ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 1948

“ นายพล เราจะไปยังเขตซื่อเซียวดีรึไม่ ?” หัวหน้ากองถามขึ้นมา
  นายพลยิ้มแห้งๆแล้วพูดขึ้นมา “ ซาอูของเผ่าสวรรค์คงไม่มีท่าทีจะหยุด การอยู่ในแก่นกำเนิดต่อนั้นอันตรายเกินไป”
  ซาอูคือนายพลเผ่าสวรรค์ที่โดนจางลู่และคนอื่นๆฆ่าไป
  ฝั่งเผ่าสวรรค์ได้ส่งซาอูและหัวหน้ากองทั้งสี่มา แต่เดิมแล้วพวกเขามีกัน 10 ต่อ 10 แต่ส่วนหนึ่งได้พบกับกลุ่มของ จางลู่ ไปก่อนและได้ตายไป ไม่ใช่แค่ไม่อาจจะทำภารกิจได้สำเร็จแต่ยังต้องตายไปด้วย ผลลัพธ์แบนนี้น่ะคงยากที่เผ่าสวรรค์จะรับได้
  “ กลับไปที่เขตเย่าหยางก่อน” นายพลพูดขึ้นมา “ จากนี้ไปเราอย่าเพิ่งมาตรวจสอบที่นี่”
  ลูกน้องสองคนพยักหน้า พวกเขาเห็นด้วยกับคำพูดของหัวหน้า
  ลูกน้องคนหนึ่งพูดขึ้น “ กลับไปตรวจสอบ กองทัพของเราอาจจะมีสายของเผ่าสวรรค์อยู่ หากไม่มีใครส่งข่าวว่าเรามายังแก่นกำเนิดให้กับเผ่าสวรรค์รู้ งั้นเราคงไม่บังเอิญมาเจอกับพวกนั้น..”
  สีหน้าเขาบิดเบี้ยวไป
  ครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะโชคแล้ว การได้เจอกับเผ่าสวรรค์ครั้งนี้ พวกเขาอาจจะหนีกันไม่รอด
  สีหน้าของหัวหน้าเองก็บิดเบี้ยวไปเช่นกัน “ ตลอดหลายปีมานี้เราอยู่เขตตะวันออกมาโดยตลอด ฝ่ายกองทัพสังเกตการณ์ไม่รู้ว่าทำอะไรบ้าง…”
  นี่คือกองทัพสังเกตการณ์แบบเดียวกับเขตซื่อเซียว
  “ในด้านกองทัพแล้วกองทัพซื่อเซียวกับกองทัพเย่าหยางนั้นคล้ายกัน ในด้านของกองทัพประจำการแล้วเราเหนือกว่า มีแค่กองทัพสังเกตการณ์เท่านั้นที่เราด้อยกว่า…” นายพลพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าสลด “ ตลอดหลายปีมานี้กองทัพสังเกตการณ์เหมือนจะเกียจคร้านเกินไปแล้ว”
  เมื่อเป็นเรื่องกองสังเกตการณ์แล้ว มันมีเรื่องให้บ่นอีกมากมมาย
  พวกเขาเกือบจะตาย พวกเขาจะไม่บ่นให้กองทัพสังเกตการณ์ได้ยังไง ?
  โชคร้ายที่เขาเป็นแค่รองแม่ทัพลาดตระเวน ฐานะของเขาอาจจะเทียบกับแม่ทัพได้ แม้ว่าเขาจะไม่พอใจแต่ก็ได้แต่บ่นและแสดงท่าทีไม่พอใจออกมาแต่ไม่อาจจะสั่งการอะไรกองทัพสังเกตการณ์ได้
  “ ครั้งนี้ยังไงซะเราก็ต้องบอกกับแม่ทัพ ให้แม่ทัพออกตัวเรื่องนี้เพื่อให้กองทัพสังเกตการณ์รับผิดชอบบ้าง !” นายพลที่เป็นรองแม่ทัพพูดขึ้นมา “อีกอย่างแล้วทีมคังเฉียงก็ช่วยเราไว้ หากพวกเขาเป็นคนเผ่าสวรรค์ก็เพียงพอจะกำจัดเราได้ ครั้งนี้เราโชคดีแต่ครั้งหน้าล่ะ ?”   ใครจะไปรับรองได้ว่าพวกเขาจะโชคดีไปทุกครั้ง ?
  เรื่องนี้กองทัพสังเกตการณ์ต้องรับผิดชอบ !
  ….
  ในแก่นกำเนิดที่เงียบสงัด จางลู่ และคนอื่นๆยังคงเดินทางกันต่อ ที่นี่มีแต่ความมืดมิด, เงียบสนิท, ไม่มีชีวิต, ไม่มีเสียง มันเหมือนกับหุบเหวที่ไร้ก้น มันทำให้พวกเขารู้สึกสลดไปตาม
  หลังจากที่เดินทางมาได้กว่า 1 เดือนครึ่ง พวกเขาก็พบกับลำแสงขนาดใหญ่ตรงหน้า
  ลำแสงนี้ราวกับลำแสงในหุบเหวอันมืดมิด มันราวกับตัวแทนของชีวิตและความหวัง
  จางลู่และคนอื่นๆไม่ลังเลเดินทางเข้าไปในลำแสงนั้น ฉากรอบตัวพวกเขาเปลี่ยนไป ในพริบตาพวกเขาก็ปรากฏตัวขึ้นมาในหมู่บ้าน หมู่บ้านที่คล้ายกับหมู่บ้านกำเนิดในเขตซื่อเซียว มันรายล้อมไปด้วยทหารและผู้คนจำนวนมาก
  “ มีคนออกมา !” การเคลื่อนไหวของลำแสงนั้นทำให้ทุกคนหันมาสนใจ
  ตอนที่ผู้คนเห็นจางลู่และคนอื่นๆ พวกเขาก็พากันแปลกใจเพราะชุดของจางลู่และคนอื่นๆ ชุดของเขตเย่าหยางนั้นต่างจากเขตอื่นๆอย่างมาก ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ จางลู่ กับพวกไม่ได้ใส่ตราของเขตเย่าหยางแต่เป็นตราของเขตซื่อเซียวแทน
  ตราของทีมระดับราชา !
  ทุกคนพากันมองพวกเขาด้วยความแปลกใจและสงสัย
  “ ความแข็งแกร่งของที่นี่ดูเหมือนว่าจะเหนือกว่าเขตซื่อเซียว มีคนที่แข็งแกร่งจำนวนมาก จ้าวโกลาหลทั่วไปก็มีมากจนน่าตกใจ การพัฒนาของผู้คนนี้เหมือนจะดีกว่าในเขตซื่อเซียว”
  แน่นอนว่ามันตัดความเป็นไปได้ที่ว่าพื้นที่ของเขตซื่อเซียวนั้นเป็นต้นเหตุทำให้มีความแข็งแกร่งไม่มากนัก
  เพราะจำนวนยอดฝีมือทั้งสองฝ่ายนั้นถึงเขตซื่อเซียวจะมีน้อยกว่าแต่ก็ไม่มากนัก
  ตอนที่จางลู่กับพวกกำลังจะเดินหน้าต่อ มันก็มีทหารคนหนึ่งมาหยุดพวกเขาเอาไว้ “ นี่คือเขตเย่าหยาง หยุด” เขามองไปที่จางลู่กับพวก “ แสดงหนังสือด้วย”
  มีแค่การได้หนังสือทางการมาเท่านั้นที่จะเดินทางไปมาในเขตเย่าหยางได้อย่างอิสระ ไม่งั้นแล้วก็ต้องทำงานรับใช้เขตเย่าหยาง งานส่วนมากก็เป็นงานใช้แรงงานเป็นเวลา 1 ยุคถึงจะได้สิทธิ์เป็นพลเมืองของเขตเย่าหยางและได้ตราเขตเย่าหยางไป
  นี่คือราคาที่รับได้ มันไม่ได้สูงรึต่ำเกินไป
  จางลู่ ไม่ได้รีบร้อนและดึงเอาตราออกมาจากแหวนมิติ “ ใช่นี่ได้รึไม่ ?”
  ตราจักรพรรดิ !
  คนรอบๆพากันสงสัยและไม่รู้จักตรานี่
  ทหารและหัวหน้าทีมโดยรอบพากันหน้าถอดสี
  “ นี่มัน…ตราจักรพรรดิ !” เสียงของหัวหน้าทีมสั่น “ พวกท่าน….”
  ตราจักรพรรดินั้นแผ่พลังเศษเสี้ยวจิตของจักรพรรดิออกมา พลังจิตที่จักรพรรดิเท่านั้นที่มี มันไม่อาจจะมีใครปลอมแปลงได้
  จางลู่ได้เก็บตราและยิ้มออกมา “ เราไปได้รึยัง ?”
  “ ได้ พวกท่านไปได้แล้ว” ทหารคนเดิมพูดและโค้งให้ “ เชิญ !”
  จางลู่พยักหน้าก่อนจะเดินออกไป แต่ไม่นานเขาก็หยุดตรงหน้าหัวหน้าทหารที่นั่น “ พวกเจ้ารู้รึไม่ว่าจักรพรรดิเย่าหยางอยู่ที่ไหน ?”
  หัวหน้าทีมยังไม่ทันได้พูดอะไรก็มีแรงกดดันอันน่ากลัวกวาดไปทั่วหมู่บ้าน มันมีแสงศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นมาครอบคลุมที่นั่นเอาไว้ แสงนี้มีพลังจิตอันน่ากลัว ทุกคนเกิดความกลัวที่ไม่อาจจะควบคุมได้ขึ้นในใจราวกับเผชิญหน้ากับพระเจ้า
  “ จักรพรรดิ !”
  “ จักรพรรดิ !”
  ในพริบตาทหารทุกคนรวมถึงผู้คนโดยรอบต่างก็พากันคุกเข่าลงเพื่อยกย่องจักรพรรดิ
  คนหลายหมื่นคนในหมู่บ้านต่างก็พากันคุกเข่าลงกับพื้นราวกับทาสที่พบกับเจ้านาย
  ทุกคนพากันก้มหัวให้กับจักรพรรดิ จักรพรรดิของเขตเย่าหยาง !
  จางลู่และพวกยังคงยืนอยู่อย่างใจเย็นผิดกับผู้คนโดยรอบที่คุกเข่าอยู่
  “ เจ้าคือจักรพรรดิคังเฉียงรึ ?” เย่าหยางยืนอยู่ในอากาศแล้วถามขึ้นมา เสียงของเขาราวกับสั่นพ้องไปกับโลกไม่รู้ว่ามาจากทิศทางไหน
  จางลู่เงยหน้าขึ้นมองและเผยรอยยิ้มออกมา “ ข้าเป็นร่างแยกของจักรพรรดิคังเฉียง จางลู่ ข้ามาที่นี่ก็เพื่อพาเจ้าไปยังทะเลบรรพกาล ข้าไม่รู้ว่าเจ้าจะพร้อมรึไม่ ?”
  เย่าหยางรีบลงมาที่พื้นและมองไปที่จางลู่ เขาสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดขึ้น “ ข้ารอมานานแล้ว”
  ซื่อเซียวไม่ได้โกหก ทะเลบรรพกาลนั้นมีอยู่จริงๆ มันได้เวลาที่เขาจะได้เห็นแล้ว
  “ งั้นก็ดี” จางลู่ยิ้มออกมา “ เชิญ”
  เมื่อพูดจบจางลู่ก็กระดิกนิ้วสร้างวังวนขึ้นมาตรงหน้า
  เขาไม่ได้แสดงทักษะที่ดูประหลาดรึน่าแปลกใจแต่ก็สร้างวังวนที่เชื่อมต่อกับทะเลบรรพกาลขึ้นมาได้สำเร็จและง่ายดาย มันราวกับว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร
  “ วังวน…” เย่าหยางหรี่ตาลงแม้ว่าจะเตรียมใจเอาไว้แล้วแต่เมื่อเห็นวังวนี้จริงๆเขาก็ยังต้องตกตะลึง ยังไงซะที่นี่ก็เป็นเขตของเขา เขามีสิทธิ์สูงสุดที่นี่ แต่จางลู่กลับเมินเฉยอำนาจที่จำกัดโกลาหลนี้เอาไว้และสร้างวังวนนี้ขึ้นมาได้ การกระทำแบบนี้พลิกการรับรู้ของเขาไปอย่างสิ้นเชิง
  เย่าหยางที่อึ้งนั้นกวาดตามองไปรอบๆและพูดขึ้นมา “ข้า จักรพรรดิเย่าหยาง จะออกจากทะเลโกลาหล ข้าได้ทิ้งร่างแยกเอาไว้ดูแลที่นี่ในเมืองเย่าหยาง ไม่จำเป็นต้องตกใจไปไ
  ทันทีที่พูดจบ เย่าหยางก็ได้เดินเข้าไปในวังวน ต่อมาร่างของเขาก็หายไปในวังวนอย่างสมบูรณ์
  จิตอันสูงส่งที่ครอบคลุมทั้งเมืองเองก็หายไปด้วยเช่นกัน
  ��

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก