ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 1934

ที่ด้านนอกของเขตซื่อเซียว
  ซื่อเซียวไม่ได้รีบไปหาจางลู่แต่รออยู่ในที่พักของตนแทน
  เย่าหยางและคนอื่นๆยังไม่ได้เอาลูกปัดดั้งเดิมและลูกปัดจิตมาให้กับเขา งั้นเขาก็ไม่มีทางออกจากที่นี่
  มีแค่ได้ของมาถึงมือก่อนเขาถึงจะสบายใจได้
  ยังไงซะเขาก็อยู่ที่นี่มาเป็นล้านล้านปีแล้ว รออีกสักหน่อยก็ไม่ได้เสียหายอะไร
  …
  ที่จวนของจินหยาง
  จางลู่และคนอื่นๆยังคงทำการสร้างสมบัติและรอการมาของซื่อเซียว
  ในโกลาหลอื่นๆ เย่าหยางและคนอื่นๆพากันรีบจัดแจงธุระของตนกันอยู่  ในด้านฝั่งดินแดนสวรรค์ ฉิวหวังก็กำลังพักฟื้นอยู่ ร่างแยกเขาโดนทำลาย ชัดแล้วว่าไม่อาจจะฟื้นฟูตัวเองได้ง่ายๆ
  เวลาผ่านไปช้าๆ อย่างไม่รู้ตัว และตอนนี้จางลู่และคนอื่นๆก็ทำภารกิจสร้างสมบัติได้เสร็จแล้ว แต่พวกเขาสงสัยว่า จินหยางจะสร้างเกราะนี้ให้กับเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้รีบไปไหนและเลือกที่จะอยู่ต่อ
  การสร้างสมบัติไม่ใช่เรื่องซับซ้อน มันก็แค่หลอมรวมหินโกลาหลทั้งสี่ก้อนเข้าด้วยกันและขึ้นรูปให้กับมัน แต่ส่วนที่ยากจริงๆคือการบ่มเพาะพลัง การสร้างจริงๆนั้นกินเวลาแค่ 1 เดือนเท่านั้น นอกจากนี้แล้วก็ไม่มีอะไรพิเศษ
  “ เสร็จแล้วรึ ?” จางลู่มองไปที่แก่นของเกราะแล้วถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ
  จินหยางปาดเหงื่อและพยักหน้า “ เพราะก่อนหน้านี้เราโดนขัดจังหวะไป มันจึงไม่อาจจะอยู่ในสภาพสมบูรณ์ได้ เราจึงไม่อาจจะใช้วิธีการสร้างแบบเดิม” เขาได้แต่ต้องใช้วิธีโง่เง่าเหล่านี้ “แม้ว่าจะสร้างขึ้นมาได้สำเร็จแต่ก็ยากที่จะทำตามที่คาดไว้ได้ …”
  มันไม่ใช่ว่ายากที่จะทำตามที่คาดเอาไว้ แต่ทว่ามันไม่มีทางทำได้ต่างหาก
  เรื่องนี้จินหยางรู้ดี แต่เขาแค่ไม่อยากจะพูดมันออกมาก็เท่านั้น
  “ เมื่อเจ้าสร้างสมบัติเสร็จแล้ว งั้นเราขอตัวก่อนจะดีกว่า” จางลู่พูดขึ้น “ จินหยาง หวังว่าจะได้พบกันอีก”
  จินหยางรีบพูดขึ้นทันที “ ท่านสุภาพเกินไปแล้ว”
  จางลู่เรียกชื่อเขา มันทำให้เขารู้สึกดีจริงๆ
  จางลู่และคนอื่นๆบอกลาจินหยาง แต่ไม่ได้รีบกลับไปที่สำนักงานเพื่อรับรางวัลแต่กลับไปรอด้านนอกโถงกองทัพสังเกตการณ์แทน
  “ กล่องกระบี่ซ่อนไว้ในคลังรึ ?” จางลู่มองไปที่เจ้าสำนัก , ความว่างเปล่า และคนอื่นๆ
  ความว่างเปล่า มองไปที่โถงกองทัพสังเกตการณ์แล้วพึมพำออกมา “ มันน่าจะอยู่ในคลัง ถ้ามันอยู่กับเขา มันอาจจะมีปัญหา”
  เจ้าสำนักพูดขึ้น “ ทำไมกัน ?”
  “ เจ้าลองคิดดู หากเราสู้กับเขาและกดดันเขา บางทีเขาอาจจะทำลายแหวนมิติรึไม่ก็กระเป๋ามิติทิ้ง จากนั้นเราจะหากล่องกระบี่ได้จากไหนกัน ? ใครจะไปรู้บางทีกล่องกระบี่อาจจะถูกส่งไปที่อื่นในทะเลโกลาหลก็เป็นได้”
  เซียนกระบี่พเนจรคิ้วขมวด “ หากมันคือแหวนมิติ งั้นก็ต้องบอกว่าหากทำลายมัน มิติส่วนในก็จะเผยตัวออกมาแต่หากมันเป็นมิติแยกส่วน มันอาจจะเป็นปัญหา หากฆ่าเขามิติแยกส่วนก็จะหายไปด้วย ของด้านในก็จะหายไปด้วยเช่นกัน”
  ไม่มีใครรู้ว่าของเหล่านั้นจะหายไปที่ใด แต่คงไม่อาจจะหาพบได้ในทะเลโกลาหล
  “ งั้นคงได้แต่ต้องเสี่ยง มันไม่มีทางเลือกอื่น” จางลู่พูดขึ้น “ นอกซะจากว่า…”   “ นอกจากอะไร ?” ความว่างเปล่าถามขึ้นมา
  “ นอกซะจากว่าร่างหลักจะมาใช้ทักษะหลอกลวงด้วยตัวเอง” จางลู่ส่ายหน้า “แต่เดาว่าเขาคงไม่มีทางมาง่ายๆ..”
  เจ้าสำนักตาเป็นประกายขึ้นมา “เราหาทางล่อเก่อเย่เข้าไปในทะเลบรรพกาลดีรึไม่…”
  จางลู่พึมพำออกมา “ เจ้าจะลองก็ได้แต่เดาว่าคงยากอย่างมาก
  คนอย่างเก่อเย่ระวังตัวแค่ไหนทุกคนต่างก็รู้ การจะล่อลวงอีกฝ่ายคงไม่ใช่เรื่องง่าย
  ไม่นานทุกคนก็รวบรวมความคิดและตัดสินใจจะล่อเก่อเย่ให้เข้าไปในทะเลบรรพกาล หากไม่สำเร็จพวกเขาก็คิดจะฆ่าเก่อเย่โดยตรงไปเลย
  สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือฆ่าเก่อเย่ไม่ว่าจะพบกล่องกระบี่รึไม่ก็ตาม
  ตอนที่พวกเขากำลังจะลงมือนั้น เซียนกระบี่พเนจร ก็ถามขึ้นมา “ เราควรเรียกซุนหยานและซุนเหมิงรวมถึงซุนวูมารึไม่ ?”
  “ เรียกมา” จางลู่คิดสักพักแล้วพูดขึ้น “ เรื่องนี้พวกเขามีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมได้”
  “ งั้นก็รอก่อน ข้าจะไปพาพวกเขามา” เจ้าสำนักบอกกับทุกคน
  ทุกคนอดทนรอก่อนที่เจ้าสำนักจะกลับไปที่ทะเลบรรพกาลเพื่อบอกกับทั้งสามคน
  ในตอนที่รอนั้นทุกคนก็มองไปที่โถงกองทัพสังเกตการณ์ก่อนจะพบกับจินหยาง
  “ เขาไปที่นั่นทำไม ?” จางลู่แปลกใจ “ รึว่าคนที่อยู่เบื้องหลังที่เขาพูดถึงนั้นเป็นลั่วเซียง ?” เขาจำตอนที่จินหยาง โดนนำตัวไปที่โถงกองทัพสังเกตการณ์ได้ จินหยางเรียกหาลั่วเซียงเพื่อขอความช่วยเหลือและสุดท้ายเก่อเย่ก็เข้ามายุ่งก่อนจะทำการลงโทษกวนเหริน
  “ ช่างเขาเถอะ” จางลู่ไม่ได้ใส่ใจ “ ยังไงซะก็ไม่ส่งผลต่อเรื่องของเราอยู่ดี”
  “ ยังเหลือเวลาอยู่ พวกเจ้ารอที่นี่ ข้าจะไปรับรางวัลที่สำนักงานข้าจะรีบกลับมา “ ความว่างเปล่าพูดขึ้น
  ลูกปัดดั้งเดิมหลายแสนลูกแม้ว่าจะไม่มากแต่อย่างน้อยยุงก็มีเนื้อ ถึงจะน้อยแต่เก็บไปเรื่อยๆก็จะมากขึ้นเอง
  จินหยางเข้าไปในโถงกองทัพสังเกตการณ์ได้ไม่นานก็กลับออกมา สีหน้าของเขาดูไม่สู้ดีนัก
  จางลู่และคนอื่นๆไม่ได้สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับจินหยาง ยังไงซะพวกเขาก็ไม่ได้สนิทกันนัก อีกทั้งพวกเขาไม่อยากทำให้เก่อเย่ตกใจ ตอนนี้พวกเขาแค่รอให้เจ้าสำนักและความว่างเปล่ากลับมาแล้วค่อยลงมือ
  และคนแรกที่กลับมาคือความว่างเปล่า เขาได้แจกจ่ายลูกปัดให้กับทุกคน ผ่านไป 30 นาที เจ้าสำนัก, ซุนหยาน, ซุนเหมิง และซุนวูก็มาถึง จากนั้นทั้งสี่ก็เดินตัดถนนมาสมทบกับทุกคน
  “ พวกเจ้ารู้กันหมดแล้วสินะ ?” จางลู่มองไปที่ซุนหยานและคนอื่นๆ  ซุนหยาน, ซุนเหมิง และซุนวูต่างก็พยักหน้าตอบรับ
  จางลู่พูดขึ้นต่อ“ เราต้องหาทางล่อเก่อเย่เข้าไปในทะเลบรรพกาล หากทำไม่ได้จริงๆ เราคงต้องจัดการเขาที่นี่ พวกเจ้าสามคนร่วมมือกับเราในการแก้แค้นให้กับบรรพชนของพวกเจ้า อย่าทำร้ายคนบริสุทธิ์ก็พอ…” การต่อสู้ของแม่ทัพนั้นส่งผลต่อพื้นที่เป็นบริเวณกว้าง หากไม่ระวังอาจจะคร่าผู้บริสุทธิ์ได้
  ซุนหยานและคนอื่นๆไม่คัดค้านแต่อย่างใด
  “ งั้นก็ไปได้แล้ว” จางลู่เดินนำมุ่งหน้าไปยังโถงกองทัพสังเกตการณ์
  “ เจ้าสำนักนี่ส่วนของเจ้า” ความว่างเปล่าได้ส่งส่วนแบ่งของเจ้าสำนักให้อีกฝ่าย
  “ ขอบคุณ” เจ้าสำนักรับลูกปัดแล้วเผยสีหน้าพอใจออกมา
  เมื่อเห็นว่าจางลู่และคนอื่นๆมุ่งหน้าไปที่โถงกองทัพสังเกตการณ์ ทหารที่นั่นต่างก็อึ้งจนพูดอะไรไม่ออก พวกเขาเดินมาถึงลานของโถงกองทัพสังเกตการณ์
  จางลู่ไม่ได้สนใจทหารของโถงกองทัพสังเกตการณ์และพูดขึ้นมาเสียงดังก้อง “ เก่อเย่ออกมา !”
  ทันทีที่พูดจบเขาก็แผ่การรับรู้ปกคลุมไปทั่วทั้งโถงกองทัพสังเกตการณ์และล็อคเป้าเก่อเย่เอาไว้
  เจ้าสำนัก, ความว่างเปล่า และคนอื่นๆด้านหลังรวมถึง ซุนหยาน, ซุนเหมิง และซุนวูต่างก็เผยสีหน้าเยือกเย็นออกมาราวกับทำเรื่องเล็กน้อยกันอยู่
  “ กล้าดีนัก !” กลุ่มทหารมองไปที่กลุ่มของจางลู่แล้วตะโกนออกมา
  มีกลุ่มนายพลบินออกมาจากโถงกองทัพสังเกตการณ์ การรับรู้ของพวกนี้ล็อคเป้ามาที่จางลู่และคนอื่นๆเอาไว้ เก่อเย่ ไม่จำเป็นต้องสั่งพวกเขาก็รู้ว่าต้องทำยังไงกับคนพวกนี้
  “ พวกเขาลงมือแล้วรึ ?” ซื่อเซียวที่จับตาดูการเคลื่อนไหวของจางลู่และคนอื่นๆอยู่ตลอดก็ได้ส่งร่างแยกออกมาทันที
  แสงอันศักดิ์สิทธิ์ส่องประกายขึ้นมาก่อนที่จะมีเสียงพูดขึ้นมาอย่างช้าๆ “ ข้าซื่อเซียว เก่อเย่นั้นบกพร่องต่อหน้าที่ เขาใช้อำนาจเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง จากนี้ข้าจะปลดเก่อเย่ออกจากตำแหน่งแม่ทัพกองทัพสังเกตการณ์และให้เสียเทียนมารับหน้าที่แทน คำสั่งของจักรพรรดิคือกฎสูงสุด ห้ามใครฝ่าฝืน คำพูดของจักรพรรดิคือที่สุด”
  เสียงของซื่อเซียวดังก้องไปทั่วทั้งเขตซื่อเซียว ตอนนั้นคนเป็นร้อยล้านคนต่างก็ตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
  ทั้งด้านในและนอกโถงกองทัพสังเกตการณ์ ทหารทุกคนต่างก็พากันอึ้งและตะลึง พวกเขายากจะเชื่อเรื่องนี้ แต่ก็ต้องเชื่อ
  จางลู่ไม่คิดว่าซื่อเซียวจะให้ความร่วมมือแบบนี้ เขาอยากจะยกนิ้วให้จริงๆ
  จางลู่มองเข้าไปในโถงกองทัพสังเกตการณ์ก่อนจะล็อคเป้าที่เก่อเย่แล้วตะโกนออกมา “ เก่อเย่ ออกมา !”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก