ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 1771

แม้ว่าจางหยูจะเรียนรู้ทักษะการสร้างระดับสูงมาสองอัน แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจแก่นแท้ของการใช้พลังสร้างระดับสูง
  อย่างที่ทุกคนรู้ 1 บวก 1 เท่ากับ 2 แต่มันไม่ได้ง่ายที่จะคิดออกว่าทำไม 1 บวก 1 ถึงเท่ากับ 2
  สิ่งที่จางหยูต้องหาคำตอบในตอนนี้คือทำไม 1 บวก 1 ถึงเท่ากับ 2 และเชี่ยวชาญกฎนี้ให้ได้
  เพียงแต่เขาเข้าใจทักษะการสร้างระดับสูงแค่สองอย่าง หากต้องการหาว่าในทักษะระดับสูงทั้งสองอย่างนั้นมีกฎอะไรบ้าง เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องยากสำหรับเขา
  “ รึว่าต้องไปหาบรรพชนกระดูกกับซุนซิง ?” ในหัวของจางหยูมีความคิดนี้โผล่ขึ้นมา จากนั้นเขาก็ส่ายหน้าสลัดความคิดนี้ทิ้ง “ พวกเขาจะสอนอะไรข้าได้ ?”   โกลาหลนั้นมีราชามากมาย ใครบ้างที่ไม่อยากจะเรียนรู้จากบรรพชนกระดูกและซุนซิง แต่ถึงอย่างนั้นมีใครบ้างที่กล้าเอ่ยปากขอ ?
  แน่นอนแม้ว่าจะเอ่ยปากขอ แต่บรรพชนกระดูกและซุนซิงก็ไม่อาจจะสอนได้ เพราะทักษะระดับสูงนั้นไม่อาจจะสอนกันได้ มีแค่ทางเดียวคือต้องเข้าไปในสุสานถึงจะเรียนรู้ทักษะระดับสูงได้
  แม้ว่าจางหยูจะรู้จักบรรพชนกระดูกและซุนซิง แต่พวกเขาก็ไม่ได้สนิทสนมกัน แล้วทำไมพวกนั้นจะต้องมาสอนเขาด้วย?
  จางหยูส่ายหน้าสลัดความคิดนี้ทิ้ง เป้าหมายถัดไปคือสุสาน แต่เดิมแล้วเขาอยากจะเข้าไปสำรวจในสุสาน เพื่อหาทางหยุดการทำลายโกลาหลและอยากเปิดเผยความจริง แต่ตอนนี้เป้าหมายของเขามีมากกว่านั้นซึ่งก็คือการหาทักษะสร้างระดับและเรียนรู้มัน
  “ ดูเหมือนว่าข้าคงต้องเข้าไปที่สุสาน ”
  มันจำเป็นที่จะต้องทำการสำรวจสุสานสวรรค์  จางหยูมองไปที่ร่างแยกและพูดขึ้น “ เจ้าชื่อว่าจางลู่ เจ้าจะออกไปสำรวจโกลาหล…”
  “ ได้ ร่างหลัก” จางลู่ตอบกลับ
  จางลู่คือร่างแยกที่แกร่งที่สุดของจางหยู ตอนที่ร่างแยกอื่นๆถือกำเนิดขึ้นมา ความแข็งแกร่งนั้นไม่ต่างจากมนุษย์ทั่วไปเลย มีแค่จางลู่เท่านั้นที่กำเนิดขึ้นมาก็เป็นราชาเลย เขาเหนือกว่าร่างแยกทั้งหมด
  นอกจากความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าร่างแยกทั้งหมดแล้ว จางลู่ก็ยังมีความสามารถในการบ่มเพาะ มันคือร่างแยกที่สมบูรณ์แบบ !
  “ ใช่สิ เจ้าต้านทานการกัดกร่อนได้รึไม่ ?” จางหยูถามขึ้นมา
  จางลู่เป็นร่างแยกที่สร้างขึ้นมาจากพลังโกลาหล มันไม่ต่างจากพลังโกลาหลมากนัก ดังนั้นพลังโกลาหลไม่น่าจะทำอะไรร่างนี้ได้
  “ ได้สิ ” จางลู่รับรู้ถึงโกลาหลรอบตัวราวกับโกลาหลรอบข้างเป็นหนึ่งเดียวกับเขา “พลังโกลาหลไม่อาจจะทำร้ายข้าได้ ”   จางหยูตาเป็นประกายขึ้นมา “ งั้นพลังในเขตหวงห้ามทำร้ายเจ้าได้รึไม่ ?”
  จางลู่คิดแล้วพูดขึ้น “ ข้ายังไม่เคยลองแต่ไม่น่าจะใช่ปัญหาอะไร ”
  “ งั้นข้ามีภารกิจให้กับเจ้า” จางหยูมองไปที่จางลู่ “ เจ้าไปที่เขตหวงห้ามแล้วช่วยเนี่ยเวิ่นออกมา”
  เนี่ยเวิ่นอยู่ในเขตหวงห้ามมานานแล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นยังไงบ้าง
  แต่ในเมื่อเนี่ยอู่ซวงยังไม่ตามหาเขา งั้นก็หมายความว่าเนี่ยเวิ่นก็ต้องมีชีวิตอยู่
  “ ได้ “ จางลู่พยักหน้า “ ให้ข้าพาเขากลับไปที่สำนักคังเฉียงรึ ?”
  “ ใช่ ” จางหยูพูดขึ้น “ เวลายิ่งยาวนาน อุปสรรคก็ยิ่งมีมาก ดังนั้นเจ้าควรลงมือเลย”
  “ ได้ !” จางลู่ทำความเคารพก่อนจะเดินทางออกไปทันที
  ต้องบอกว่าจางลู่นั้นทำให้จางหยูผ่อนคลายอย่างมาก หลายเรื่องที่เขาไม่สะดวกจะไปจัดการ ก็ให้จางลู่จัดการแทนเขาได้ อย่างเช่นการช่วยเนี่ยเวิ่น
  ด้วยความแข็งแกร่งของจางลู่แล้ว จางหยูไม่ได้กังวลเรื่องความปลอดภัยของจางลู่เลย ในโกลาหลแห่งนี้คนที่เป็นภัยต่อจางลู่ได้นั้นมีแค่บรรพชนกระดูกและซุนซิงเท่านั้น
  “สร้างอีกร่างรึ ?” จางหยูคิดเรื่องนี้แต่สุดท้ายก็สลัดความคิดนี้ทิ้งไป
  เขายังอยู่ในสภาพไม่สู้ดีนัก จิตผู้สร้างของเขาหมดไปกว่าครึ่งแล้ว หากเขายังสร้างร่างแยกขึ้นมาอีก จิตผู้สร้างของเขาคงจะหมด
  ผ่านไปสักพัก จางหยูก็กลับไปในโลกตันเถียน ด้วยจิตผู้สร้างโลกตันเถียนแล้ว จิตผู้สร้างที่เขาใช้ไปก็ถูกเติมเต็มอย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างนั้นก็ใช่ว่าจะใช้เวลาน้อย ไม่ใช่แค่ต้องเติมจิตผู้สร้างแต่ยังต้องซ่อมแซมวิญญาณที่หายไปด้วยรวมถึงจิตของเขา
  จิตนั้นคือส่วนที่สำคัญที่สุดที่จะให้ความคิดและความรู้สึกกับร่างแยก  จิตและวิญญาณของผู้สร้างฟื้นฟูขึ้นมาอย่างง่ายดาย นอกจากบางกรณีที่ไม่อาจจะฟื้นฟูมันขึ้นมาง่ายๆ
  ด้านนอกโลกบรรพกาล จางหยูได้นั่งอยู่ในบรรพกาล จิตผู้สร้างของเขาฟื้นฟูกลับมาเต็มดังเดิม วิญญาณของเขาอยู่ระดับสูงสุดแต่จิตของเขายังฟื้นฟูอยู่
  แม้ว่าจางหยูจะแข็งแกร่งกว่าตอนที่สร้างร่างแยกขึ้นมาจำนวนมากในอดีตไม่รู้กี่เท่า แต่การฟื้นฟูจิตนี้ก็ยังต้องใช้เวลาเหมือนในอดีต ไม่ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะพัฒนาขึ้นมาแค่ไหนก็ตาม
  ….
  “ นี่คือเขตหวงห้ามรึ ?” จางลู่มาถึงส่วนนอกของเขตหวงห้าม เขาแผ่การรับรู้เข้าไปในเขตหวงห้ามทันที
  ที่นี่ทำให้ราชาทุกคนกังวลแต่ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายเลยแม้แต่น้อย พลังที่อัดแน่นกันนี้ทำให้เขารู้สึกสบาย เขาถึงกับอยากจะเข้าไปด้านใน  จางลู่สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วเข้าไปในเขตหวงห้าม
  ต่อมา จางลู่ก็เหมือนกับปลาที่ได้กลับลงในน้ำ เขารู้สึกพอใจอย่างมาก พลังโกลาหลในเขตหวงห้ามนั้นไม่ใช่แค่ไม่ทำร้ายเขาแต่ยังทำให้ร่างกายเขาแข็งแกร่งขึ้น ร่างกายของเขาทรงพลังยิ่งกว่าเก่า
  จางลู่แทบจะจมกับความรู้สึกพอใจนี้
  หลังจากนั้นสักพักจางลู่ก็ได้สติกลับมา เขาไม่ลืมภารกิจที่จางหยูมอบให้กับเขา
  จางลู่แผ่การรับรู้ออกไปแต่ก็ไม่พบร่างของเนี่ยเวิ่น เขาขมวดคิ้วก่อนจะเดินทางต่อ เขาเดินทางอยู่ 2-3 เดือนเพื่อตามหา เนี่ยเวิ่น แต่ก็หาอีกฝ่ายไม่พบ เขากลับเห็นบอลเลือดขนาดใหญ่แทน บอลเลือดนี้ตั้งที่อยู่ใจกลางของเขตหวงห้าม มันแผ่ปราณสุสานอันน่ากลัวออกมา ปราณสุสานนี้ได้กลืนกินพลังโดยรอบทำให้มันขยายตัวออกมา
  “ นี่มันอะไร ? ” จางลู่รู้สึกปวดหัวขึ้นมา เขารับรู้ได้ถึงอันตราย สัญชาตญาณบอกเขาว่าหากเขาเข้าใกล้บอลเลือดนี่ เขาจะโดนพลังกลืนกินและโดนฆ่าทันที
  จางลู่รีบถอยออกมา ก่อนจะรู้สึกว่าความอันตรายนั้นลดลงไป
  เมื่อรู้ถึงปัญหานี้ จางลู่ก็ไม่ลังเลที่จะเล่าสถานการณ์ที่นี่ให้จางหยูฟัง
  “ บอลโลหิตรึ ?” ในบรรพกาล จางหยูได้แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา “ บอลโลหิตนี่คือสุสานสวรรค์รึ ? ตำนานบอกว่าสุสานนี้ตั้งอยู่ใจกลางเขตหวงห้าม เมื่อรวมกับการที่บอลโลหิตนี่แผ่ปราณสุสานอันน่ากลัวออกมา มันก็น่าจะเป็นร่างของสุสาน มันเติบโตจนเทียบเท่าได้กับโกลาหลขนาดย่อย..” จางหยูหนักใจขึ้นมา “ ด้วยความเร็วนี้เราอาจจะเหลือเวลาไม่มาก ! ”
  สักพัก จางหยูก็ใจเย็นขึ้นมาได้และพูดขึ้น “ ตามหาเนี่ยเวิ่นต่อแล้วรีบเอาเขากลับมาก่อน ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก