ระบบเจ้าสำนัก นิยาย บท 1966

“ เด็กน้อยรึ ?” ซื่อเซียวคิ้วขมวด “ เรนไน แม้ว่าเจ้าจะขึ้นมาเป็นจักรพรรดิแล้วแต่เจ้าก็ไม่อาจจะมองว่าเราเป็นเด็กน้อยได้ ?”
  จักรพรรดิจะยอมรับคำเรียกว่าเด็กน้อยได้ยังไง ?
  เรนไนพยักหน้า “ ใช่ พวกเจ้าน่ะเป็นถึงจักรพรรดิ มันไม่เหมาะที่จะเรียกพวกเจ้าว่าเด็กน้อย”
  แม้ว่าซื่อเซียวและคนอื่นๆจะโดนเรียกว่าเด็กน้อย แต่ในด้านความแข็งแกร่งและฐานะแล้วก็ไม่ได้ต่ำกว่าเรนไนเลยแม้แต่น้อย
  “ พวกเจ้ามาทำอะไรที่นี่ ?” จางหยูถามทั้งสามคน
  ซื่อเซียวเงียบไปชั่วครู่แล้วพูดขึ้น “ เราแค่อยากเข้ามาถามว่าจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลมาที่นี่รึไม่ ทำไมอยู่ๆจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลที่ยิ่งใหญ่ถึงมาที่นี่ได้ ?”   จางหยูยักคิ้ว “ พวกเจ้าอยากพบกับจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลรึ ?”
  “ ไม่ ไม่ใช่เช่นนั้น” ซื่อเซียวรีบพูดขึ้นมา “ ตัวตนที่ยิ่งใหญ่อย่างจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลนั้นเราจะกล้าไปรบกวนได้ยังไง ?”
  “ แล้วพวกเจ้ามาทำอะไรงั้นรึ ?”
  “ เราแค่สงสัย” เย่าหยางพูดขึ้น “ ว่าเกิดอะไรขึ้นถึงทำให้จ้าวแห่งทะเลบรรพกาลมาที่นี่ได้ ?”
  พวกเขารับรู้ถึงพลังอันไร้เทียมทานมาแล้ว พวกเขาไม่กล้าจะคิดอะไรเกินเลยต่ออีก
  “ งั้นรึ ?” จางหยูมองไปที่ซื่อเซียวและพูดขึ้น “ หากเป็นเช่นนั้น งั้นเจ้าลองถามจากเรนไนได้”
  เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนก็พากันแสดงสีหน้าหวาดกลัวและมองไปที่จางหยูด้วยสีหน้าสงสัยก่อนจะมองไปที่เรนไนอีกครั้ง
  มันเกี่ยวอะไรกับเรนไนงั้นรึ ?
  ช้าก่อนเรนไน !   พวกเขาพากันเบิกตากว้าง ก่อนจะพูดออกมาว่า “ เจ้าหมายความว่า…เรนไน ขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ก็เพราะฝีมือของจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลงั้นรึ !”
  พวกเขาหายใจถี่ขึ้นมาพร้อมกับความตกตะลึง
  “ เรนไน” อู่หมิงมองไปที่เรนไนแล้วพูดขึ้น “ ที่คังเฉียงพูดมานั้นเป็นความจริงรึ ?”
  เมื่อเห็นสายตาตกตะลึงของทุกคน เรนไนก็ตอบกลับโดยไม่ลังเล “ จ้าวแห่งทะเลบรรพกาลได้ให้พลังกับข้าเพื่อช่วยข้าขึ้นเป็นจักรพรรดิ”
  “ นี่…เป็นไปได้ยังไง…” ซื่อเซียวยากที่จะรับได้ “ จ้าวแห่งทะเลบรรพกาลนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน เขาจะมาสนใจแม่ทัพสูงสุดอย่างเจ้าไปทำไมกัน ?”
  ก่อนที่จ้าวแห่งทะเลบรรพกาลจะมาถึง เรนไนก็เป็นแค่แม่ทัพสูงสุด
  “ ทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ? เจ้าคิดว่าจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลนั้นใจแคบเหมือนเจ้ารึไง ?” เรนไนฮึดฮัดออกมา “ บางทีในสายตาของจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลแล้วข้าอาจจะเป็นแค่มดแต่พวกเจ้าจักรพรรดิเองก็ไม่ต่างอะไรจากมดไม่ใช่รึไง ?”
  ซื่อเซียวแสดงท่าทีโกรธออกมา แต่เขาก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้
  ต่อหน้าเรนไนคนเก่าแล้ว พวกเขาคิดว่าตัวเองสูงส่งในฐานะจักรพรรดิ แต่ต่อหน้าจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลแล้ว พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรจากจ้าวโกลาหลทั่วไปเลย
  “ หากพวกเจ้าภาวนาและสละจิต จ้าวแห่งทะเลบรรพกาลก็อาจจะมา” เรนไนพูดขึ้น “ แน่นอนว่าวิธีนี้ได้ผลแค่กับแม่ทัพสูงสุดเท่านั้น สำหรับพวกเจ้าแล้วเดาว่าแม้ว่าจะสละจิตแต่ก็ไม่อาจจะรับการตอบรับจากจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลเพราะจิตใจพวกเจ้าไม่บริสุทธิ์ ความจริงใจของพวกเจ้ายังมีอยู่รึไม่ ?”
  ในอดีตนั้นเขาต้องไว้หน้าพวกนี้บ้าง แต่ตอนนี้แม้ว่าหว่านเก่อจะไม่ออกตัวปกป้อง แต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวพวกนี้แม้แต่น้อย
  หากเป็นปัญหาก็แค่สู้ !
  แม้ว่าเขาจะเพิ่งขึ้นมาเป็นจักรพรรดิแต่เขาก็รู้สึกว่าความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าทั้งสามเลย แม้ว่าเขาจะแพ้แต่เขาก็หาใส่ใจไม่
  “ พอแล้วเรนไน ! เจ้าควรรักษาท่าทีของเจ้าบ้าง !” ซื่อเซียวหงุดหงิดขึ้นมา “ อย่าคิดว่าขึ้นมาเป็นจักรพรรดิแล้วเจ้าจะเท่าเทียมกับเราได้ ! เจ้าควรจะรู้ว่าเราขึ้นเป็นจักรพรรดิมาหลายยุคแล้ว ดังนั้นเจ้าไม่อาจจะทัดเทียมกับเราได้ เจ้าเป็นแค่จักรพรรดิหน้าใหม่ !”
  ตอนนั้นจางหยูก็คิ้วขมวดแล้วโบกมือ “ หากพวกเจ้ามีอะไรขัดแย้งกันก็ไปจัดการกันเอง อย่ามาทำให้ข้าต้องพลอยหงุดหงิดไปด้วย”
  เขาพูดไม่ไว้หน้าใครยิ่งกว่าเรนไนเสียอีก แต่ซื่อเซียวและคนอื่นๆก็ไม่กล้าจะปฏิเสธ เพราะกลัวว่าจะทำให้จางหยู โกรธ พวกเขาได้แต่มองค้อนเรนไนก่อนจะจากไป  “ พวกที่เก่งแต่รังแกคนอ่อนแอ” เรนไนเห็นพวกนั้นจากไปก็หัวเราะออกมา
  หว่านเก่อต้องกุมขมับแล้วเตือนขึ้นมา “ ท่านพี่ ทำไมเจ้าต้องไปมีเรื่องกับพวกนั้นด้วย ? ผ่านมาหลายปีแล้วเจ้ายังไม่เข้าใจนิสัยพวกนี้อีกรึ ?”
  แต่นางไม่ได้โทษเรนไน ยังไงซะเรนไนก็เป็นแม่ทัพสูงสุดมานานหลายยุค มันถือว่าดีกับการระบายความแค้นบ้าง
  เมื่อได้ยินแบบนั้นเรนไนก็ไม่ได้ตอบกลับอะไร เขาหันไปหาจางหยูแล้วพูดขึ้น “ บุญคุณของจักรพรรดิคังเฉียงนั้นข้าจะจดจำไว้ ในอนาคตหากเจ้าต้องการอะไรเรนไนจะไม่ปฏิเสธ”
  จางหยูชื่นชมเรนไนมากกว่าเก่า แต่เมื่ออีกฝ่ายรับปากว่าจะทดแทน จางหยูก็ไม่มีทางปล่อยโอกาสนี้ทิ้งไปอย่างแน่นอน
  “ ข้ายอมรับคำขอบคุณของเจ้า” จางหยูยิ้มออกมา “ แต่ตอนนี้ข้ายังไม่จำเป็นต้องให้เจ้าช่วย หากจำเป็นจริงๆแล้ว ข้าจะไม่เกรงใจแน่”
  เรนไนพยักหน้าตอบรับ “ ได้ ” หลังจากที่เงียบไปสักพักเรนไนก็พูดขึ้น “ ข้าขอโทษที่รบกวนท่านมานาน หากไม่มีอะไรแล้วเราขอตัวก่อน”
  “ ช้าก่อน ” จางหยูพูดขึ้น “ เมื่อเจ้าเป็นจักรพรรดิของทะเลบรรพกาลแล้ว เจ้าก็ควรหาที่เพื่อเปิดมิติลับด้วย”
  เรนไนยังไม่ทันได้ตอบกลับ แต่หว่านเก่อกลับก้าวออกมา “ ทะเลบรรพกาลนั้นเปิดมิติลับได้ด้วยรึ?”
  จางหยูยิ้มออกมา ก่อนจะพูดว่า “ แน่นอนว่าทำได้”
  “ งั้นทำไมเจ้า…” หว่านเก่อสับสน
  “ ข้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น” จางหยูยิ้มออกมา “ ข้าไม่เหมือนจักรพรรดิทั่วไป ข้าไม่จำเป็นต้องสร้างมิติลับขึ้นมาเพื่อพัฒนาการบ่มเพาะ แต่เรนไนไม่อาจจะทำเช่นนั้นได้ บางทีเรนไนอาจจะพัฒนาระดับด้วยการบ่มเพาะได้ แต่ความเร็วนั้นก็มีจำกัด บทบาทของมิติลับรึมิติภายนอกที่พวกเจ้าพูดถึงนั้นไม่อาจจะมองข้ามได้ นอกจากนี้แล้วการบ่มเพาะในมิติลับจะมีกฎของทะเลบรรพกาลคอยช่วย เดาว่าจ้าวแห่งทะเลบรรพกาลคงพอใจกับการที่มีคนบ่มเพาะในมิติลับมากกว่า”
  “ เข้าใจแล้ว” เรนไนโค้งให้ “ ขอบคุณที่บอกข้า ”
  แม้ว่าเขาจะเพิ่งขึ้นมาเป็นจักรพรรดิ แต่เพราะความสัมพันธ์กับหว่านเก่อจึงทำให้เขาเข้าใจเรื่องจักรพรรดิได้เป็นอย่างดี การเปิดมิติลับของหว่านเก่อเองเขาก็มีส่วนด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ได้แปลกใจกับเรื่องการเปิดมิติลับขึ้นมา
  หว่านเก่อถามขึ้นมาอีกครั้ง “ แต่นี่ไม่ใช่พื้นที่ของเจ้ารึ ? เรนไนเปิดมิติลับในพื้นที่ของเจ้าได้ด้วยรึ ?”
  “ ไม่เป็นไร ” จางหยูยิ้มออกมา “ แม้ว่าทะเลบรรพกาลและมิติลับนั้นจะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน แต่ก็อยู่คนละมิติ มันไม่ได้เกี่ยวข้องกัน ตราบใดที่เรนไนไม่ถือสา งั้นข้าก็ไม่ถือสา”
  เรนไนมองไปที่จางหยู เขาไม่รู้ว่าทำไมจางหยูถึงได้ช่วยเขาแบบนี้ เขาไม่รู้ว่าจางหยูมีเป้าหมายอะไร แต่เขารู้ว่าเขาติดค้างอีกฝ่ายอย่างมาก !
  เขาไม่อาจจะปฏิเสธเรื่องนี้ได้ !
  เรนไนสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วมองไปที่จางหยู “ แค่คำขอบคุณคงยังไม่เพียงพอ ข้าจะตอบแทนเจ้าแน่ หว่านเก่อไปกันเถอะ”
  หลังจากที่พูดจบ เรนไนก็ได้จากไปพร้อมกับหว่านเก่อ
  “ ทดแทนรึ ?” จางหยูยิ้มออกมา “ ใช่ เจ้าเป็นคนของข้าแล้ว ข้าจะใช้เจ้าไม่ได้ได้ยังไง ?”
  หลังจากที่ได้จิตของ เรนไน มาแล้ว เขาก็เป็นเจ้าของชีวิตของ เรนไน เขาอ่านความคิดของ เรนไน ออก เรนไน ไม่อาจจะขัดคำสั่งเขาได้  ….
  “ท่านพี่” หว่านเก่อตามหลังเรนไนไปติดๆ “ เมื่อเจ้าขึ้นเป็นจักรพรรดิได้แล้ว เจ้าทำตามที่เจ้ารับปากได้รึยัง ?”
  เรนไนชะงักไป เขาเงียบไปชั่วครู่แล้วถามขึ้นมา “ รับปากอะไรกัน ?”
  หว่านเก่อเดินไปตรงหน้าเรนไนแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา “ เจ้าคงไม่ได้จะทิ้งข้าหรอกนะ ? ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะลืมคำสัญญาของเรา…”
  เรนไนเงียบไปชั่วครู่และถอนหายใจออกมา “ ข้าไม่ใช่คู่ครองที่ดี ทำไมเจ้าถึงยังยึดมั่นกับข้า ? เอาจริงๆแล้วแม้ว่าข้าจะดูถูกซื่อเซียวกับคนอื่นๆแต่พวกนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าข้าเลย พวกนั้นขึ้นเป็นจักรพรรดิได้ พวกนั้นถือว่ามีความสามารถไม่ใช่รึ ? ไม่ว่าเจ้าจะไม่สนใจพวกนั้นแต่อันที่จริงจักรพรรดิคังเฉียงก็ไม่ได้แย่ ข้านั้นต่ำต้อย เจ้ากับจักรพรรดิคังเฉียงอาจจะเหมาะสมกันมากกว่า …”
  “ คังเฉียงรึ ?” หว่านเก่อพูดขึ้นมา “ ข้ายอมรับว่าคังเฉียงน่ะคือคนที่ดูดี หากข้าไม่รู้จักเจ้า บางทีข้าอาจจะรักเขาไปแล้ว แต่โชคชะตาก็เป็นเช่นนี้ เจ้าน่ะได้ใจข้าไปแล้ว มันไม่มีที่ว่างให้กับคนอื่นอีกต่อไป หากเจ้ายังคิดจะหนี งั้นข้าจะไม่บังคับเจ้า ข้าจะตัดขาดจากความรัก ข้าจะอยู่กับความโดดเดี่ยวไปทั้งชีวิตไม่คิดจะรักใครอีก….”
  นางเงยหน้าขึ้นและยิ้มออกมา “ เจ้าต้องการแบบนี้ใช่รึไม่ ?”
  เรนไนปวดใจขึ้นมาทันที
  เขากลัวว่าเขาจะไม่อาจจะมอบความสุขให้กับหว่านเก่อได้ แต่เขาไม่อยากให้หว่านเก่อต้องมาใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป
  “ ข้า…” เรนไนอ้ำอึ้ง เขาจ้องไปยังผู้หญิงตรงหน้าพร้อมใจที่เริ่มละลาย “ ข้าจะพยายามเป็นสามีที่ดี แต่ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่รู้สึกผิดกับการตัดสินใจนี้ในอนาคต”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบเจ้าสำนัก