“ เจ้ามั่นใจรึ ?” จางหยูมองไปที่ซื่อเซียวด้วยสีหน้าแปลกๆ
ไม่ใช่ว่าแค่สู้กับร่างแยกเองรึ ?
เขาคิดไม่ออกว่าทำไม ทั้งที่ซื่อเซียวก็รู้ว่าเขาไม่ได้อ่อนแอและทำลายสมบัติระดับสมบูรณ์ได้ แต่ทำไมถึงยังกล้าที่จะมาท้าทายเขาอยู่ ?
ซื่อเซียวมั่นใจจริงๆรึว่าจะเอาชนะเขาได้ ?
“ ความแข็งแกร่งที่ข้าแสดงออกมานั้นในสายตาของจักรพรรดิแล้วมันด้อยกว่าร่างแยกของเขาอีกรึ ?” จางหยูเริ่มสงสัยขึ้นมา
อันที่จริงแล้วความแข็งแกร่งที่เขาแสดงออกมาก็เข้าเกณฑ์จักรพรรดิไปแล้ว
แต่ทำไมซื่อเซียวถึงคิดว่าเขาเป็นแค่แม่ทัพชั้นนำไม่ใช่จักรพรรดิ ? ดูจากท่าทีของซื่อเซียวแล้ว ซื่อเซียวไม่คิดจะสงสัยด้วยซ้ำว่าจางหยูเป็นจักรพรรดิ
“ ข้าเป็นจักรพรรดิ จึงเป็นธรรมดาที่จะพูดเช่นนี้ได้ เจ้าคิดจริงๆรึว่าจะเอาชนะร่างแยกของข้าได้ ?”
จางหยูอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น “ พูดไปก็ไร้ประโยชน์ ในเมื่อเจ้าอยากจะสู้ งั้นก็มาสู้กัน ”
เมื่อพูดจบ จางหยูก็ได้พุ่งออกจากกำแพงโลกมุ่งหน้าไปยังทะเลโกลาหล
ซื่อเซียวเองก็ตามหลังไปติดๆเช่นกัน
ในพริบตาทั้งสองก็หายตัวไป
ในหมู่ผู้คนจากสำนักคังเฉียง
“ เจ้าสำนักไม่มีปัญหาอะไรสินะ ?” เฉินกูกังวล
“ นั่นเป็นถึงจักรพรรดิ !” เป้ยหลงคิ้วขมวด “ เจ้าสำนักจะรับมือได้จริงๆรึ ?”
แม้ว่าทุกคนจะเชื่อในพลังของจางหยู แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน คู่ต่อสู้ของจางหยูครั้งนี้คือจักรพรรดิ นั่นคือเพดานของทะเลโกลาหล ! ทุกคนมองไปที่เจ้าสำนัก, จางลู่และความว่างเปล่าเพื่อรอคำตอบ
“ ไม่ต้องกังวล ” จางลู่ตอบกลับอย่างใจเย็น “ อย่าว่าแต่ซื่อเซียวคนเดียวเลย ต่อให้เป็นจักรพรรดิทั้งเก้าก็ไม่อาจจะทำอะไรร่างหลักได้”
คนอื่นๆหากเข้าไปสู้ก็มีแต่จะตาย แต่จางหยูมีทะเลบรรพกาลอยู่ เขาหนีไปตอนไหนก็ได้
จักรพรรดิทั้งเก้าจะตามเขาเข้าไปในทะเลบรรพกาลรึไม่ ?
หากพวกนั้นกล้าพอ งั้นมันก็น่าตื่นเต้นสำหรับจางหยู
ความว่างเปล่ายิ้มออกมา “ รอที่นี่แหละ ข้าเชื่อว่าร่างหลักจะกลับมาในไม่ช้า”
มันต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการจัดการกับร่างแยกของจักรพรรดิ ?
….
ที่ทะเลโกลาหล “ ข้าให้เวลาเจ้ายอมแพ้ ” ซื่อเซียวพูดขึ้น “ ตราบใดที่เจ้ายอมไปยังดินแดนสวรรค์กับข้าและรับการลงโทษ ข้าจะหาทางปกป้องชีวิตเจ้าเอง ”
เขาก็ยังให้ค่าแม่ทัพอยู่บ้างโดยเฉพาะเมื่อเริ่มสงครามกับเผ่าสวรรค์ แม่ทัพชั้นนำนี้มีค่าอย่างมาก !
หากจางหยูยอมแพ้ เขาคงใช้อำนาจทุกอย่างเพื่อช่วยจางหยูเอาไว้
ในมุมมองของเขาแล้วจางหยูมีค่ามาก จนแม้แต่เก่อเย่,จิงหงและคนอื่นๆไม่อาจจะเทียบได้ เพราะจางหยูอาจจะอยู่ถึงขีดจำกัดของแม่ทัพแล้ว
นอกซะจากว่าจักรพรรดิจะลงมือเอง งั้นก็ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของจางหยูได้
แม่ทัพแบบนี้น่ะมีประโยชน์ !
“ เอาจริงๆแล้วหากข้าไม่อยากตาย งั้นในทะเลโกลาหลนี้ก็ไม่มีใครฆ่าข้าได้ “ จางหยูยิ้มออกมา “ จักรพรรดิทั้งเก้าก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ”
ซื่อเซียวเลิกคิ้ว “ บ้าไปแล้ว !”
เขาหมดความอดทน เมื่อจางหยูไม่ยอมแพ้ งั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรต่อ
เขากำหมัดพร้อมพลังที่มารวมตัวกัน แม้แต่ทะเลโกลาหลก็ยังบิดเบี้ยวไปด้วย พลังจิตอันน่ากลัวได้แผ่กระจายออกไปทุกทิศทาง
คลื่นพลังอันน่ากลัวนี้แม้แต่จ้าวโกลาหลนับไม่ถ้วนที่รับรู้ถึงมันต่างก็พากันใจสั่น
ต่อมา ซื่อเซียวก็ได้ต่อยออกไป พลังอันน่ากลัวได้พุ่งออกไปทำให้ทะเลโกลาหลรอบข้างพังลง
พลังนี้เดาว่าแม้แต่แม่ทัพก็ยังสีหน้าถอดสี
“ ทำได้ดี ” จางหยูเอ่ยชมออกมา จากนั้นเขาก็พลิกฝ่ามือรับพลังนั้นเอาไว้ แล้วบีบมันเพื่ออัดแน่นเข้าหากัน สุดท้ายมันก็กลายเป็นลูกบอลเล็กๆในมือจางหยู ซื่อเซียวมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
เมื่อเห็นว่าจางหยูเล่นกับบอลพลังในมือ ซื่อเซียวก็เริ่มสนใจขึ้นมา จากนั้นจางหยูก็พูดขึ้น “ พลังระดับนี้เดาว่าแม่ทัพก็ยากที่จะรับมือได้ หากประมาทก็อาจจะทำให้ถึงตายได้ “ จางหยูเงียบไปสักพักแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไป “ แต่แค่นี้ไม่อาจจะเป็นภัยกับข้าได้ ”
“ เจ้าเป็นใครกันแน่ !” ซื่อเซียวอึ้ง เขามองไปที่จางหยูด้วยสายตาเหลือเชื่อ “ เป็นไปไม่ได้ การโจมตีของข้านั้นแม้แต่แม่ทัพก็ไม่อาจจะรับมือไหว ! เจ้าเป็นจักรพรรดิ !”
มีแค่จักรพรรดิที่รับมือกับการโจมตีนี้ได้ง่ายๆ
ต้องเป็นจักรพรรดิเท่านั้น !
จางหยูหัวเราะออกมา “ สุดท้ายเจ้าก็มองออก !”
ยังไงซะเมื่อไม่อาจจะปิดบังได้ จางหยูก็ไม่คิดปิดบังมันต่อ เขาได้ยอมรับออกมาตามตรง
“ งั้นนี่ก็เป็นแผนการของเผ่าสวรรค์ !” ซื่อเซียวแสดงสีหน้าที่เย็นชาออกมา “ เจ้าได้สร้างทีมเข้าไปโจมตีดินแดนสวรรค์ แต่มันก็เป็นแค่การแสดงเพื่อป้ายความผิดให้กับข้า !”
จางหยูยังไม่ทันได้พูดอะไร ซื่อเซียวก็พูดขึ้นต่อ “ บอกมา เจ้าเป็นจักรพรรดิของเผ่าสวรรค์ใช่รึไม่? ฉิวหวัง ? เทียนตู้ ? เมิ่งเหยียน? ข่งจู้? หย่วนเหยี่ยน? เจ้าปลอมตัวได้ดีจนข้ามองไม่ออก ”
เขามองว่าจางหยูเป็นจักรพรรดิเผ่าสวรรค์
“ ใครบอกว่าข้าเป็นจักรพรรดิเผ่าสวรรค์ ? ข้าเป็นเผ่าชีวิต ตั้งแต่หัวจรดเท้า ตั้งแต่จิตจนถึงร่างกาย ข้าก็เป็นเผ่าชีวิต “
ซื่อเซียวคิ้วขมวด เขาไม่เชื่อคำพูดของจางหยู เพราะการป้ายความผิดให้เขา มันไม่ได้ส่งผลต่อเผ่าชีวิตเลย แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธออกมาทันทีและพูดขึ้น “ งั้นรึ ? แล้วเจ้าเป็นจักรพรรดิคนไหน ? ตงหยาง ? หว่านเกอรึอู่หมิง ?”
จางหยูส่ายหน้า “ เจ้าพูดผิดอีกแล้ว”
ซื่อเซียวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ ไม่ใช่จักรพรรดิเผ่าสวรรค์รึเผ่าชีวิต งั้นเจ้าเป็นใครกัน ? หรือเจ้าจะบอกว่ามีจักรพรรดิเพิ่ม นอกจากจักรพรรดิทั้งเก้ารึ ?”
“ เอาจริงๆแล้วข้าคือจักรพรรดิเผ่าชีวิตคนที่ห้า เจ้าเรียกข้าว่าจักรพรรดิจางหยูหรือจักรพรรดิคังเฉียงก็ได้” แน่นอนเขามีคำพูดที่ไม่ได้พูดออกมาคือ เขาไม่ใช่จักรพรรดิของทะเลโกลาหลแต่เป็นทะเลบรรพกาล เขาคือจ้าวแห่งทะเลบรรพกาล
“ ตลกสิ้นดี ! เรื่องตลกเช่นนี้เจ้าคิดจะเอามาหลอกใครกัน ?”
ในหัวของซื่อเซียวตัดสินแล้วว่าจางหยูนั้นจะต้องเป็นคนอื่นปลอมตัวมา แต่เขาแค่บอกไม่ได้ว่าเป็นใคร
“ งั้นเจ้าอยากจะสู้อีกรึไม่ ?” จางหยูขี้เกียจจะเถียงกับซื่อเซียวต่อ “ เมื่อเจ้ารู้แล้วว่าข้าเป็นจักรพรรดิ งั้นเจ้าคงเข้าใจว่าแค่เจ้าเพียงลำพังนั้นไม่อาจจะเป็นภัยต่อข้าได้”
ร่างแยกของซื่อเซียวอยู่แค่ขีดจำกัดของแม่ทัพ ส่วนความแข็งแกร่งของจางหยูนั้นอยู่ระดับจักรพรรดิ
“ ข้าไม่อาจจะเป็นภัยต่อเจ้าได้” ซื่อเซียวสูดหายใจเข้าลึกๆ “ แต่ข้าไม่เชื่อว่าหากร่างแยกระเบิดตัวเอง เจ้าจะรับมือได้ง่ายๆ”
“ จำเป็นต้องทำเช่นนั้นรึ ? ” จางหยูถามซื่อเซียว นี่แค้นเขาแค่ไหนกันถึงกับยอมระเบิดตัวเองเพื่อสร้างปัญหาให้กับเขา
“ ข้าไม่คิดว่าจะทำร้ายเจ้าได้…แต่ด้วยการระเบิดตัวเอง ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะปลอมตัวได้อีก ข้าจะเปิดโปงเจ้าเอง เพื่อดูว่าเจ้าเป็นใครกันแน่ ! “ แม้ว่าเขาจะระเบิดตัวเองทิ้งแต่ก็ยังเหลือเศษเสี้ยวจิต เขาจะได้ดูว่าจางหยูเป็นใครปลอมตัวมา
ทันทีที่พูดจบร่างแยกของซื่อเซียวก็เริ่มระเบิดตัวเองทันที จางหยูแสดงสีหน้าหนักใจออกมา เขาแผ่พลังจิตเข้าไปขัดพลังของซื่อเซียวเอาไว้ จากนั้นก็พยายามอัดแน่นพลังนั้นไว้ แค่ครึ่งนาทีเขาก็สยบพลังนั้นได้ “ ซื่อเซียว นี่บ้าจริงๆ !”
ในเวลาเดียวกันเศษเสี้ยวจิตของซื่อเซียวก็แสดงสายตาสับสนออกมา “ ไม่ได้ปลอมตัวมารึ ? เป็นไปได้ยังไงกัน….”
ในอาณาเขตซื่อเซียว ร่างของซื่อเซียวกำลังแข็งทื่อ สายตาเขาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก