคุมพาหนะมิติมุ่งหน้าไปยังเขตหวงห้าม เขาพุ่งผ่านแต่ละเขตอย่างรวดเร็ว
เขาหยุดอยู่ที่ด้านนอกเขตหวงห้ามและมองเข้าไปด้านใน ก่อนที่จะรู้สึกตะลึงในใจ “ ที่นี่คือเขตหวงห้ามรึ ?”
ตั้งแต่ที่เข้ามาในโกลาหล จางหยูก็เพิ่งมาที่เขตหวงห้ามเป็นครั้งแรก เขาเพิ่งเคยเห็นที่นี่เป็นครั้งแรกเช่นกัน
สิ่งที่เรียกว่าเขตหวงห้ามนั้นคือโลกสีเทามันไม่อาจจะรับรู้ถึงพลังชีวิตจากที่นี่ได้ มันน่ากลัวกว่าพื้นที่อื่นๆ มันมีพลังกัดกร่อนที่ทรงพลัง นี่ไม่ต้องพูดถึงผู้ควบคุมทั่วไป แม้แต่ผู้ควบคุมขั้น 9 ก็ไม่อาจจะทนการกัดกร่อนที่นี่ได้
แม้แต่ส่วนนอกของเขตหวงห้าม จางหยูก็รู้สึกได้ว่าโล่พลังของเขานั้นโดนกัดกร่อนมากกว่าที่อื่นๆ หากเขาอยู่ที่นี่ต่อไป โล่พลังของเขาก็จะพังลงในไม่ช้า
ตามหลักแล้ว เมื่อขึ้นมาถึงขอบเขตกุยหยวน ก็สามารถหลุดออกจากโลกขั้นที่ 9 ได้และต้านทานการกัดกร่อนของโกลาหลได้ จากนั้นก็สามารถเดินทางได้อย่างอิสระ
แต่เขตหวงห้ามนี้คือข้อยกเว้น
มันเหมือนกับโกลาหลที่พัฒนาแล้ว พลังทำลายล้างมันน่ากลัวกว่า
“ อย่าเข้าใกล้ที่นั่น” จ้าวแห่งโลกพันเขตเตือนขึ้นมา “ เขตหวงห้ามอันตรายอย่างมาก มันคือที่ที่ไร้ชีวิต แม้แต่ข้าก็ไม่อาจจะทนพลังของมันได้ พลังกัดกร่อนของส่วนนอกของเขตหวงห้ามนั้นเจ้าคงรู้สึกได้แล้ว แต่ด้านในมีพลังที่น่ากลัวกว่านี้อยู่ แค่พริบตามันจะเพิ่มพลังขึ้นมาเป็นพันเท่ารึหมื่นเท่า…”
จางหยูใจสั่น “ ยังไม่เคยมีใครเข้าไปในเขตหวงห้ามรึ ?”
“ มี” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้น “ และยังมีมากอีกด้วย มันถึงกับมีคนอย่างราชาตะวันออกเข้าไป แต่ทุกคนล้วนตายกันหมด”
จางหยูตกใจ
“ ราชาตะวันออกเคยมาที่นี่มาก่อน” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้นมา “ เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังกัดกร่อนที่ส่วนนอก ราชาตะวันออกก็สลัดความคิดในการสำรวจด้านในต่อ เขาเคยบอกว่าพลังกัดกร่อนด้านในเขตหวงห้ามนี้น่ากลัวเกินไป หากเขาเข้าไปที่นั่น เขาจะตายในทันที”
เขตหวงห้ามคือที่ที่ห้ามย่างกรายเข้าไป !
นี่คือกฎของทั้งโกลาหล !
“ มาสู้กันที่นี่แหละ” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้น
ที่นี่ไม่มีใครอยู่ ไม่ว่าพวกเขาจะสร้างความวุ่นวายแค่ไหนแต่ก็ไม่มีใครรู้
จ้าวแห่งโลกพันเขตทำแบบนี้เพื่อจางหยู ถึงได้เลือกที่แบบนี้ เขากังวลว่าคนนอกจะมาเห็นและทำลายภาพลักษณ์ของ จางหยู
จางหยูพยักหน้าก่อนจะหันกลับไปหาจ้าวแห่งโลกพันเขต “ มาสิ แสดงให้ข้าดูทีว่าความแข็งแกร่งระดับพันเท่านั้นเป็นยังไง…”
ไม่นานคำตอบก็ถูกเปิดเผยออกมา มันคือความแตกต่างด้านพลังระหว่าง 10 เท่ากับพันเท่า
จ้าวแห่งโลกพันเขตไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดออกมาเพราะพลังระดับพันเท่านั้นไม่ใช่สิ่งที่คนระดับสิบเท่าจะรับไหว
“ ข้าขอเตือนก่อนว่าข้าจะโจมตีแล้ว ” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้นก่อนจะแผ่แรงกดดันอันน่ากลัวออกมา พลังของผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ในระดับพันเท่า น่ากลัวกว่าผู้ควบคุมขั้น9 ทุกคนที่จางหยูเคยเจอมา เขาถึงกับรู้สึกว่าหายใจได้ลำบากราวกับร่างกายโดนภูเขากดทับ
ด้วยคลื่นพลังที่กระจายออกมา จิตผู้สร้างก็กระจายไปโดยรอบเช่นกัน รอบข้างเริ่มก่อตัวเป็นโลกขึ้นมา
นี่คือพลังระดับพันเท่า แค่เพียงคิดก็สร้างโลกจำลองขึ้นมาได้แล้ว!
สีหน้าของจางหยูแสดงความหนักใจออกมา เขาใช้จิตผู้สร้างทั้งหมดออกมาก่อนที่จิตจะกระจายตัวไปทั่วทุกทิศทาง แต่พลังของเขากับจ้าวแห่งโลกพันเขตนั้นต่างกันอย่างมาก พลังของเขาไม่อาจจะส่งผลต่อโลกจำลองนี้ได้เลย เป็นตัวเขาเองที่ต้องใช้พลังมากกว่าเดิมเป็นหมื่นรึล้านเท่า
ตอนที่จางหยูใจสั่นอยู่นั้น จ้าวแห่งโลกพันเขตก็ได้ยกมือขึ้น ต่อมาโลกจำลองก็ได้แบ่งเป็นสองส่วนโดยมีจางหยูอยู่ตรงกลาง หลังจากนั้นมือทั้งสองข้างของจ้าวแห่งโลกพันเขตก็ประกบเข้าด้วยกันก่อนที่โลกทั้งสองส่วนจะค่อยๆบีบอัดเข้าหากันอย่างช้าๆ และทับจางหยูเอาไว้จนเขารู้สึกได้ถึงแรงกดทับอันน่ากลัว !
“ หากเจ้าไม่อาจจะทนไหวก็บอกมา” จ้าวแห่งโลกพันเขตพูดขึ้นด้วยท่าทีสบายใจ
การโจมตีระดับนี้สำหรับเขาแล้วมันก็แค่เล็กน้อยเท่านั้น มันยังห่างไกลจากขีดจำกัด แต่ใช้จัดการจางหยูแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
จางหยูไม่ได้พูดอะไรออกมา ภายใต้แรงบีบอัดอันน่ากลัวนี้เขารู้สึกว่าการใช้พลังสร้างของเขาพัฒนาขึ้นด้วยความเร็วที่น่าตกใจ ราวกับหลอมรวมกับความเข้าใจ คลื่นพลังของเขาเพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่องแต่เพราะคลื่นพลังของจ้าวแห่งโลกพันเขตปกปิดมันเอาไว้ จึงไม่มีใครสังเกตุเห็นได้
ร่างของจางหยูเปล่งแสงออกมาราวกับตัวเขากำลังติดไฟ
การรับรู้, คลื่นพลังและจิตวิญญาณของเขาต่างก็ยกระดับขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ตอนที่โลกทั้งสองส่วนบีบอัดเข้าด้วยกัน จางหยูก็ได้ตะโกนออกมาก่อนจะมีมือพลังสร้างก่อตัวขึ้น มือทั้งสองข้างนี้มีขนาดใหญ่อย่างมาก มือนั้นพยายามแหวกโลกทั้งสองออกจากกัน
ตูม ตูม ตูม…
ตอนที่มือนั้นปะทะกับโลก มันก็เกิดการระเบิดและพายุขึ้น
พื้นที่โดยรอบถล่มพร้อมกับพายุพลังงานที่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง
“ หือ” จ้าวแห่งโลกพันเขตแปลกใจ เขาไม่คิดเลยว่าจางหยูจะกันการโจมตีของเขาไว้ได้ นี่ไม่ใช่ความแข็งแกร่งที่คนที่เพิ่งทะลวงผ่านขั้นที่ 9 ควรจะมี “ ข้าดูถูกเขาไป ”
ตอนที่พูดจบ จางหยูก็ได้เพิ่มจิตผู้สร้างขึ้นไปอีก ตอนนั้นเองพลังสร้างของโลกก็เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก พลังสร้างโดยรอบน่ากลัวขึ้นตามไป
จางหยูรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าพลังสร้างโดยรอบเพิ่มขึ้นมาหลายเท่า เขาควบคุมมือของตัวเองเข้ารับมือโลกที่บีบอัดเข้ามา มือของเขาสั่นไหวเล็กน้อยภายใต้แรงกดดันนี้ พร้อมกับการระเบิดพลังอันรุนแรงที่ก่อตัวขึ้น การระเบิดแต่ละครั้งนั้นราวกับโลกขั้นที่ 9 สองใบปะทะกันจนเกิดพายุพลังงานขึ้น
เมื่อกดดันจนถึงขีดสุด คลื่นพลัง, การรับรู้และจิตวิญญาณก็พัฒนาขึ้นไปอีก มือผู้สร้างของเขาก็ทรงพลังขึ้นไปด้วย ตอนแรกมือนั้นไม่อาจจะต้านทานได้แต่ผ่านไปสักพักด้วยพลังสร้างที่เพิ่มขึ้นมาก็ทำให้มือพลังของเขารับมือได้
“ กันได้รึ ?” สีหน้าของจ้าวแห่งโลกพันเขตเปลี่ยนไป
ต้องรู้ก่อนว่าการโจมตีครั้งแรกคือขีดจำกัดของระดับ 10 เท่า
การโจมตีครั้งที่สองนั้นคือขีดจำกัดของระดับ 100 เท่า
มันเพิ่มขึ้นมากว่า 10 เท่า ! เขาคิดว่าเขาจะจัดการจางหยูได้แต่ไม่คิดเลยว่าจางหยูกลับรับมือไว้ได้ !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก