ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 1782

หุ่นเชิดนั้นไม่ได้มีความคิดรึความรู้สึก พวกมันจะทำตามคำสั่งของจิตสุสานเท่านั้น
  การยั่วยุของจางลู่ไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับพวกมัน
  แต่เป้าหมายของหุ่นเชิดคือการฆ่าจางลู่ แน่นอนว่าจางลู่ไม่คิดจะเปิดโอกาสให้พวกมัน
  ราชาหายไปพร้อมกับเสียงท้องฟ้าทลาย ต่อมาราชาก็ได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าจางลู่ด้วยความเร็วอันน่ากลัว ปราณสุสานโดยรอบพัดเข้ามาจนกลายเป็นพายุ
  ในตอนนั้นราชาอยู่ห่างจากจางลู่แค่ไม่กี่ฟุต โล่พลังของจางลู่บิดเบี้ยวไป ก่อนที่จางลู่จะหายตัวไป
  “ ฟิ้ววว” ราชาได้พุ่งเข้าไปในรูหนอน ก่อนจะหายตัวไป
  ด้านบนรูหนอนนั้นจางลู่รู้สึกแปลกใจขึ้นมา “ ง่ายแบบนี้เลยรึ ?”   ไม่คิดเลยว่าราชาจะไร้สมองแบบนี้ ทั้งๆที่เห็นรูหนอนนี้แต่ก็ยังพุ่งเข้ามา เมื่อระยะห่างมันสั้นเกินไปจนไม่อาจจะหยุดได้ ราชาจึงถลาเข้าไปในรูหนอน
  เมื่อจัดการกับราชาได้แล้ว จางลู่ก็หันไปมองพวกระดับพันเท่าและร้อยเท่าก่อนจะยิ้มออกมา “ หัวหน้าพวกเจ้าไปแล้ว ข้าจะส่งพวกเจ้าตามไป ไม่ต้องขอบคุณ”
  ต่อมา จางลู่ก็หายตัวไป พวกหุ่นเชิดไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกส่งเข้าไปในรูหนอนทีละคนๆ
  หลังจากนั้น 2-3 อึดใจ จางลู่ก็ปรากฏตัวขึ้นในตำแหน่งเดิม หุ่นเชิดทั้งหมดถูกส่งไปยังโลกตันเถียนแล้ว
  “ เฮ้อ..” จางลู่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แม้ว่าตอนแรกจะยุ่งยากอยู่บ้างแต่โดยทั่วไปแล้วมันง่ายกว่าที่เขาคิดเอาไว้ เขาแค่ใช้ลูกไม้เล็กๆน้อยๆก็จบการต่อสู้ได้แล้ว “ ดูเหมือนว่าหุ่นเชิดเหล่านี้จะไม่มีสติและสู้ตามสัญชาตญาณ…”   ชัดแล้วว่านี่คือข่าวดีสำหรับจางลู่
  หุ่นเชิดไม่มีความคิดและไม่รู้ว่าจะวางแผนยังไง ดังนั้นเขาจึงสามารถส่งพวกนี้เข้าไปโลกตันเถียนได้ง่าย
  แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญคือ…มันไม่มีหุ่นเชิดมากเกินไป
  หากมีหุ่นเชิดจำนวนมากเข้าล้อมเขาเอาไว้จากทุกทิศทาง งั้นจางลู่ก็ควรจะคิดก่อนว่าเขาจะหนีรอดได้รึไม่
  …
  ในบรรพกาล
  จางหยูได้ทำการลบปราณสุสานออกจากตัวทุกคน
  หลังจากนั้นไม่กี่อึดใจพวกนั้นก็ได้สติกลับมา
  “ นี่…”
  “ โกลาหล ข้ากลับมาที่โกลาหลแล้ว !”
  “ ฮ่าฮ่า ! ไม่คิดเลยว่าข้าจะกลับมาได้จริงๆ !”
  “ เรายังไม่ตาย เรายังไม่ตาย ! ”
  พวกนี้ทำตัวราวกับคนบ้า พวกเขาไม่อาจจะควบคุมอารมณ์ตัวเองได้
  แม้แต่ราชาก็ยังตาแดงก่ำ อารมณ์ที่กักเก็บไว้ภายในปะทุออกมา เขาพยายามจะควบคุมไม่ให้ตัวเองแสดงมันออกมา
  หลังจากนั้นสักพักทุกคนก็ใจเย็นลงและได้เห็นจางหยู
  “ เจ้าคือ…” ราชาลังเลและถามขึ้นมา
  “ พวกเจ้าเรียกข้าว่า…เจ้าสำนักก็ได้ ” จางหยูยิ้มออกมา “ ยินดีด้วยที่ได้รับอิสระอีกครั้ง ”
  “ เจ้าช่วยเราไว้รึ ?” ราชามองไปที่จางหยู อีกฝ่ายนั้นไม่มีออร่าที่น่ายำเกรงเหมือนกับราชาแห่งยุค เขาที่มีเกียรติของตัวเองไม่มีทางที่จะก้มหัวให้ใคร มันเป็นไปไม่ได้ที่จะเรียกจางหยูว่าเจ้าสำนัก
  จางหยูพูดขึ้น “ ช่วยพวกเจ้ารึ ? ไม่ ข้าแค่ส่งคนไปทำแทนข้าและพาพวกเจ้าออกมา”
  เขารู้สึกว่าชายตรงหน้าไม่คิดจะให้ความร่วมมือ เขาคงต้องสั่งสอนอีกฝ่ายเพื่อเป็นแบบอย่าง หากอีกฝ่ายไม่เชื่อฟัง งั้นเขาก็ไม่รังเกียจนี่จะลบอีกฝ่ายทิ้ง ยังไงซะในสุสานก็มีราชาอยู่จำนวนมาก ลบไปสักคนก็ไม่มีปัญหาอะไร
  ราชายักคิ้ว “ เจ้าพาเราออกมาจากสุสาน ทักษะของเจ้าคงสูงไม่ใช่น้อยแต่หากเจ้าอยากให้ข้าทำงานให้กับเจ้า ข้าเกรงว่าข้าคงทำให้เจ้าผิดหวัง”
  พวกระดับพันและร้อยเท่าไม่ได้พูดอะไรออกมา
  “ โอ้ เจ้าไม่คิดจะทำงานให้ข้ารึ ?” จางหยูยักคิ้ว “ ก็ได้ ข้าไม่คิดจะบังคับขืนใจใคร เมื่อเจ้าไม่อยากทำงานให้กับข้า งั้นข้าจะส่งเจ้ากลับไปที่สุสาน จากนั้นเจ้าก็หาทางออกจากสุสานเองด้วยความสามารถที่เจ้ามี”
  ราชาสีหน้าหม่นลง “ ทำเกินไปแล้ว”   “ เกินไปรึ ? ข้าช่วยเจ้า แม้เจ้าจะทำงานให้ข้าแต่เจ้าก็ยังมีอิสระอยู่ ตอบแทนคนที่ช่วยตัวเอง มันเกินไปตรงไหน ?” จางหยูพูดด้วยท่าทีเยือกเย็น “ เจ้ามีสองทางเลือกคือกลับไปเป็นหุ่นเชิดต่อกับรับใช้ข้า…”
  ครั้งนี้เขาถึงกลับไม่พูดถึงสำนักคังเฉียง
  “ ขอโทษด้วยแต่ข้าคงไม่เลือก เจ้าเองก็ไม่ใด้อ่อนแอ เจ้าเป็นถึงราชา…แต่ถึงอย่างนั้นหากข้าคิดจะไป เจ้าก็ไม่อาจจะหยุดข้าได้”
  เขาไม่สงสัยในความแข็งแกร่งของจางหยู การที่ช่วยพวกเขาออกมาได้และกำจัดปราณสุสานนั้นแน่นอนว่าจางหยูต้องเป็นราชา มันมีโอกาสสูงที่เขาจะได้ทักษะสร้างมา ความแข็งแกร่งแบบนี้แกร่งกว่าราชาทั่วไปอย่างมากแต่หากเขาคิดจะหนีจริงๆแล้ว จางหยูก็อาจจะหยุดเขาไม่ได้
  “ ฮ่าฮ่า งั้นก็ลองดู” จางหยูไม่คิดจะเถียง เขาแค่ผายมือเชิญอีกฝ่าย
  ราชาคิดว่าจางหยูท้าทายเขา เขาได้พุ่งออกไปทันที  เมื่อหันกลับมาก็พบว่าจางหยูยังยืนเฉยอยู่ๆและไม่ได้ทำอะไร ราชาก็วางใจและมั่นใจยิ่งกว่าเก่า “ เขาหลอกข้าจริงๆ ! แต่คนอย่างข้าจะโดนหลอกง่ายๆได้ยังไง?”
  กลุ่มคนระดับพันเท่าและร้อยเท่าต่างมองหน้ากันและคิดจะเสี่ยงดวง หากมีโอกาสที่จะหนี พวกเขาก็ไม่อยากจะอยู่ต่อ
  แต่ตอนที่พวกเขาคิดจะเสี่ยงดวงนั้น จางหยูแค่สะบัดมือเบาๆราชาที่หนีไปตะกี้ก็ปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมสีหน้าตกตะลึง เขาดิ้นรนไปมาแต่การดิ้นรนนี้ไร้ความหมาย ร่างกายของเขาได้แต่ยืนอยู่ข้างกายจางหยู
  “ เจ้า เจ้า…”
  “ พอเป็นราชาก็คิดว่าเจ้าเหนือกว่าทุกคนรึไง ?” จางหยูมองไปที่อีกฝ่าย “ แต่เจ้าคงไม่รู้ว่าในสายตาของผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง ราชาน่ะเป็นแค่มดเท่านั้น”
  เมื่อพูดจบ จางหยูก็ค่อยๆยื่นมือขวาออกมาก่อนจะสะบัดเบาๆ  ชั้นพลังอันน่ากลัวได้ก่อตัวขึ้นแล้วส่งผ่านตัวราชา ร่างกายแทบถูกบดขยี้ แม้แต่จิตผู้สร้างก็ยังสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับจะแตกสลายไป จิตเองก็อ่อนแอลงไปด้วย
  “ ข้าขอโทษ !” ราชากระอักเลือดออกมา ในหัวของเขาเต็มไปด้วยความสับสน
  เขาไม่เข้าใจทักษะของจางหยู มันราวกับว่าแค่อีกฝ่ายคิดก็ควบคุมทุกอย่างในโกลาหลได้ พลังอันน่ากลัวนี้เขาไม่อาจจะต้านทานได้เลย
  “ ลงมือสิ !” จางหยูพูดขึ้นมา “ เจ้าเป็นราชาไม่ใช่รึ ? เจ้ามั่นใจไม่ใช่รึ ? แสดงให้ข้าดูทีว่าความมั่นใจที่เจ้ามีนั้นเป็นยังไง ความแข็งแกร่งที่เจ้าภูมิใจหนักหนานั้นมีแค่ไหน ?”
  ราชากลัวจนขนลุก
  ตอนนั้นเองจางหยูก็ได้ตบไปที่หน้าของอีกฝ่ายก่อนที่อีกฝ่ายจะกระเด็นออกไป ร่างกายของเขาสลายไป จิตผู้สร้างแทบถึงขีดจำกัดของมัน  ไม่นานร่างของราชาก็ถูกสร้างขึ้นใหม่แต่คลื่นพลังของเขาอ่อนแออย่างมาก เขาหน้าซีดและแสดงท่าทีหวาดกลัวออกมา
  แข็งแกร่งจริงๆ !
  เขารู้สึกว่าจางหยูน่ากลัวกว่าจิตสุสานเป็นสิบเท่ารึอาจจะร้อยเท่า !
  “ ข้ายอมแพ้ !” ราชากำหมัดแน่นแล้วค่อยๆคลายมือออกก่อนจะคุกเข่าลงไปข้างหนึ่ง
  แม้แต่ราชา เมื่ออยู่ต่อหน้าจางหยูก็ยังเลือกที่จะยอมแพ้ ดูเหมือนว่าเกียรติยศที่เคยยึดถือนั้นจะไม่ได้สูงส่งอย่างที่คิด ตอนที่เขาคุกเข่าลงไปนั้น เกียรติที่มีก็หายไปด้วย
  “ ยอมรึ ?” จางหยูส่ายหน้า “มันสายเกินไปแล้ว”
  สีหน้าของราชาเปลี่ยนไป เขารู้สึกแย่ขึ้นมาทันที
  แต่เขายังไม่ทันได้พูดอะไร จางหยูก็สะบัดแขนเสื้อก่อนที่ร่างของอีกฝ่ายจะกลายเป็นรูปปั้น ร่างกายของเขาราวกับอยู่มานานหลายล้านปี จิตผู้สร้างรึแม้แต่จิตของเขาก็ถูกลบไปทีละนิดๆ แค่สามอึดใจเขาก็หายไปจากโลก
  คนอื่นๆพากันขนลุกและตัวสั่น
  ราชาแห่งยุคที่เป็นตัวตนไร้เทียมทานก็ยังตายรึ ?
  ��

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก